รัฐบาลอย่าใช้ความรุนแรงกลบปัญหาจำนำข้าวและเรื่อง ยิ่งลักษณ์โดน ปปช.ชี้มูล

บทความจากหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2557

ติดตามอ่านย้อนหลังได้ที่ลิงก์ข้างล่างนี้ครับ

http://www.naewna.com/columnist/1104

รัฐบาลอย่าใช้ความรุนแรงกลบปัญหาจำนำข้าวและเรื่อง ยิ่งลักษณ์โดน ปปช.ชี้มูล

7 วันที่ผ่านไปประเทศไทยมีแต่เรื่องความรุนแรง ความสูญเสียอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีกลุ่ม กปปส.ที่จังหวัดตราด หรือระเบิดที่ราชประสงค์ มีการต่อสู้กันเกือบทุกวัน มีผู้บาดเจ็บล้มตามรวมทั้งเด็กด้วย

แต่ปัญหาความเลวร้ายของนโยบายที่ล้มเหลวเรื่องการจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังไม่มีท่าทีว่าจะแก้ไขได้ ปล่อยให้ชาวนาที่จำนำข้าวไปแล้ว แต่ยังไม่ได้เงินรอความช่วยเหลือจากรัฐบาลอยู่

จึงขอเตือนสติรัฐบาลว่า กรุณาหาทางแก้ปัญหาของชาวนาอย่างเร่งด่วน ที่มีผู้ประท้วงไม่ใช่เพราะไม่ช่วยชาวนาเท่านั้น แต่เพราะไม่อยากช่วยโครงการมหาโกง ควรศึกษาความล้มเหลวของนโยบายดังกล่าวและแก้ไข โดยไม่ต้องนำเอาปัญหาความรุนแรงเข้ามาแทรกเพื่อกลบความสนใจจากประชาชน รวมทั้งกลบคดีคุณยิ่งลักษณ์ที่ ปปช.ด้วย

การใช้ความรุนแรงเพิ่มขึ้น เพื่อหวังจะให้สังคมหันมาสนใจปัญหาเหล่านี้ โดยสร้างกระแสความรุนแรงนั้นว่า เกิดขึ้นจากฝ่าย กปปส.บ้าง เป็นเรื่องของมือที่สามบ้าง ไม่เคยพูดว่าฝ่ายรัฐบาลนั่นเองแหละเป็นผู้นำที่มีผลงานรุนแรงในอดีต ตั้งแต่ปี 2553 ระบอบทักษิณได้ฝึกผู้คนจำนวนมากหรือที่เขาเรียกว่าชายชุดดำและอาจจะมีกองกำลังจากต่างแดนซึ่งทุกคนและทหารเข้าใจดี

ผมวาดภาพให้เห็นว่าระบอบทักษิณเป็นระบอบที่ใช้เงิน ใช้อิทธิพล กำลังเกิดการต่อสู้เพื่อให้ตัวเองอยู่รอด เมื่อเวลาผ่านไปมวลมหาประชาชนเห็นถึงความเลวร้ายเหล่านี้ว่าระบอบทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำเพื่อความอยู่รอดของกลุ่มตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อประเทศชาติหรือมวลมหาประชาชน ประชาชนจึงยังยึดมั่นที่จะปฏิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้ง เป็นข้อเสนอที่ทุกฝ่ายน่าจะยอมรับได้เพียงแต่ว่า ข้อเสนอดังกล่าวอาจจะทำให้การเลือกตั้งหลังการปฏิรูป ระบอบทักษิณอาจจะไม่ได้กลับมาเป็นรัฐบาล ดูได้จากผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 คะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยจาก 15 ล้านคน หายไปเกือบครึ่งหนึ่งคือ 7 ล้านคน ได้แค่ 8 ล้านคนและพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ลงแข่งด้วย

คุณทักษิณรู้ตัวแน่นอนว่า ต้องยึดแนวทางเดิมไว้ จึงพยายามให้ผลการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 2557 เป็นแนวเพื่อต้องการจะเป็นรัฐบาลต่อไป ปัจจุบันไม่ทราบว่ามีท่าทีว่า ผลเลือกตั้งจำนวน ส.ส. 95% ได้เมื่อไหร่ ซึ่งเป็นแนวทางที่ริบหรี่มาก

การที่คุณยิ่งลักษณ์ไม่ยอมถอย ไม่สนใจ ทั้งๆที่มีปัจจัยและปัญหามากมายที่ชี้มุ่งไปได้ที่ตัวคุณยิ่งลักษณ์เอง ทั้งคดีทุจริตจำนำข้าวที่ ปปช.ชี้มูลแล้ว หรือคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญอีกหลายคดี ชี้ไปที่จุดจบของนายกฯยิ่งลักษณ์ก็คือคุก หรือต้องหนีไปต่างประเทศแน่นอน

การใช้ความรุนแรงจึงเป็นวิธีผ่อนคลายความกดดันของระบอบทักษิณได้ระดับหนึ่ง เพื่อเป็นการต่อรองกับฝ่าย กปปส.หรืออาจจะทำให้มวลมหาประชาชนหวาดกลัวถอยไปในที่สุด

จึงขอวิงวอนอย่าใช้ความรุนแรง จนขยายวงกว้าง ขอให้เสียสละเพื่อประเทศบ้างและมองประเทศเป็นหลัก ซึ่งก็เป็นการขอร้องที่เกือบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะระบอบทักษิณและคุณยิ่งลักษณ์ต้องการรักษาอำนาจของตัวเองไว้ เพื่อกลุ่มของตัวเองเท่านั้น

แต่ผมเชื่อว่า ความดีต้องชนะความชั่ว อาจต้องใช้เวลาหน่อยและความอดทน มีตัวอย่างให้เห็นแล้ว ประเทศยูเครนขนาดมีแสนยานุภาพของรัสเซียอยู่เบื้องหลังและผู้ยิ่งใหญ่อย่างประธานาธิบดีปูติน ช่วยเหลือข้างหลังเต็มที่ ก็ยังแพ้มวลมหาประชาชนยูเครนที่คัดค้านมาหลายเดือนและในที่สุด วิกตอร์ ยานูโควิช ประธานาธิบดียูเครนก็ต้องลาออกเพราะแพ้คะแนนเสียงในสภา ลาออกไปแล้วพบว่า มีการฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างมหาศาลคล้ายประเทศไทย แต่ที่ยู่เครนคนตายไป เกือบ 100 คน

เหตุการณ์แบบยูเครนเป็นตัวอย่างที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยต่อจากนี้แน่นอน แต่เชื่อได้ว่าพลังของมวลมหาประชาชนทุกกลุ่ม ทุกภาคไม่ยอมระบอบทักษิณอีกต่อไปประชาชน สังเวยความบ้าอำนาจของทักษิณและยิ่งลักษณ์ไปแล้วกี่ศพ และเป็นเด็กกี่ศพ

ยิ่งในช่วงหลังๆ พยายามจะระดมมวลชนเสื้อแดงแสดงจุดยืนแบบไร้ยางอายและไร้คุณธรรม สร้างความแตกแยกและสร้างค่านิยมที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะกลายเป็นผลร้ายในที่สุดเช่น จะแบ่งแยกดินแดนเป็นประเด็นใหม่ทั้งภาคเหนือ และภาคอีสาน เคยถามประชาชนส่วนใหญ่ในภาคเหล่านี้หรือเปล่า?

หรือมีผู้นำแดงบางคนกล้าพูดว่าเด็กตายก็สมควรแล้ว เพราะเป็นการแก้แค้น กปปส.ซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง จึงจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

ผมขอจบบทความวันนี้โดยเอาภาพน่ารังเกียจของนายกฯยิ่งลักษณ์ในการไหว้ศพตำรวจที่ระยองให้เห็นถึงศักยภาพอันเลวร้ายในทุกด้านของนายกฯไทยที่ชื่อ ยิ่งลักษณ์

จีระ หงส์ลดารมภ์