หากผมอยู่บ้านมีหน้าที่ประจำสิ่งหนึ่งคือดูแลอาหารให้กะรอกข้างบ้าน ที่ผมตั้งชื่อว่า กระถิน กระถาง และกระโถนที่บ้านเราและเพื่อนบ้านมีต้นไม้รอบ เขาก็มาอาศัย วิ่งไปบ้านโน้นที บ้านนี้ที ผมก็อยากใกล้ชิดก็เอากล้วยสุกมาให้เขาโดยใส่ตะกร้าชักรอกไปที่ต้นไม้ข้างหน้าต่างเขาก็มากินและนกต่างๆก็มากินโดยเฉพาะนกกระจาบ
วันนี้ผมขับรถเข้าไปซื้อกล้วย เลือกแบบตกเกรดก็ได้ราคาถูกๆมา เพราะเอามาให้กะรอกไม่ต้องเอาลูกใหญ่ ลูกสวยขากลับผมขับรถผ่านชายคนนี้
เห็นปับ ใครๆก็เดาออกว่าเขาคือพวกจรจัดในเมือง ผมเคยได้รับหนังสือแปลเล่มหนึ่งที่เขียนเกี่ยวกับคนกลุ่มนี้ที่เรียก Street Society น่าสนใจมากครับ ส่วนตัวผมก็สนใจที่มาที่ไปของเขา เพราะส่วนหนึ่งมันเป็น Indicator วัดสภาพสังคมไทยเรา ความสนใจของผมยังไม่ถึงกับลงไปศึกษาเชิงวิชาการ แค่เก็บภาพและหากมีจังหวะก็จะเข้าไปซักถาม พูดคุยบ้างตามโอกาส เงื่อนไข
เมื่อชายคนนี้เดินมาถึงร่มไม้เล็กๆแห่งหนึ่งเขาหยุด นั่งลง มีหมาตัวหนึ่งอยู่ตรงนั้นก่อนแล้ว แปลกที่หมาไม่ตื่น ไม่เห่า และชยคนนั้นก็ไม่ได้ส่งเสียงขับไล่ไปผมอยากรู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป ผมหยุดรถถัดไป คว้ากล้องคู่กายมาเตรียมเก็บภาพ
ให้ตายซิ....ภาพที่ผมเห็นนั่นคือ ชายคนนั้นหยิบถุงอาหารมาเปิดออกแล้วแบ่งส่วนหนึ่งให้หมากิน หมาตัวนั้นผมประมาณเอาว่า อายุมากแล้ว เพราะเขาดูเชื่องช้า ซึมๆ ไม่มีลักษณะ Sensitive เหมือนหมาหนุ่มสาวทั่วไป
เขานั่งดูหมากินอาหารที่เขาแบ่งให้พักหนึ่งแล้วเดินต่อไป ผมไม่มีเวลาตามเขาไปว่าจะไปพักที่ไหน แต่รถที่ผมจอดนั้นอยู่หน้าร้านขายส่งแห่งหนึ่ง และเอากล้องมาถ่ายรูป เจ้าของร้านเดินออกมาถามว่า ถ่ายอะไร ถ่ายรูปรถขนส่งสินค้าของเขาหรือ ผมเดินไปหาเขาแล้วอธิบาย ขณะนั้นมีชายสูงอายุคนหนึ่งขี่มอเตอร์ไซด์มาซื้อสินค้าได้ยินผมคุยกับเจ้าของร้านว่า....
ชายคนนั้นเป็นคนจรจัด ผมเห็นเขาแบ่งอาหารในถุงเขาให้หมาแก่ตัวนั้นเขามีน้ำใจ...
ชายคนขี่มอเตอร์ไซด์ยิ้มให้ผม แล้วพูดกับผมว่า...
ใช่..เขาเป็นชายพเนจร แต่เขามีน้ำใจประเสริฐ.....เขารู้จักแบ่ง.....
ครับ...เขารู้จักแบ่งเขามีน้ำใจแบ่ง..
อ่านแล้วประทับใจค่ะ ชิวิตไหนๆก็มีเรื่องดีๆที่น่ามอง ขอเพียงเราใส่ใจนะคะ