nui
นาง เสาวลักษณ์ พัวพัฒนกุล

ชวนอ่านหนังสือ “บันทึกลับของแอนน์ แฟร้งค์”


          

          แอนน์ แฟร้งค์ เป็นเด็กหญิงชาวยิว เกิดและเติบโตในแฟรงเฟิต เยอรมัน เมื่ออายุ ๓ ขวบอพยพหนีภัยนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ จากเยอรมันไปอยู่เนเธอร์แลนด์กับครอบครัว ประกอบด้วยพ่อ (อ๊อตโต) แม่ (อิดิธ) พี่สาว (มาร์กอท) เมื่อเยอรมันเข้ายึดครองเนเธอร์แลนด์ ครอบครัวของแอนน์เข้าไปหลบอยู่ในที่ซ่อนลับบนตึกชั้น ๓-๔ ของอาคารสำนักงานแห่งหนึ่ง ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนๆ ชาวเนเธอร์แลนด์

          แอนน์ได้รับไดอารี่เป็นของขวัญวันเกิดจากพ่อ เธอเริ่มเขียนบันทึกแรกเมื่อวันที่ ๑๒ มิ.ย. ๑๙๔๒ อายุ ๑๔ ปี ก่อนย้ายเข้าที่ซ่อนแค่เดือนเดียว

         ในที่ซ่อนมีคนอยู่ ๘ คน คือครอบครัวของแอนน์ ๔ คน ครอบครัววานดาน ๓ คน และนายดุสเซิ่ลที่เป็นหมอฟัน

          แอนน์เขียนเล่าชีวิตความเป็นอยู่ในที่ซ่อน กิจวัตรประจำวัน ความรู้สึก นึกคิดของตัวเอง ต่อสงคราม ที่ซ่อน ความเป็นยิว และอารมณ์รักอันอ่อนหวาน จากบันทึกแรกจนบันทึกสุดท้ายในวันที่ ๑ สิงหาคม ๑๙๔๔ เราได้เห็นพัฒนาการของความคิดที่ลุ่มลึกขึ้นเรื่อยๆ มองสรรพสิ่งทั้งหลายในที่ซ่อนอันน่าอึดอัดคับข้องจากมุมมองของเด็กหญิงที่ค่อยๆ เติบโตทางความคิดอย่างน่าทึ่ง

          เป็นเพราะการเป็นนักอ่านของแอนน์ และพรสวรรค์ทางการเขียน ความช่างคิด ช่างวิเคราะห์ และความฉลาดลุ่มลึก ทำให้เราคนอ่านได้เข้าถึงสภาพความเครียด ความทุกข์ที่ค่อยๆ ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูก และเพื่อนบ้านที่ต้องร่วมกินนอนขับถ่ายในที่แคบๆ ร่วมกันกว่า ๒ ปี กิจวัตรทุกอย่างที่เกิดเสียงต้องเคร่งครัดตามกำหนดเวลาที่ไม่มีคนอยู่ข้างล่าง เพื่อมิให้เกิดเสียงใดๆ ให้ล่วงรู้

         เมื่อฉันอ่านมาถึงบันทึกสุดท้ายของวันที่ ๑ สิงหาคม ๑๙๔๔ แอนน์วิเคราะห์ตัวเองว่ามี ๒ ด้าน ด้านหนึ่งเพื่อความพึงพอใจของพ่อแม่ กับอีกด้านที่เป็นตัวตนที่เรียกหาอิสรภาพ เป็นการพรรณนาที่แสนเศร้าและอึดอัด

         “.....แล้วก็พยายามคิดหาหนทางต่อไปที่จะให้เป็นดังที่ฉันอยากเป็น ในสิ่งที่จะเป็นได้ ถ้า...ถ้าในโลกนี้ไม่มีใครอื่นร่วมอยู่ด้วย”

         นั่นคือประโยคสุดท้ายในบันทึกของแอนน์ แฟร้งค์

         เมื่ออ่านจบ...ฉันนิ่งงันด้วยจินตนาการที่เกาะติดสภาพการอยู่ในที่ซ่อนของเด็กหญิงที่น่าทึ่งคนหนึ่ง ไม่แปลกใจที่ผู้แปล (คุณสังวรณ์ ไกรฤกษ์) เล่าว่า ครั้งหนึ่งมีการนำเรื่องนี้ไปสร้างเป็นละครแสดงในอัมสเตอร์ดัม สมเด็จพระราชินีจูเลียน่าเสด็จไปทอดพระเนตรรอบปฐมทัศน์ หลายๆ ฉากมีเสียงสะอื้นจากผู้ชม.... ละครจบในฉากที่ตำรวจลับมาเคาะประตูบุกเข้าไปจับตัวคนทั้ง ๘ คนดูกรีดร้อง นิ่งงัน...

          หลายๆ ข้อความในบันทึกสะท้อนการมีจิตใจดีของแอนน์  การเรียกร้องสิทธิเสมอภาคของสตรี  การเรียกร้องสันติภาพ  สงคราม  ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูก  มุมมองอันเจ็บปวดที่ชาวยิวถูกกดขี่ราวไม่ใช่คน  คุณค่าของการอ่าน  ความสัมพันธ์ของหนุ่มสาว  ความคิดก้าวหน้าไม่ยอมใครของแอนน์ทำให้เธอถูกมองว่าเป็นผู้ก่อความขัดแย้ง ฯลฯ  

          แทบไม่น่าเชื่อว่าฉันกำลังอ่านบันทึกของเด็กหญิงอายุ ๑๔- ๑๕ ปี

          บทกวีที่พ่อเขียนให้แอนน์ในวันเกิดปีที่ ๑๕ ผู้แปลถอดความได้ไพเราะกินใจจนฉันน้ำตาซึม

          แอนน์เขียนบันทึกสุดท้ายวันที่ ๑ สิงหาคม ๑๙๔๔ ในวันที่ ๔ สิงหาคม ตำรวจลับบุกเข้าจับกุมคนทั้ง ๘ ไปกักขัง รวมเวลาที่อยู่ในที่ซ่อนนาน ๒ ปี ๑ เดือน แอนน์เสียชีวิตด้วยโรคไทฟอยย์ตามหลังมาร์กอทไม่นาน มีเพียงพ่อของแอนน์คนเดียวที่รอดชีวิตจากค่าย เขาได้รับสมุดไดอารี่ของลูกสาวที่ผู้ช่วยเหลือชาวดัทช์เก็บไว้ให้

         บันทึกเล่มนี้ถูกตีพิมพ์ทั่วโลก เป็นสมบัติอันมีคุณค่าชิ้นหนึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ ในประเทศไทยมีการพิมพ์ซ้ำหลายครั้ง และฉบับที่ฉันอ่าน (รอบที่ ๓ แล้ว) เป็นฉบับที่ครบถ้วนไม่ตัดทอน

          แอนน์ แฟร้งค์ เป็นเด็ก ๑ ใน ๑.๕ ล้านคน และเป็นชาวยิว ๑ ใน ๖ ล้านคนที่เสียชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ จากสามัญสำนึกของความเป็นมนุษย์ ใครจะสามารถคิดออกว่า เหตุใดฮิตเลอร์จึงได้ชิงชังชนชาติยิวถึงขนาดมุ่งมั่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาติยิว อย่างอำมหิตโหดหี้ยมได้ขนาดนั้น

          อยากให้เด็กและเยาวชนทุกคนได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีหลากหลายมุมมองที่ล้วนมีค่าควรแก่การอ่าน และครุ่นคิด.

จันทร์ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๗

เกี่ยวกับหนังสือ

          แอนน์ แฟร้งค์. บันทึกลับของแอนน์ แฟร้งค์. (Anne Frank The Diary of a Young Girl) ฉบับแปล โดย สังวรณ์ ไกรฤกษ์, (พิมพ์ครั้งแรก) , กรุงเทพ : สำนักพิมพ์ผีเสื้อ , ๒๕๔๒

..........................................

หมายเลขบันทึก: 570531เขียนเมื่อ 16 มิถุนายน 2014 15:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2014 16:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

แสดงว่าหนังสือเล่มนี้
อ้างอิงประวัติศาสตร์ได้อย่างดีเยี่ยม...
ย้ำเน้นให้เห็นว่า  หนังสือคือกระจกเงาสะท้อนความเป็นไปของสังคม
คือกระจกแห่งยุคสมัย

ขอบคุณครับ

ขอบคุณค่ะ รีวิวได้ยอดเยี่ยมค่ะ 

เป็นหนังสือประทับใจจริง ๆ เชื่อมั้ยคะ  GD บังเอิญได้มีโอกาสอ่านที่เยอรมันเมื่อ 20 กว่าปีมาแล้ว คราวนั้นลาไปฝึกอบรมด้านสถิติที่บอนน์ และพักอยู่กับเจ้าหน้าที่ของสถานผู้ดูแลนักเรียนไทย เขามีหนังสืออยู่หลายเล่ม ก็เลยหยิบมาอ่าน วางไม่ลงเลย ทึ่งที่เด็กคนหนึ่งสามารถบันทึกให้เราเห็นภาพเหตุการณ์และเกิดอารมณ์ร่วมราวกับอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ทำให้เห็นภาพยิวถูกตามล่าอย่างน่าเวทนา  เล่มแปลต้องไปหามาเก็บไว้ค่ะ  พิมพ์หลายครั้งแต่ไปร้านหนังสือไม่เห็นเลยค่ะ

ชอบเรื่องราวของช่าวยิวครับ ทั้งภาพยนต์และหนังสือ

น่าสนใจ น่าอ่านนะครับ

ขอบคุณอาจารย์ แผ่นดิน ใช่ค่ะ หนังสือคือกระจกเงาสะท้อนความเป็นไปของสังคม

บันทึกของเด็กหญิงอายุน้อย ที่บอกเล่าเรื่องราวได้ดีขนาดนี้ ย่อมน่าประทับใจสำหรับผู้อ่านตลอดกาล

ขอบคุณอาจารย์ GD มากค่ะ 

หนังสือเล่มที่อ่านซื้อไว้ตั้งแต่พิมพ์ครั้งแรก  แต่น่าจะพิมพ์ซ้ำอีกหลายครั้ง คงจะหาซื้อได้นะคะ

ดิฉันเพิ่งกลับจากเที่ยวเยอรมัน ได้ไปชม Holocaust กลับมาตั้งใจจะหาหนังสือ + หนังเกี่ยวกับยิวมาอ่าน  มาดู หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกที่เอามาอ่านซ้ำ ทุกครั้งที่อ่านก็สะเทือนใจ

ทีี่อัมสเตอร์ดัมมีพิพิธภัณฑ์บ้านแอนน์ แฟร้งค์ อาจารย์ได้เคยไปชมมั๊ยคะ 

ลองหามาอ่านสิคะคุณพิชัย พ.แจ่มจำรัส น่าจะมีฉบับพิมพ์ครั้งหลังๆ ให้ซื้อได้

แทบไม่น่าเชื่อที่บางตอนของหนังสือ"The Diary of Anne Frank" ถูกตัดออกเมื่อนำมาพิมพ์จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาด้วยเหตุผล "Most of the concerns were about sexually explicit material" นะคะ

ฉบับที่อ่าน (๒๕๔๒) ปกหนังสือระบุว่า "the definitive edition"  และในคำนำได้ชี้แจงว่า เป็นฉบับที่สมบูรณ์ครบถ้วนตามต้นฉบับ โดยได้รับอนุญาตจากออตโต้ แฟร้งค์  มีการพรรณนาเรื่องความรัก การใกล้ชิดเป็นพิเศษกับปีเตอร์ ลูกชายของครอบครัววานดานที่อยู่ในที่ซ่อนด้วยกัน ดิฉันไม่เห็นตรงไหนที่เกินเลยจนสมควรตัดออกนะคะ อาจารย์  Pojana Yeamnaiyana Ed.D.

เมื่อต้นปีนี้ หนังสือฉบับแปลในห้องสมุดที่ญี่ปุ่นถูกฉีกทำลายกว่า ๑๐๐ เล่ม ซึ่งเป็นเรื่องน่าตกใจ

ดิฉันฝันที่จะเห็นเด็กและเยาวชนไทยรักการอ่านมากๆ ค่ะ  เพราะจากการอ่านหนังสือเล่มนี้ทำให้รู้ว่าแอนน์อ่านหนังสือเยอะมาก และอ่านหนังสือยากๆ ของผู้ใหญ่  เพราะเหตุนี้แอนน์จึงเขียนหนังสือได้อย่างยอดเยี่ยม

-สวัสดีครับพี่หมอ

-ตามมาส่งเสริมการอ่านหนังสือครับ..
-วันนี้นอกจากจะตามมาส่งเสริมการอ่านแล้วยังมาแจ้งว่า"ป้าอึด"ท่านได้เสียชีวิต"แล้วครับ ท่านจากไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากไปรับการรักษา ณ สถานพยาบาลแห่งหนึ่ง ครับ..เป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับครอบครัวเล็ก ๆของผมมาก ๆ ครับ...

-อีกเรื่องที่พี่หมอขอไว้ ก็คือ การขอให้แนะนำเรื่องการแต่งรูป

-ผมใช้โปรแกรมแต่งรูปที่พี่หมอเห็นในบันทึกการเก็บเห็ดหอบนั้น เป็นแอฟพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือครับ แต่การแต่งรูปลักษณะเดียวกันนี้ที่ผมใช้เป็นประจำก็คือในคอมพิวเตอร์ที่มีชื่อโปรแกรมว่า Photo Scape ครับ ปกติแล้วมีติดตั้งไว้ในคอมฯ หากไม่มีก็สามารถดาวน์โหลดได้ครับ และนี่ก็คือวิดีโอแนะนำการแต่งรูปครับ สอนวิธีการแต่งรูปด้วยโปรแกรม Photo Scape

ดาวน์โหลดโปรแกรมได้จากที่นี่ครับ โปรแกรมแต่งรูปง่าย ๆ

-พี่หมอลองดูนะครับ หากมีอะไรสงสัยก็ยินดีที่จะแนะนำให้ครับ..

-ขอบคุณครับ

ได้เคยชมหนังเรื่องนี้ ขอบมากค่ะ...

ขอบคุณน้องเพชร  เพชรน้ำหนึ่ง

อา.ขจิตมาสอนพี่เมื่อสองวันก่อน พี่ทำเป็นแล้วค่ะ

มีหนังด้วยหรือคะพี่ใหญ่ นงนาท สนธิสุวรรณ

ต้องหามาดูแล้วค่ะ

คุณมะเดื่อยังไม่เคยอ่านเลยจ้ะพี่นุ้ย

  • ผู้นำที่ไร้ซึ่งศีลธรรม สร้างความบอบช้ำให้กับประชาชนมาทุกยุคเลยนะครับ..
  • น่าคิดครับพี่ "ใครจะสามารถคิดออกว่า เหตุใดฮิตเลอร์จึงได้ชิงชังชนชาติยิวถึงขนาดมุ่งมั่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาติยิว อย่างอำมหิตโหดหี้ยมได้ขนาดนั้น"
  • ขอบคุณความรู้ครับพี่nui

สนับสนุนให้น้องครู คุณมะเดื่อ อ่าน ชวนเด็กๆ อ่านด้วยนะคะ

พี่ก็คิดเทียบเคียงกับจอมเด็จการทั่วโลก มาแนวเดียวกันค่ะอาจารย์ ธนิตย์ สุวรรณเจริญ กำลังอ่านหนังสือ "ยิว" ของ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช (ก้วหน้าการพิมพ์ , ๒๕๑๗) เพือหาคำตอบเรื่องนี้อยู่ อ่านไปครึ่งเล่มแล้ว ขนลุกค่ะ

ขอบคุณพี่  kanchana muangyai ที่เข้ามาอ่านค่ะ

อ่านแล้วทำให้ .... มองเห็น.... ความโหดร้าย .... ของมนุษย์....ที่กระทำต่อมนุษย์ นะคะ


ขอบคุณค่ะ

ใช่ค่ะ Dr. Ple ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่าน

ขอบคุณคุณ เดชาค่ะที่แวะมาอ่าน

รีวิวไว้น่าสนใจมาก ๆ ขอบคุณที่แนะนำนะคะ จะหามาอ่านค่ะ

เพิ่งอ่านจบอีกรอบ......ทำให้ผมอยากเขียนบันทึกทุกวันๆๆๆ...เปิดเผยความรู้สึกกับคิตตี้...(สมุดบันทึก)...ความสัมพันธ์กับครอบครัว....ครอบครัวของปีเตอร์.....การอยู่การกินท่ามกลางสงคราม...การเป็นนักแปลที่ยอดเยี่ยม....หนังสือของแอนน์แต่ละเล่ม...น่าสนใจ....และความเชี่ยวชาญรอบรู้เกี่ยวกับราชวงศ์หลายประเทศ....และการกินสตอเบอร์รี่........ติดต่อหลายวัน....ทึ่งกับเด็กวัย 15 ปี...........พี่หนุ่ยทึ่งเหมือนผมไหม?

ใช่ค่ะน้อง ทิมดาบ  ยิ่งอ่านก็ยิ่งทึ่ง  

สิ่งที่ทำให้แอนน์ แฟร้งค์คิดอะไรได้เกินวัย เพราะเธอเป็นนักอ่าน อ่านหนังสือที่หลากหลายมาก

ประวัติของผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในโลกนี้ล้วนเป็นนักอ่านแต่เยาว์วัยทั้งสิ้น

พี่จึงแอบฝันว่าเด็กไทยจะเป็นนักอ่านค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท