งงไม๊ค่ะ ลูกชายของเจ้าสาว? ดูรูปข้างล่างแล้วอาจจะหายงงค่ะ
เจ้าบ่าว กับ เจ้าสาว
[ที่มา: http://www.elhijodelanovia.com]
เจ้าสาว และ ลูกชาย (Son of the Bride)
[ที่มา: http://www.elhijodelanovia.com]
_________________________________________
เมื่อไม่นานมานี้ได้อ่านบันทึก อ. สุภัทร จาก blog wellness
เรื่องการ เรียนรู้ชีวิตจากภาพยนตร์
อ.สุภัทรให้นักเรียนดูภาพยานตร์แล้วมาบันทึกใน ช่องความคิดเห็นในblogของอ.ว่าดูแล้วรู้สึกอย่างๆไร
ผู้เขียนได้แวะไปชื่นชม เพราะ ชอบการเรียนการสอนวิธีนี้มาก ตอนนั้นได้บันทึกแนะนำภาพยานตร์เรื่อง With Honors ไว้ (อ่านเนื้อเื่รื่องย่อได้ที่ blog อ.สุภัทรค่ะ แล้วไว้วันหลังจะมาบันทึกเรื่อง With Honors โดยเฉพาะอีกครั้ง)
วันนี้เป็นการบันทึกต่อเนื่องจากครั้งนั้นค่ะ มาแนะนำภาพยนตร์ที่ชอบมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง
_________________________________________
เรื่องนี้ อ. ที่ UBC ซึ่งเป็น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคสมองเสื่อม เป็นผู้แนะนำให้ดูค่ะ (อ. สอนในวิชา interdisciplinary perspective on aging) อ. ไม่ได้ฉายหนังเรื่องนี้ในห้องเรียน แต่อ.จัดเทศกาลหนัง mental health เลยค่ะ จัดที่โรงหนังในเมือง เป็นเวลา 3 วัน เปิดให้สาธารณชนมาดูี ผู้เขียนดูมาสามสี่เรื่องที่เกี่ยวกับ mental health แต่เรื่องนี้โดนใจมากที่สุด ผู้เขียนซื้อ DVD มาแล้วเรียบร้อย วางแผนว่าจะเอากลับไปให้นักเรียน หรือ ผู้สนใจที่บ้านเราได้ดูกัน
ภาพยนตร์อาเจนติน่าเรื่องนี้จัดอยู่ในประเภท ตลก/ชีวิต (cemedy/drama) ค่ะ ใครที่กลัวเครียดมากไป หายห่วงได้เลย ได้ทั้งหัวเราะ (และ ร้องไห้เพราะซึ้ง)แน่ๆค่ะ
Theme mental health ของเรื่องนี้คือ อัลไซเมอร์ค่ะ
_________________________________________
เนื้อเรื่องโดยย่อ:
พระเอกอายุ 42 ของเรา กำลังอยู่ในช่วง crisis ค่ะ ชีวิตยุ่งแต่กับงาน กิจการร้านอาหารของเขาเติบโตรุ่งเรือง แต่ชีวิตเขากลับมีปัญหา
ภรรยาเก่าไม่พอใจที่พระเอกของเราไม่ค่อยมาดูแลลูก (ที่เลิกไปก็เพราะความไม่เอาใจใส่ของพระเอกเรานี่แหละค่ะ) แฟนสุดแสนดีคนปัจจุบันขอพระเอกก็เป็นได้แค่แฟน เพราะพระเอกเราไม่ยอม commit ที่จะแต่งงานอีกครั้ง คบกันไปเรื่อยๆเฉื่อยๆมานานแล้ว แบบนี้ผู้หญิงก็คงเซ็งๆนะคะ จุดสำคัญคือ ชีวิตที่ยุ่งแต่งานนี่ พลอยทำให้ เค้้าไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมแม่ของเค้าที่เป็นอัลไซเมอร์ระดับที่ ต้องได้รับการดูแลพิเศษที่บ้านพักคนชรา พ่อชวนให้ไปเยี่ยมแม่ก็ไม่ไป ยิ่งพอพ่อมาขอว่าเนี่ยะ พ่ออยากให้ของขวัญแม่ ให้ลูกมาช่วยหน่อย พ่ออยากจัดงานแต่งงาน เพราะพ่อรู้ว่าแม่ต้องการมาตั้งแต่สาวๆแต่พ่อไม่เคยให้ ตั้งแต่อยู่กันมาไม่ได้มีพิธีแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราวเลย พระเอกของเราก็คิดว่า ไร้สาระ ทำไปทำไม แม่ก็จำอะไรไม่ค่อยได้แล้ว จะทำให้ชีวิตยุ่งยากไปอีกทำไม แค่นี้ก็ยุ่งจะแย่แล้ว คุณพ่อก็ผิดหวังไปตามระเบียบ
และแล้ววันหนึ่งในขณะที่พระเอกกำลังรู้สึกหลงทาง เหมือนชีวิตมีปัญหาแต่ไม่รู้จะแก้ยังไง เพราะอะไรๆก็ยุ่งไปหมด ไม่มีเวลาทำให้ทุกๆคนที่เค้ารักพอใจ .... วันนี้...มีเหตุการณ์ที่ทำให้พระเอกของเราต้องหยุด และ ทำอะไรๆช้าลง หันมาคิดเรื่อง ความหมายของชีวิต ให้มากขึ้น
พระเอกอายุ 42 ของเรามีอาการหัวใจวายแบบเบาะๆค่ะ แต่ก็พอจะทำให้เค้าสามารถเปลี่ยนแปลงการมองชีวิตของเค้าได้ ว่าอะไรกันแน่ที่สำคัญในชีวิตนี้ แล้วพระเอกจะจัดการอย่างไรกับชีวิตเค้าต่อไป เค้าจะจัดงานแต่งงานให้แม่เค้าได้หรือไม่ เรื่องนี้ต้องดูค่ัะ
_________________________________________
เรื่องนี้ทั้งซึ้งและสนุกค่ะ นักแสดงแสดงได้ดีมากโดยเฉพาะคนที่เล่นเป็นแม่ และ พ่อ ใครพอมีกำลังทรัพย์หาซื้อได้ที่ Amazon ค่ะ แผ่นแบบ used ราคาประมาณ 300 บาทก็มี
_________________________________________
เรื่องนี้เหมือนจริง มากกว่าเรื่อง The Notebook มากค่ะ ไม่น้ำเน่าเท่าเรื่องนั้น ดูเรื่องนี้แล้วกระตุ้นต่อมความคิดมากกว่าด้วย
_________________________________________
ปิดท้ายด้วย เวปที่สามารถ เข้าไปดูตัวอย่างหนังได้นะคะ
http://www.sonyclassics.com/sonofthebride/index-flash.html
http://www.elhijodelanovia.com
http://www.rottentomatoes.com/m/son_of_the_bride/trailers.php
_________________________________________
สวัสดีค่ะคุณมัทนา
ภาพยนตร์ต่างประเทศหลายๆ เรื่อง เขาบันทึกมาจากชีวิตจริง ที่จรรโลงจิตใจได้ดีนะคะ ดูหลายๆ เรื่องแล้ว ทำให้เรามีจิตใจที่อ่อนโยนขึ้นได้ ... ชอบค่ะ
ขอบคุณนะคะ ที่มาบอกเล่า ... อีกด้านหนึ่ง อยากให้หนังไทยมีอย่างนี้มั่งจัง แต่ถ้านำมาสร้างอาจไม่ค่อยมีใครดู ก็ขาดทุน ... ทำไมหนอ
ขอบคุณค่ะ ครูอ้อยและพี่หมอนน
ใช่ค่ะ หนังไทยทำเงินไม่ค่อยมีเรื่องที่จรรโลงจิตใจ เท่าไหร่ แต่มัทว่า ช่วงสี่ห้าปีมานี้ชุมชนคนทำหนังก็ดีขึ้นมากนะคะ
คนทำหนังดีๆมีเยอะ มีกลุ่ม independent filmmakers เป็นเรื่องเป็นราว แต่หนังที่ทำ่มักจะเป็นหนังที่เสียดสีสังคมกันซะมากกว่า คือดูแล้วได้คิด ว่าสังคมเรามีปัญหาอย่างไรบ้าง
มันมีประโยชน์ แต่ มันไม่ค่อยจรรโลงอ่ะค่ะ
ก็เหมือนกับงานวิจัยที่เน้นการค้นหาว่าอุปสรรค (barrier) คืออะไร มากกว่างานวิจัยที่มาช่วยกันหาว่า ปัจจัยที่ทำให้งานสำเร็จ (success factor) คืออะไรหน่ะค่ะ
อยากให้หนังไทยมีตรงนี้มากๆ คือเน้นด้านบวกให้มากขึ้น เป็นแรงใจ กับ ตัวกระตุ้นต่อมความคิดที่จะแก้ปัญหา
_________________________________
ถ้าพูดถึงหนังไทยในรอบไม่กี่ปีนี้ มัทชอบเรื่อง 15 ค่ำเดือน 11ค่ะ (ที่เกี่ยวกับลูกไฟพญานาคทางอิสานบ้านเรา) ตอนมาฉายที่นี่ฝรั่งก็ชอบกันมาก
เทศกาลหนังนานาชาติปีนี้ เพิ่งมีไปเดือนก่อน เสียดายไม่ได้ไปดูเพราะมัวแต่ยุ่งๆ
หนังสารคดีที่อยากดูอีกเรื่อง แต่ ยังไม่มีโอกาส คือ เรื่อง เด็กโต๋ ของคุณ ป๊อบ อารียา (เป็นเรื่องราวของเด็กจากโรงเรียนแม่โต๋ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่) เรื่องนี้น่าจะจรรโลงใจมากทีเดียวค่ะ
_________________________________
แต่ก็อย่างที่พี่หมอบอกแหละค่ะ แต่ละเรื่องนี่ทำเงินสู้ หนังผี และ หนัง แอคชั่น ไม่ได้แน่นอนค่ะ จบข่าว! : )
เรียน อ.หมอมัทนา
ขออนุญาตนำชื่อบันทึกและลิงค์ของบันทึกดีๆ บันทึกนี้รวบรวมไว้ในเว็บไซต์ MS-PCARE
หัวข้อหลัก=สื่อการสอน
หัวข้อย่อย=ภาพยนตร์ค่ะ หรือที่นี่ค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ