ร่วมสร้างสังคมน่าอยู่..ปาฐกถาไพบูลย์วัฒนศิริธรรม ครั้งที่ ๒


เมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ข้าพเจ้าได้มีโอกาสด้วยความขอบคุณไปร่วมงาน ปาฐกถาไพบูลย์วัฒนศิริธรรม ครั้งที่ ๒ ในหัวข้อ ร่วมสร้างสังคมน่าอยู่ ณ ลานเซ็นทรัลคอร์ต ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งจัดร่วมกันโดยองค์กรภาคีในกลุ่ม "มวลมิตรการพัฒนาประเทศไทย (Grand Alliance for Thailand Development)" ที่ได้ทำงานด้านสังคมใกล้ชิดกับคุณไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ประกอบด้วย มูลนิธิหัวใจอาส สำนักงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ศูนย์คุณธรรม สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ศูนย์จิตตปัญญาศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สถาบัน Change Fusion มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย มูลนิธิกองทุนไทย และ มูลนิธิเพื่อคนไทย เป็นต้น

คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรมประธานมูลนิธิหัวใจอาสา ได้กล่าวเปิดงานว่า วัตถุประสงค์ของงานนี้เพื่อสืบสานเจตนารมณ์ของคุณไพบูลย์ ในการสร้างสังคมไทยให้น่าอยู่ และร่มเย็นเป็นสุข โดยสร้างความร่วมมือของกลุ่ม/องค์กร ที่ทำงานเพื่อสังคม ให้ทำงานและ/หรือกำหนดทิศทางในการพัฒนาประเทศร่วมกัน อีกทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ เข้าถึง มีส่วนร่วม และเกิดแรงบันดาลใจ ในการมีส่วนร่วมในงานพัฒนาสังคม ตลอดจนเห็นช่องทาง กลไกของงานพัฒนาสังคม ที่มีประชาชนคนไทย ช่วยกันขับเคลื่อนให้สังคมน่าอยู่

ศ.นพ.ประเวศ วะสี ได้กล่าวถึงแนวทางการทำงานของคุณไพบูลย์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาว่า ได้ยึดหลักการลักษณะเดียวกับ ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ บนพื้นฐานของสันติประชาธรรม คือ รูปแบบของสังคมเข้มแข็ง โดยการเชื่อมโยงการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน ดังนั้น การปฏิรูปประเทศไทยซึ่งกำลังเป็นวาระแห่งชาติในขณะนี้ จึงควรเป็นโอกาสของการเชื่อมโยงที่เข้มแข็งของทั้งประเทศดังกล่าวนี้ ที่ได้มีการพัฒนาขึ้นมาแล้วระดับหนึ่งในช่วงสามสิบปีที่ผ่านมา ทั้งด้านภาคสังคม การศึกษา สุขภาพ กระบวนการยุติธรรม ระบบการเมือง เพื่อเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความแตกต่างด้วยปัญญาและสันติ..ในแนวทาง " หันหน้าคุยกัน..ต่างใจ..ไทยเดียว"

ผู้ปาฐกถา ๖ ท่านในงานนี้ จากภาคประชาชน (คุณไมตรี กงไกรจักร์) ภาคการศึกษา (รศ.ดร.ประภาภัทร นิยม) ภาคธุรกิจ(คุณวิเชียร อัศรัสการ) ภาคสื่อสารมวลชน (คุณดวงกมล โชตะนา) ภาคองค์กรมหาชน (ทพ.กฤษฎา เรืองอารีย์รัชต์) ภาคราชการ(ดร.กิติพงศ์ กิตติยารักษ์) ได้ร่วมกันให้ความเห็นถึงแนวทางการสร้างสังคมน่าอยู่ ด้วยกลไกของทุกภาคส่วน สรุปได้ว่า

คุณไมตรี กงไกรจักร์ ผู้มีประสบกาณ์ในการสร้างความสุขจากการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสของภัยพิบัติสึนามิ ได้ถอดบทเรียนของความสำเร็จในการสร้างระบบการฟื้นฟูชีวิต และพัฒนาความเป็นอยู่ทุกระดับให้เข้มแข็ง ทั้งด้านอาชีพ ธนาคารชุมชน การดูแลเด็กกำพร้า การเชื่อมโยงเครือข่ายในระดับพื้นที่และจังหวัด ที่จะร่วมกันผลักดันโอกาสการปฏิรูปสังคมและชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

รศ.ดร.ประภาภัทร นิยม ได้กล่าวถึงหัวเลี้ยวหัวต่อของการศึกษาไทย ที่กำลังมาถึงทางโค้งของการเปลี่ยนแปลง จากระบบการศึกษาเทียม มาเป็นระบบการศึกษาแท้ คือจากการมุ่งสอนวิชา ที่ประเมินผลด้านความจำ/สาระวิชา มาเป็นการสอนคน ที่ประเมินผลด้านทักษะการใช้ชีวิต /จิตใจ /สติปัญญา ซึ่งจะต้องใช้ยุทธวิธี "ทางลัดทางการศึกษา" กล่าวคือ การศึกษาชีวิตที่บ้าน โดย พ่อแม่ บ่มเพาะหล่อเลี้ยงความรัก ความอบอุ่น และความเข้มแข็งทั้งทางกายและใจ การศึกษาที่โรงเรียน ครูเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณและวิชาความรู้ การศึกษาในสังคม เพื่อนและผู้แวดล้อมแบ่งปันอาหารใจ สมอง ลดความหลงมัวเมา

คุณวิเชียร อัศรัสการ ได้กล่าวถึงงานหลักของภาคเอกชนที่ต้องการผลักดันในสองประเด็นใหญ่ๆ คือ การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และการป้องกันปัญหาทุจริคอรัปชั่น โดยในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมนั้น ได้เริ่มที่การปฏิรูประบบการผลิตข้าว ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ โดยมีชาวนาเป็นศูนย์กลางของยุทธศาสตร์ ซึ่งจะต้องขับเคลื่อนให้เกิดรูปธรรมบนการประสานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งในกระบวนการผลิตและค้าข้าวอย่างจริงจัง เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในทางปฏิบัติเพื่อยกระดับรายได้ของชาวนาและเกษตรกรในแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับในส่วนของการป้องกันปัญหาทุจริตคอรัปชั่น นั้น จะมุ่งเน้นไปที่ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการรณรงค์ปลุกจิตสำนึกของพลเมืองในการรังเกียจการทุจริตคอรัปชั้นอย่างแพร่หลาย ซึ่งในขณะนี้ เริ่มปรากฏแนวโน้มที่สะท้อนจากโพลล์สำรวจความเห็น ที่ให้น้ำหนักในลักษณะนี้มากขึ้นอย่างชัดเจนแล้ว

คุณดวงกมล โชตะนา ให้ความเห็นว่า สื่อมวลชนสามารถเข้าไปมีบทบาทในการถักทอพลเมืองดีในสังคม ทั้งฐานะผู้ผลิต และผู้บริโภคไปพร้อมๆกัน โดยไม่อยากให้สังคมมองว่า พลเมืองเป็นเหยื่อของสื่อ แต่สามารถเป็นผู้สร้างสื่อที่ดี ที่อยากเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ในการส่งสัญญาณที่ดีแก่พลเมืองในทุกๆด้าน

ทพ.กฤษฎา เรืองอารีย์รัชต์ กล่าวว่าในฐานะทำงานในภาคองค์กรมหาชน ได้มุ่งเน้นความร่วมมือกับไตรภาคีในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชน ทั้งลดชั้นตอนการทำงาน ให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว และลดขนาดองค์กรให้กระทัดรัดด้วยคุณภาพ อีกทั้งสร้างผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาคนและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดมิติความสุข ภาวะทางปัญญา จิตวิญญาณแห่งความเสียสละเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง และช่วยกันกระตุ้นให้เกิด active citizen โดยไม่ต้องรอสภาปฏิรูป

ดร.กิติพงศ์ กิตติยารักษ์ ได้นำเสนอแนวทางในการสร้างความยุติธรรมในชุมชนที่สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งในระดับพื้นฐาน ก่อนจะเกิดปัญหารุนแรงลุกลามขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งในเรื่องนี้ คุณไพบูลย์ได้มีส่วนสำคัญ ในการช่วยออกแบบ "ความยุติธรรมชุมชน" ฝากไว้ที่กระทรวงยุติธรรม โดยได้มองเห็นว่า ปัญหาความอยุติธรรมบางเรื่องกลายเป็นเรื่องชอบด้วยกฏหมายที่บัญญํติขึ้นให้ยุติธรรม อีกเรื่องหนึ่งที่คุณไพบูลย์ให้ความสนใจมาก คือ เรื่องการใช้ มรรค ๘ สู่การปฎิรูป ที่ต้องมาจากรากฐานประชาชน เช่น รูปแบบของ พอช.โมเดล .. สภาองค์กรชุมชนทั่วประเทศ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันความแตกต่างกันของแกนนำทางการเมือง การบูรณาการจากทุกภาคส่วนของประเทศด้วยอุดมการร่วมกัน ประสานความรู้ ปัญญา ข้อมูล สื่อสารทุกรูปแบบ และการสนับสนุนทางงบประมาณ เพื่อนำสู่เป้าหมายอย่างเห็นผลเชิงประจักษ์

ข้าพเจ้าเห็นคุณค่าของเวทีเสวนาเช่นนี้เป็นอย่างยิ่ง การที่ได้ยินคนทำงาน มาเล่าแนวคิดและประสบการณ์จริง และเห็นศักยภาพในการขับเคลื่อนประเทศสู่การอภิวัฒน์เปลี่ยนแปลงในภาคส่วนต่างๆ แบบเชื่อมโยงกันอย่างสอดประสาน ไม่แก่งแย่งชิงดี หาผลประโยชน์ชื่อเสียงเพื่อตนและพวกพ้องเช่นนี้ ย่อมเป็นที่หวังได้ ถึงความเป็นสังคมน่าอยู่ของประเทศไทย

................................................................................................................................................................

หมายเลขบันทึก: 572537เขียนเมื่อ 15 กรกฎาคม 2014 16:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 ธันวาคม 2014 14:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

พี่ใหญ่คะ การเสวนาลักษณะนี้ รวมทั้งเนื้อหาที่แต่ละท่านบรรยาย/นำเสนอมีการจัดกันมากเมื่อมองย้อนหลังไปสิบกว่าปีต่อเนื่องมา แนวคิดต่าง ๆเห็นว่ามีการนำไปปฏิบัติจริงมากพอควร ในความเห็นส่วนตัวสังคมท้องถิ่นเข้มแข็งขึ้น คนเล็กคนน้อยรู้จักสิทธิ หน้าที่ และต้องการมีเสียงในสังคมเพิ่มขึ้น ในภาพรวมเขาสามารถพึ่งพาตนเองและพึ่งพากันในสังคมดีขึ้น แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมาในปี 2556-2557 ดูเหมือนว่าสังคมนี้กลับมีปัญหามากมาย ก็หวังว่ากลุ่มผู้นำสังคมทางความคิดกลุ่มนี้จะช่วยนำให้สังคมร่วมสร้างสังคมที่เป็นสุขได้อีกครั้งหนึ่งค่ะ

น่าสนใจมากค่ะ  คิดว่างานแบบนี้คงจะให้คนนอกเข้าฟังด้วยใช่มั๊ยคะ  

ชอบใจงานนี้

เสียดายไม่ทราบล่วงหน้า

ชอบงานที่คุณไพบูลย์ทำครับ ได้พัฒนาสังคมและชุมชนครับ

ร่วมสร้างสังคมน่าอยู่..ปาฐกถาไพบูลย์วัฒนศิริธรรม

ขอบคุณพี่ใหญ่มากๆครับ

งานนี้รวมผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพของบ้านเมืองเลยครับคุณครู

เด็กๆ อย่างผมได้รับทราบแล้ว รู้สึกอบอุ่น มั่นใจครับ ^_^

เป็นการปาฐกถาที่...น่าฟังที่สุดนะคะ .... ช่วงนั้น น้องเปิ้น ...ไม่คอยสบาย  ป่วยเป็นไขัหวัดนะคะ ..... ท่าน อาจารย์ไพบูลย์  วัฒนศิริธรรม ... เป็นบุคคลที่...ควรแก่การยกย่องและเป็นบุคคลต้นแบบ สำหรับสังคมไทย นะคะ


ขอบคุณพี่ใหญ่มากๆๆค่ะ

อ.นุ

โอ๋-อโณ

ขจิต ฝอยทอง

nui

จัตุเศรษฐธรรม

เพชรน้ำหนึ่ง

ณัฐพัชร์

ชยพร แอคะรัจน์

Dr. Ple

พ.แจ่มจำรัส

tuknarak

คุณแจ๋ว

น้อย น้ำพอง

GD

อัญชัญ ครุฑแก้ว

อร วรรณดา

rojfitness

* สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจมอบแก่งานปาฐกถาไพบูลย์วัฒนศิริธรรม ครั้งที่ ๒ ในหัวข้อ ร่วมสร้างสังคมน่าอยู่ นี้ค่ะ

* น้อง GD ..พี่ใหญ่เชื่อมั่นว่า หากเราได้มาร่วมกันพลิกวิกฤตการณ์ที่ผ่านมา ให้เป็นโอกาสที่ดีในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขปัญหาใหญ่ของประเทศอย่างมุ่งมั่น ตั้งใจจริงจากทุกภาคส่วนบนผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ สังคมไทยย่อมน่าอยู่ยิ่งขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

* น้องnui...บุคคลภายนอกเข้าร่วมรับฟังได้ เพราะจัดที่ลานอเนกประสงค์ในศูนย์การค้าซึ่งเป็นสถานที่เปิดสำหรับบุคคลทั่วไป...วันนั้นมีจำนวนมากพอสมควรเป็นวันหยุดราชการด้วยค่ะ

* น้องดร.ขจิต...ยินดีมากที่ให้ความสนใจงานนี้ ซึ่งจะมีจัดอีกทุกปี หวังว่าน้องดร.ขจิตคงมีโอกาสได้เข้าร่วมฟังและแสดงความเห็นด้วยเช่นกันค่ะ

น้องอ.นุ..นับเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจจริงของกลุ่มคนทำงานเพื่อสังคม เพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นสังคมที่น่าอยู่...จะได้นำความคืบหน้ามาเล่าอีกค่ะ

* น้องDr.Ple...ช่วงนี้กำลังระดมความเห็นเพื่อปฏิรูปประเทศไทยในด้านต่างๆ ซึ่งสมาชิกมวลมิตรการพัฒนาประเทศไทย ให้เป็นสังคมน่าอยู่ ได้มีส่วนร่วมในการให้ความเห็นเชิงรูปธรรมด้วยค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท