การเหยียดผิวสี.............ยอมรับยอมรัก

การสมานฉันท์และสันติสุข ไม่ได้เกิดขึ้นจากสุนทรพจน์อันไพเราะ หรือตัวอักษรที่พร่ำพรรณาอย่างสวยงาม แต่มันเกิดขึ้นได้จากการที่คู่ขัดแย้งต่างก็ลดทิฎฐิลง ลดโอกาสในการทำร้ายฝ่ายตรงข้าม ลดความเครียดแค้นชิงชัง รู้จักการเข้าถึงซึ่งกันและกัน แม้ว่าจะทำได้ยาก แต่เมื่อก้าวข้ามไปได้ครั้งหนึ่ง ก็จะทำให้มีก้าวต่อไป ที่จะสร้างความก้าวหน้าและทำได้อย่างฮึกเฮิม

ในปีค.ศ.1995 การแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลก ได้จัดขึ้นที่ประเทศแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นเจ้าภาพเดี่ยว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนในประเทศนี้อย่างยิ่ง และขณะเดียวกัน เกมกีฬารักบี้ ก็กำลังเป็นตัวจักรสำคัญที่จะทำให้เกิดสันติสุข และลบความขัดแย้งในประเทศเจ้าภาพด้วยเช่นกัน

ที่จริงรักบี้ทีมชาติของแอฟริกานั้น เป็นคนผิวขาวล้วน มีชื่อเสียงและเป็นที่ภาคภูมิใจของคนผิวขาวในแอฟริกาด้วย แต่ครั้งเนสัล เมนดาล่า ได้เป็นประธานาธิบดีผิวดำ พลเมืองผิวดำค่อนประเทศ ก็พากันเรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อทีมรักบี้ที่ชื่อ “Springboks”เสีย ด้วยเจตนาเป็นการจะได้ลดเกียรติ และอัตลักษณ์ของคนผิวขาวไปด้วย แต่ทว่า ด้วยจิตใจอันหนักแน่นของผู้นำเช่น เนสัล แมนเดล่า ที่คิดแต่จะสร้างความสมานฉันท์ ให้เกิดในแผ่นดินของตนอย่างแท้จริง จึงตัดสินใจในสภา ไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงใดใดของทีม “Springboks” นอกจากนี้ ยังขอให้ทีมนี้ เข้าแข่งขันในนามของประเทศแอฟริการอย่างเต็มภาคภูมิด้วย

(ภาพจากinternet)

เมื่อได้รับเกียรติคืนมา และไม่ต้องถูกหยามหมิ่นจากชาวผิวดำ โดยเฉพาะผู้นำผิวดำของเขา จึงเป็นการสร้างการยอมรับครั้งยิ่งใหญ่ ฉะนั้น เมื่อถูกขอให้ไปเยี่ยมเยียน ความเป็นอยู่ของคนผิวดำบ้าง นักกีฬาทีมนี้จึงเต็มใจอย่างยิ่ง พอถึงวันแข่งขัน คนแอฟริกาทั้งประเทศ จึงลืมความขัดแย้ง เครียดแค้นไปชั่วขณะ และรอชมรักบี้ชิงแชมป์โลกที่แข่งขันระหว่างแอฟริกา และนิวซีแลนด์อย่างตั้งอกตั้งใจ

ทีมรักบี้แอฟริกาเป็นรองทีมนิวซีแลนด์ การแข่งขันเกือบตลอดเกม จึงเต็มไปด้วยความจดจ่อภาวนาของคนแอฟริกาทั่วประเทศ นักกีฬาที่เป็นรองจึงหนื่อยมาก แต่ก็สู้สุดใจ นิวซีแลนด์เล่นได้ดี และนำตลอด จนเหลือเวลา 7 นาทีสุดท้าย นิวซีแลนด์ก็นำอยู่ คนแอฟริกาทั้งที่ชมอยู่ทางบ้าน และในสนาม หันมาสบตากัน โดยไม่ได้มองเห็นความแตกต่างของสีผิว เพียงแค่อยากจะบอก อยากจะร่วมด้วยช่วยกันส่งแรงใจให้นักกีฬาแอฟริกาเอาชนะนิวซีแลนด์ให้ได้เท่านั้น แต่ความพยายามนั้นก็ริบหรี่เต็มที แต่ปรากฏว่ามีการต่อเวลาที่ทดออกไป ใครจะเชื่อว่าแรงอธิษฐานมีจริง ทีมรักบี้เจ้าภาพ สามารถทำคะแนนนำคู่ต่อสู้ไปได้ 15 ต่อ 12 ในห้วงเวลาสั้นๆนั้นเอง

เสียงนกหวีดกรีดเสียงยาวจากกรรมการ แสดงอาณัติสัญญาณให้รู้ว่าหมดเวลาลงแล้ว เท่านั้นเองคนแอฟริกาทั้งประเทศก็โห่ร้องยินดีอย่างสุดประมาณ ต่างโผเข้ากอดกันไม่ว่าคนข้างตัวนั้นจะเป็นคนต่างผิวกันหรือไม่ก็ตาม ภาพเหล่านั้น เป็นที่ประทับใจของคนทั่วโลกที่กำลังชมการถ่ายทอดอยู่ สันติภาพระหว่างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้นแล้วที่นี่ แอฟริกา และประธานาธิบดีเนสัล แมดาล่า ลงไปมอบถ้วยแชมป์โลก โดยสวมเสื้อกีฬาหมายเลข 6 อันเป็นหมายเลขเดียวกับโค้ชทีมรักบี้แอฟริกา หมายความว่าเขาได้แสดงให้เห็นว่า เขาเต็มใจสวมใส่เสื้อทีม “Springboks”อย่างเต็มใจ หมดความเคลือบแคลงใจต่อกันทันที

( ภาพจาก Internet)

ที่สำคัญคนกลางหรือผู้นำต้องเที่ยงธรรม ไม่เอนเอียงฝักใฝ่ฝ่ายใด เพื่อจะลดความหวาดระแวง และสร้างความเคารพนับถือต่อผู้นำอย่างจริงใจ เนสัล แมนเดล่า เป็นต้นแบบของการสร้างความสมานฉันท์อย่างแท้จริง และยังมีหลายกิจกรรม ที่เขาสร้างเพื่อให้คนแอฟริการักกัน ยอมรับกัน

( ภาพจากinternet )

ผู้เขียนจะได้นำมาเล่าสู่กันฟังในโอกาสต่อไปค่ะ

เขียนใน GotoKnow โดย ตันติราพันธ์
ใน เล่าสู่กันฟัง

คำสำคัญ (Tags): #ประธานาธิบดีเนสัล แมนเดล่า#ประเทศแอฟริการใต้#ปัญหาความขัดแย้งแห่งสีผิว

หมายเลขบันทึก: 569398เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2014 22:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2014 22:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่าน