คุณค่าของความพยายามเพื่อให้ได้สิ่งที่ธรรมดา


สิ่งที่น่าสนใจจากชีวิตของโชคชัยก็คือ "ความพยาม" พยายามทำให้ได้อย่างที่คนปรกติเขาทำกัน แม้เป้าหมายของเขาคือทำให้ได้อย่างที่คนธรรมดาเขาทำกันได้ แต่ความพยายามของเขานี้ย่อมพัฒนาจิตใจของเขาให้มีพลังมากขึ้นกว่าคนทั่วไปคนที่เดินไม่ได้แต่พยามที่จะเดินย่อมมีพลังของจิตมากกว่าคนที่เดินได้แต่ไม่ยอมเดินไปทำอะไรดีๆอย่างแน่นอน

โชคชัยเกิดในครอบครัวนักธุรกิจที่มีฐานะดี แต่มีร่างกายท่อนล่างไม่ปรกติเดินไม่ได้ ไปไหนมาไหนโดยนั่งรถเข็นใช้มือหมุนล้อเคลื่อนที่ไป ความจริงโชคชัยไม่ได้เป็นคนพิการมาตั้งแต่กำเนิด แต่ตอนอายุสี่ขวบเกิดอุบัติเหตุถูกรถชนทำให้ร่างกายท่อนล่างใช้งานไม่ได้ตั้งแต่นั้นมา

โชคชัยโชคดีที่มีพ่อแม่ที่รักเขามาก เขาพยามทำให้ลูกไม่มีความรู้สึกว่าตนเองเป็นคนพิการ โดยสอนให้โชคชัยช่วยเหลือตนเองทุกอย่าง เขาจะบอกเพื่อนบ้านว่าหากเห็นโชคชัยนั่งบนรถเข็นไปซื้อของหรือไปไหนมาไหนห้ามใครเข้าไปช่วยเหลือยกเว้นพื้นที่ที่รถเข็นไปไม่ได้จริงๆเท่านั้น

ด้วยความรู้สึกที่ไม่มีปมด้อยของโชคชัยทำให้เพื่อนๆที่โรงเรียนมองว่าเขาเป็นคนปรกติ แต่อาจจะเป็นเพราะโชคชัยรู้ดีว่าตนเองทำบางสิ่งบางอย่างไม่ได้เหมือนเพื่อน จึงอยากจะแสดงออกว่าฉันสามารถทำอะไรได้ทุกอย่างที่คนอื่นทำได้

ตอนเรียนอยู่ชั้นประถม วันหนึ่งเขาถามพ่อของเขาว่า เมื่อตอนเด็กๆพ่อทำอะไรบ้าง พ่อเขาตอบแบบสนุกๆว่าพ่อเคยโดดเรียน พ่อเคยแอบกินเหล้ากับเพื่อนๆ หลังจากนั้นไม่นานคุณแม่ได้รับโทรศัพท์จากทางโรงเรียนว่าให้มารับตัวลูกกลับบ้านด่วนเพราะตอนนี้กำลังอาละวาดหนักที่โรงเรียน คุณแม่ก็ตกใจรีบขับรถไป พอไปถึงก็แทบจำลูกของตัวเองไม่ได้ ตามปรกติโชคชัยจะเป็นเด็กเรียบร้อยแต่ภาพที่เห็นก็คือ โชคชัยกำลังเมาไม่ได้สติพูดจาอ้อแอ้สนุกสนานเต็มที่

สอบถามเพื่อนๆดูก็ได้ความว่าโชคชัยแอบพกเหล้ามาจากบ้านชวนให้เพื่อนมาทดลองดื่มกัน แต่ไม่มีใครกล้า โชคชัยจึงบอกว่าหากไม่มีใครกล้าเขาจะกินให้ดูเป็นคนแรก สุดท้ายก็เป็นอย่างที่เห็น นอกจากนี้โชคชัยยังสร้างวีรกรรมอื่นๆอีกด้วยการเป็นผู้นำในการชวนเพื่อนโดดเรียนหนีไปเที่ยว ด้วยความรู้สึกเพียงต้องการให้เพื่อนๆยอมรับว่าเขาเป็นทำในสิ่งธรรมดาๆอย่างคนอื่นได้

เมื่อโตขึ้นเขาเริ่มแสดงความสามารถในทางที่ดีให้ปรากฏขึ้นเรื่อยๆ เขาเรียนจบปริญญาตรีแล้วมาทำงานในธุรกิจที่คุณพ่อของเขาสร้างขึ้นมา เขาพอใจที่จะทำงานในระดับล่างก่อน เขาชอบที่จะทำตัวแบบพนักงานทั่วไปและพยายามทำในสิ่งที่พนักงานทั่วไปทำได้ เขาพอใจที่จะถูกหัวหน้างานว่ากล่าวตักเตือนเมื่อเขาทำงานผิดพลาด

สิ่งที่น่าสนใจจากชีวิตของโชคชัยก็คือ "ความพยาม" พยายามทำให้ได้อย่างที่คนปรกติเขาทำกัน แม้เป้าหมายของเขาคือทำให้ได้อย่างที่คนธรรมดาเขาทำกันได้ แต่ความพยายามของเขานี้ย่อมพัฒนาจิตใจของเขาให้มีพลังมากขึ้นกว่าคนทั่วไปคนที่เดินไม่ได้แต่พยามที่จะเดินย่อมมีพลังของจิตมากกว่าคนที่เดินได้แต่ไม่ยอมเดินไปทำอะไรดีๆอย่างแน่นอน

คนที่ไม่พิการ มีอวัยวะครบถ้วนพร้อมที่จะทำอะไรก็ได้ หากไม่มีความพยายามที่จะทำอะไรเลย จิตใจก็จะอ่อนแอลงทุกวัน สุดท้ายแม้ว่าจะมีร่างกายสมบูรณ์ดีแต่ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการที่มีร่างกายสมบูรณ์นั้น

ดังนั้นหากร่างกายเรายังแข็งแรงดีอยู่ จงเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรามี และใช้มันให้เกิดประโยชน์ ให้สังคมของเราดีขึ้น และเมื่อเราได้ทำ จิตใจของเราก็จะถูกเติมเต็มด้วยพลังแห่งความสุขและถูกพัฒนาไปด้วยพร้อมกัน

โชคชัยเสียชีวิตในเวลาไม่กี่ปีต่อมาหลังจากเรียนจบ แล้วมาช่วยคุณพ่อทำงาน ด้วยสาเหตุไตวายเฉียบพลัน ท่ามกลางความอาลัยรักของครอบครัว และญาติพี่น้องเพื่อนฝูง แม้ว่าเขาจะจากไป แต่สิ่งที่เขาฝากไว้ในความทรงจำของผู้คนก็คือ ความพยายามทำให้ชีวิตของตนเองมีค่า แม้จะเป็นความพยายามเพียงแค่ให้ทำได้อย่างคนธรรมดาๆทั่วไปก็ตาม

หมายเลขบันทึก: 588764เขียนเมื่อ 11 เมษายน 2015 06:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2015 03:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท