nui
นาง เสาวลักษณ์ พัวพัฒนกุล

​หนัง Little Forest : Winter & spring (อีกครั้ง) กับชีวิตที่ง่าย เงียบเชียบ และงดงาม


มาแล้ว Little Forest : Winter & Spring หลังการรอคอยอย่างจดจ่อเมื่อดู Little Forest : Summer & Autumm จบลงเมื่อหลายเดือนก่อน

หนังเล่าเรื่องการใช้ชีวิตเพียงลำพังของอิชิโกะ ในเมืองชนบทเล็กๆ ชื่อ โคโมริ (ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ป่าเล็กๆ = Little Forest) บนเขาของญี่ปุ่น ที่ทุกตอนเริ่มด้วยการบอกเล่าว่า “ถ้าจะเข้าเมืองที่ใกล้ที่สุด ขี่จักรยานลงเขาใช้เวลาครึ่งชั่วโมง ขาขึ้นนานกว่านั้น ในหมู่บ้านมีร้านค้าสหกรณ์เพียงร้านเดียว...” ให้ผู้ชมเห็นภาพความห่างไกลความเจริญ แต่ไม่ห่างไกลความสุข

ชีวิตเรียบง่าย เนิบช้า ทำงาน ปลูกข้าว ปลูกผัก เข้าป่า หาอาหาร และนำมาทำกินแต่ละวัน พบปะเพื่อนบ้าน ช่วยเหลืองานเล็กๆ น้อยๆ กันและกัน ไม่มีอะไรมายุ่งเหยิงชีวิตให้วุ่นวาย ขุ่นข้อง

เช่นเดียวกับภาคแรก หนังเล่าเรื่องที่ละเมนู จาก dIsh 1…dish 2… ทุกเมนูง่ายๆ และหอมฉุยออกมานอกจอ

ในภาคนี้เล่าชีวิตของอิชิโกะในช่วงฤดูหนาวที่หิมะขาวโพลน การเตรียมฟืน เตรียมอาหารที่มี “ฤดูหนาวเป็นเครื่องปรุง” หัวผักกาดสดหัวใหญ่ขุดมาจากแปลงทำเป็นหัวผักกาดแห้งแขวนเป็นราวที่ชายคา เก็บไว้กินตลอดฤดูหนาว เวลากินก็แค่เดินไปหยิบหัวผักกาดจากราว แช่น้ำ หั่นใส่หม้อต้ม ปรุงรส ตักใส่ถ้วยกินร้อนๆ การเตรียมแปลงดินคลุมด้วยพลาสติก กรีดออกแล้วฝังมันฝรั่งเอาไว้ เมื่อหิมะคลุมแล้วก็ละลาย เขาจะแตกต้นอ่อนและออกผลใต้ดินให้ขุดมากินอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิ ฯลฯ

เมื่อหิมะละลายก้าวย่างสู่ฤดูใบไม้ผลิ ต้นไม้บนเขาแตกยอดอ่อน พืชเล็กๆ แทงยอดขึ้นมาพ้นดิน อิชิโกะเดินขึ้นเขาพร้อมตะกร้า เด็ดยอดอ่อนและถอนผักกินได้เหล่านั้นขึ้นมาไม่กี่ต้นแค่ “พอกิน” ไม่เบียดเบียนเขาเกินจำเป็น นำมาล้างสะอาด ชุบแป้งลงทอด คีบใส่จาน เป็นอาหารจานง่าย การฟูมฟักกะหล่ำปลีในแปลงเฝ้าพลิกใบเพื่อเก็บไข่แมลง เก็บหนอนกินใบทิ้ง ใบกะหล่ำสดหวานกรอบจนอิจิโกะอดใจไม่ไหวที่จะเคี้ยวกินสดอยู่ข้างแปลงผัก ก่อนจะนำไปหั่นฝอยชุบแป้งทอด เป็นอาหารจานง่ายอีกจาน

หนังภาคนี้บอกเล่าความเหงาและคิดถึงแม่ที่ทิ้งเธอไปตั้งแต่เธอยังเรียนมัธยมปลาย ในฉากที่ไปรษณีย์มาส่งจดหมายเธอแค่ปรารภเบาๆ ว่ามีแค่ใบแจ้งหนี้ ไม่มีจดหมายหรือ เธอเฝ้ารอจดหมายจากแม่ แม้จะห่างไกล แต่ชีวิตเธอมีภาพจำของแม่อยู่เคียงข้างทุกจานอาหารที่แม่เคยทำให้กิน

อิชิโกะ เป็นเด็กดื้อ และขบถเล็กๆ กับแม่เสมอ แต่เธอก็รักแม่อยากให้แม่กลับมา อยากรู้ข่าวแม่ แม้เราคนดูจะแอบหวังว่าแม่จะกลับมาอยู่อย่างอบอุ่นและเป็นสุขกันประสาแม่ลูก...แต่หนังไม่ยอมตามใจคนดู

ปรัชญาชีวิตที่แม่ถ่ายทอดให้เธอคือ ชีวิตนั้นเป็นดั่งวงกลมที่หมุนวนไม่สิ้นสุด แต่สำหรับอิชิโกะเธอบอกว่าชีวิตเธอดุจเกลียวเชือกที่ถักแน่น และมั่นคง

ฉากก่อนจบ หนังบอกเราว่าอิชิโกะจะไม่เตรียมอาหารไว้สำหรับฤดูหนาวต่อไปอีก เพราะเธอจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว กระชากอารมณ์เพราะคนดูมีความผูกพันกับเมืองเล็กๆ ผ่านตัวละครอิชิโกะซะแล้ว แล้วหนังก็จบแบบให้คนดูมีความสุขเมื่ออิชิโกะกลับมาลงหลักปักฐานที่เมืองเล็กๆ แห่งนี้...กับสามี

เป็นหนังที่ “ไม่มีอะไรเลย” เงียบเชียบ แต่งดงามด้วย ภาพ วิถีชีวิต และความคิด

………………..

ไอ ฮาชิโมโตะ (รับบทอิชิโกะ) นั้น หน้าไม่แต่ง แป้งไม่ทา สวย ใส บริสุทธิ์ เธอช่างแสดงเหมือนไม่แสดง ราวกับเธอดำเนินชีวิตในบ้านของเธอแล้วมีกล้องไปแอบถ่ายอย่างไรอย่างนั้น ไม่ว่าเธอจะขุดดิน ดายหญ้า ผ่าฟืน โกยหิมะ ทำอาหาร ฯลฯ เหมือนเป็นชีวิตจริงของเธอ สีหน้าเรียบเฉยดูเหงานิดๆ ช่างมีเสน่ห์ น่ารัก ที่ซุกซ่อนความเข้มแข็งไว้ภายใน

ภาพในหนังนิ่ง กล้องวางนิ่งๆ ทอดนานในทุกช็อท การเคลื่อนกล้องน้อยมาก ไม่หวือหวาน่ารำคาญ

ฉากเริ่มเรื่อง เป็นภาพนิ่งของบ้านหลังน้อยเชิงเขา แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีขาวของหิมะคลุมหลังคา ก่อนตัดไปเล่าเรื่อง

ฉากจบ แช่ภาพชนบทและวิถีชีวิตของอิชิโกะ และเมืองโคโมริ นิ่งนานทีละช็อท....แล้วจบ ขึ้นเครดิต

หนังดี...ไม่ยัดเยียดบทพูดมากมาย (เพื่อเล่าเรื่อง)

หนังดี...เล่าเรื่องด้วยภาพ เหมือนกำลังเฝ้าดูชีวิตคนจริงๆ บนจอ ดนตรีไพเราะคลอเบาๆ

หนังดี...ภาพไม่ต้องจงใจให้สวยจัด แต่สวยงามตามท้องเรื่อง

หนังดี....มีอะไรให้ขบคิด ให้ค้นหา

Little Forest ทั้งสองภาคจึงเป็นหนังดีในดวงใจตลอดกาลของฉันอีกเรื่องแบบไม่ต้องคิดมาก

ดูหนังจบย่อมมีอะไรติดไปคิดต่อ ทำอย่างไรคนเมืองที่ชีวิตยุ่งเหยิงกับงาน การเดินทาง เสร็จงานก็นั่งก้มหน้ากับมือถือ จอเล็ก จอใหญ่ กับคนที่เราไม่รู้จัก กับความเห็น กับข้อมูลมากมายจนล้น จะ “หยุด” ติดต่อกับโลกภายนอกชั่วคราว แบ่งเวลามาใส่ใจกับ “บ้าน” สภาพแวดล้อมรอบบ้าน และคนในบ้าน เพื่อให้ชีวิตช้าลง จนสัมผัสจับต้องได้กับความเงียบจากภายใน.

จันทร์ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๘

.............................

บันทึกก่อนจบ

ไปดูหนังวันเสาร์ รอบบ่าย ที่โรงลิโด้ ๒ ไม่น่าเชื่อว่าคนแน่นโรง ในรอบหลายปีที่ไปดูโรงนี้ทุกเสาร์ ไม่เคยเจอแบบนี้ คนดูทุกเพศ วัย เป็นคนประเภทคอหนังตัวจริงทั้งสิ้น เชื่อว่าจะยืนโรงไปนาน ๒ เดือน เหมือนภาคแรก

แม้คุณไม่ใช่คนรักหนังแนวอินดี้ ก็น่าจะลองไปดู แล้วคุณอาจหลงรักหนังเรื่องนี้...

.........................................

เอาหนังตัวอย่างมาให้ดูกันค่ะ

หมายเลขบันทึก: 591517เขียนเมื่อ 22 มิถุนายน 2015 22:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2015 05:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

กุหลาบไม่ได้ดูหนังมานานแล้วค่ะพี่นุ้ย พี่นุ้ยบรรยายได้อย่างยอดเยี่ยม อยากไปดูมากเลยค่ะ ชอบนางเอกสวย ๆ น่ารัก และการถ่ายทำที่สมจริงตามที่พี่นุ้ยบรรยายไว้ จะตามไปดูทั้งสองตอน คงฉายที่เดียวกันนะคะ ขอบคุณพี่นุ้ยมากค่ะ พี่น่าจะไปเขียนรีวิวให้เขานะ มืออาชีพจริง ๆ ค่ะ

ขอบคุณน้องกุหลาบ กุหลาบ มัทนา ที่ให้กำลังใจพี่ เดี๋ยวจะไปเก็บเงินค่าโฆษณาจากโรงหนัง อิ..อิ..เขียนแบบนี้ดีแล้วค่ะ ไม่กดดันดี

ไปดูที่โรง House RCA พี่รู้ว่าเขาเอามาฉายพร้อมกัน ๒ ภาค แต่ไม่แน่ในว่าภาคแรกฉายถึงวันไหน แต่ภาคสองฉายหลายโรงค่ะ

ที่นั่นคนเต็มทุกรอบเหมือนกันค่ะ

หนังดี ๆ ก็ให้สาระแก่ผู้ดูนะจ๊ะ ขอบคุณจ้ะพี่นุ้ย

...ธรรมชาติ...ความงดงามที่ไม่ต้องปรุงแต่งนะคะคุณnui...

ขอบคุณนะคะคุณครู คุณมะเดื่อ ที่แวะมาให้กำลังใจ

และเอาผลงานเด็กๆ มาฝาก เดี๋ยวจะไปอ่าน

ขอบคุณค่ะอาจารย์ Pojana Yeamnaiyana Ed.D.

...ธรรมชาติ...ความงดงามที่ไม่ต้องปรุงแต่ง...

เป็นบทสรุปสำหรับหนังเรื่องนี้ได้ด้วยค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่มาอ่านและมอบดอกไม้ให้กำลังใจดิฉันค่ะ

อ.จัน จันทวรรณ

คุณยาย ยายธี

พี่ใหญ่ นงนาท สนธิสุวรรณ

คุณ วินัย เจริญเฉลิมศักดิ์

ยังไม่ได้ดูตอนแรกเลย

พี่มีตอนสองมาให้อ่านแล้ว

พี่นุ้ยบรยายละเอียดมากๆครับ

เป็นหนังที่ชอบน่ะค่ะน้อง ขจิต ฝอยทอง

ของชอบก็เขียนได้เยอะ ยังไปดูทันนะคะ ดูไม่ทันเดี๋ยวจัดให้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท