จิตใจอยู่กรุงเทพ แต่ตัวไปทำงานต่างประเทศที่ฮ่องกง 3 เรื่อง

บทความแนวหน้าฉบับวันเสาร์ ที่ 18 มกราคม 2557

ติดตามอ่านย้อนหลังได้ที่ลิงก์ข้างนี้ครับ

http://www.naewna.com/columnist/1104

จิตใจอยู่กรุงเทพ แต่ตัวไปทำงานต่างประเทศที่ฮ่องกง 3 เรื่อง

ผมรับปากเรื่อง ASEAN-Hong Kong, GMS Cooperation กับรองนายกหญิงฮ่องกง Carrie Lam ไว้ตั้งแต่เดือนตุลา 2556 ว่าจะมาบรรยายให้นักธุรกิจที่ฮ่องกง

แต่ก่อนมาไม่นึกว่า คุณสุเทพ เทือกสุบรรณและคณะจะ Occupy กรุงเทพฯ เลยต้องคิดถึงประเทศไทยและอดทนแต่ทำงานในต่างประเทศให้สำเร็จด้วย

อดเป็นห่วงประเทศไม่ได้ เพราะนายกปู ท่านไม่ยอมออก จะดันทุรังเลือกตั้ง 2 ก.พ.ทั้งที่ทำผิดกฎหมาย ผิดรัฐธรรมนูญทุกๆ เรื่อง แถมยังจะใช้เงิน 3.8 พันล้านอย่างไร้ประสิทธิภาพ

คงต้องสู้ต่อไป ความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ไม่ใช่เฉพาะคนเป็นกลางเท่านั้นคงรับกับระบอบทักษิณอีกต่อไปไม่ได้แน่

ผมเขอถือโอกาสเล่าถึงการทำงานที่ฮ่องกงมาให้ทราบเพื่อเป็นความรู้ใหม่ๆของท่านผู้อ่าน ก่อนอื่น ขอขอบคุณคุณวงศ์ทิพย์ ชุ่มภาณี ประธานสภาธุรกิจไทยฮ่องกงที่กรุณาติดตามและสนใจผลงานของผมในระดับนานาชาติโดยเฉพาะในอาเซียนและ GMS ให้ผมมีส่วนร่วมสร้างความสัมพันธ์กับรัฐบาลฮ่องกง ซึ่งจุดสำคัญ ผมไม่ใช่พูดเฉยๆ แต่ต้องทำให้สำเร็จ ผมได้ทำงานทางวิชาการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศในอาเซียนโดยเฉพาะ GMS มาโดยตลอด ผมจะร่วมมือกับรัฐบาลฮ่องกงทำต่อให้ได้

ได้พูดที่กรุงเทพเรื่องฮ่องกง 1 ครั้ง ได้พบกับคุณ Carrie Lam รองนายกฮ่องกงที่มาเมืองไทยซึ่งท่านก็ดีใจที่มีโอกาสเชิญผมมาพูดที่ให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและนักธูรกิจของฮ่องกงได้ฟัง ถึงอนาคต อาเซียน+กรุงเทพ

ผมมาฮ่องกงทำ 3 อย่าง

เรื่องแรกคือมาเป็นแขกของคุณวงศ์ทิพย์โดยเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฮ่องกงซึ่งเรียกว่า ASIAN Financial Forum (AFF) ซึ่งมีทุกๆปี ปีนี้มีคนจากเอเชียและจากทั่วโลกกว่า 2,000 คน เปิดงานโดยท่านนายกของฮ่องกง ซึ่งเป็นการเน้นแนวคิดว่า เศรษฐกิจว่าปี 2014 จะเป็นอย่างไร

ภาพบรรยากาศงาน ASIAN Financial Forum

เป็นที่น่าดีใจว่า เศรษฐกิจโลกปี 2014 เริ่มฟื้นตัว ผู้ฟังกว่า 70% มีความรู้สึกเป็นบวกกับเศรษฐกิจโลกเพราะ

(1) เศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นแต่ยังมีปัญหาการว่างงาน

(2) ยุโรปถึงจะไม่ขยายตัวมากแต่ก็หลุดพ้นจากวิกฤติยูโร การว่างงานอยู่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เช่น วิกฤติหนี้เก่าในกรีซ เป็นต้น

(3) เอเชียในการประชุมครั้งนี้ก็เน้นหัวข้อ Powering World Economy คือให้เอเชียขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกไปด้วย

คือถ้าไม่มีเอเชียช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ เศรษฐกิจโลกก็จะไม่ขยายตัวเท่าที่ควรจะเป็น

กลับมาดูเศรษฐกิจไทย น่าเศร้ามาก

-ไม่มีใครพูดถึงเศรษฐกิจไทยเลยเพราะยุคคุณยิงลักษณ์มีแต่ประชานิยม นิรโทษกรรม จำนำข้าว ประเทศไทยในยุคยิ่งลักษณ์หลุดจากวงจรโลก

-ถูกมองว่าเป็นเศรษฐกิจบ๊วยในเอเชียด้วยซ้ำ

ประเทศไทยถูกถามมากเรื่องการเมืองจะจบอย่างไรไม่มีใครสนใจเรื่องเศรษฐกิจเลย

เศรษฐกิจไทยประมาณปี 2013 อาจขยายได้ 2.6% หรืออาจจะต่ำกว่านั้น ส่วนของประเทศอื่นๆ ดูเหมือนว่า ขยายได้ดีกว่ามาเลเซีย 5% ซึ่งของฮ่องกง 3.8% ที่น่าสนใจก็คือ บทบาทของจีนในอนาคตว่าจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกไปได้อย่างไร คาดว่า จีนยังจะมีพลังสำคัญในเศรษฐกิจในโลกต่อไป ปี 2013 ขยายได้ 7.6%

ในอนาคตเงินหยวนของจีนจะเป็นเงินสกุลที่มีบทบาทสูงขึ้นต่อโลกภายนอก เศรษฐกิจจีนใหญ่ขึ้น เงินหยวนก็ต้องเป็นเงินสกุลระดับนานาชาติมากขึ้น

ถ้าการเมืองไทยปฏิรูปเสร็จก็น่าจะมาดูว่า ผู้บริหารธนาคารชาติของไทย มองบทบาทของเงินหยวนโดยเปรียบเทียบกับเงินดอลล่าร์จะเป็นอย่างไร

โดยช่วง 2 วัน ผมมีโอกาสได้ฟังคิดว่า การเป็นนักคิดหรือนักวิชาการที่ดี จะต้องติดตามและฟังความคิดดีๆเสมอ ไม่มีใครแก่เกินเรียน นำสิ่งเหล่านั้นมาผสมผสานกับความคิดของผมมาโดยตลอดและมาแบ่งปันกับผู้อ่านเช่นในบทความของแนวหน้าเป็นต้น

แม้ผู้อ่านไม่ได้ไปแต่ได้อ่านว่าผู้นำระดับเอเชียเขาพูดอะไรกัน

ส่วนประเด็นที่ 2 คือ มีโอกาสได้เยี่ยมหน่วยงานปปช.ของฮ่องกง เขาเรียกองค์กรว่า ICAC มาจากคำว่า Independent Commission Against

Corruption ได้รับความรู้มากเพราะช่วงเวลา 40 ปี จากคอรัปชั่นมากมายในฮ่องกงจนมองเป็นของธรรมดา ในปัจจุบันเกือบหายหมดเพราะองค์กรแห่งนี้งานที่เขาทำจริงๆแล้ว แบ่งเป็น 3 เรื่อง

-ให้ความรู้กับประชาชนถึงผลร้ายของคอรัปชั่น

-ศึกษาวิธีการป้องกันคอรัปชั่น

-ตรวจสอบกรณีต่างๆและนำขึ้นสู่ศาล (ฝ่ายสืบสวน)

คณะสภาธุรกิจการค้าไทย-ฮ่องกง เยี่ยม ICAC หรือ Independent Commission Against Corruption

องค์กรปราบปรามคอรัปชั่นในฮ่องกง ข้อดีของเขา เขาสามารถสร้างกระแสสังคมให้ลดการฉ้อราษฎร์บังหลวงไปได้เกือบ 100% ปัจจุบันหลายๆประเทศใช้ฮ่องกงเป็นตัวอย่าง ผมชอบแนวคิดซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎี 8K’s ของผม คือฮ่องกงจะมีการสร้างผู้นำเน้นคุณธรรม จริยธรรม (Ethical Leadership) ทุกๆระดับ ซึ่งคงจะต้องทำงานร่วมกันต่อไปว่า จะพัฒนาทุนจากจริยธรรมร่วมกับฮ่องกงได้อย่างไร ผมได้เสนอว่า จะจัด ASEAN+1 Youth Camp ครั้งที่สองร่วมจีน+ฮ่องกง เรียนรู้เรื่องจริยธรรมจากประสบการณ์ฮ่องกงมากขึ้น

งานแก้ปัญหาคอรัปชั่นของฮ่องกงได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลแต่ไม่สนับสนุนในเมืองไทย รัฐบาลไทยคอรัปชั่นซะเองเลยต้องมามองระบบของปปช.ประเทศไทย ระบบเศรษฐกิจอ่อนแอ ความสามารถในการแข่งขันแย่ลง ไม่ลงทุนระยะยาว จ้องแค่เรื่องเงินกู้ 2 ล้านล้านเพื่อโกงส่วนใหญ่

เรื่องการพูดกับผู้นำทางธุรกิจและข้าราชการระดับสูงเรื่อง ASEAN-Hong Kong Cooperation โดยเน้น GMS ผมจะขยายความในอาทิตย์หน้า

คณะสภาธุรกิจการค้าไทย-ฮ่องกง เยี่ยม ICAC หรือ Independent Commission Against Corruption

คณะสภาธุรกิจการค้าไทย-ฮ่องกง เยี่ยม ICAC หรือ Independent Commission Against Corruption