ลูกศิษย์ส่งเรื่องนี้มาให้อ่าน อ่านแล้วดีตรงที่เข้าใจความเป็นมนุษย์ได้ลึกซึ้ง เตือนใจให้ยั้งการตัดสินคนอื่นด้วยความคิดด้านลบที่มีอยู่ในหัว.........
เรือสำราญลำหนึ่งเจอมรสุมทางทะเล
บนเรือมีสามีภรรยาคู่หนึ่ง กระเสือกกระสนมาถึงเรือชูชีพ บนเรือชูชีพมีเพียงที่ว่างที่เดียว
ทันใดนั้น สามีผลักภรรยาไปข้างหลัง ตัวเองโดดขึ้นไปบนเรือชูชีพ ภรรยายืนอยู่บนเรือที่ค่อยๆจมลง ตะโกนไปที่สามีประโยคหนึ่ง
เล่าถึงตอนนี้ อาจารย์ถามนักเรียนว่า "พวกเธอเดาซิ ผู้หญิงจะตะโกนว่าอะไร" พวกนักเรียนต่างพูดด้วยอารมณ์โกรธว่า "ฉันเกลียดคุณ ฉันมันตาบอด"
ณ บัดดล อาจารย์สังเกตุเห็นนักเรียนคนหนึ่งไม่พูดไม่จาตลอดเวลา ก็เลยบอกให้ตอบคำถาม นักเรียนตอบว่า "อาจารย์ หนูคิดว่าผู้หญิงคงจะตะโกนว่า---ดูแลลูกเราให้ดีดีนะคะ"
อาจารย์ตกใจ ถามว่า "เธอเคยได้ยินนิทานเรื่องนี้แล้ว ใช่ไหม" นักเรียนสั่นหัว "ไม่เคย แต่ตอนแม่หนูป่วยหนักก่อนตาย ได้พูดแบบนี้กับพ่อหนูค่ะ" อาจารย์ซึ้งใจและพูดว่า "คำตอบถูกต้อง เรือจมลงไปแล้ว ผู้ชายกลับไปถึงบ้านเลี้ยงดูบุตรสาวตามลำพังจนโต หลายปีผ่านไป ผู้ชายป่วยตาย ลูกสาวจัดข้าวของของพ่อ พบไดอารี่ของพ่อ.....ที่แท้ พ่อกับแม่ไปเที่ยวเรือสำราญ แม่ป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ในเงื่อนเวลาแห่งความเป็นความตาย พ่อฉวยโอกาสเดียวที่จะรอดชีวิต
ในไดอารี่พ่อเขียนไว้ว่า "ฉันอยากจะจมลงใต้ทะเลพร้อมเธอ แต่ฉันทำไม่ได้ เพื่อลูกสาวฉันจำต้องให้เธอนอนหลับยาวอยู่ใต้ทะเลลึก"
นิทานจบ ห้องเรียนเงียบกริบ อาจารย์รู้ว่านักเรียนต่างก็เข้าใจนิทานเรื่องนี้กันหมดแล้ว
***************************************************************************************************
ในเรื่องที่ส่งมาให้อ่าน ยังตบท้ายไว้ด้วยข้อความเหล่านี้
ความดีและความชั่วในโลกนี้ บางครั้งดูสับสนไม่ชัดเจน แยกแยะไม่ออก เพราะฉะนั้น อย่าตัดสินคนอื่นแบบผิวเผิน
คนที่ชอบแย่งจ่ายบิลก่อน ไม่ใช่เพราะมีเงินมากไป แต่ให้ความสำคัญของมิตรภาพมากกว่าเงินทอง
เวลาทำงาน คนที่ยินดีทำมากกว่าคนอื่น ไม่ใช่เขาโง่ แต่เขารู้หน้าที่
หลังจากทะเลาะกัน คนที่ขอโทษก่อน ไม่ใช่เขาผิด แต่เขารู้จักทนุถนอมคนข้างกาย
คนที่ยอมช่วยเหลือคุณ ไม่ใช่ติดค้างอะไรคุณ แต่เขาเห็นคุณเป็นเพื่อนแท้
คนที่ส่งข่าวสารให้คุณบ่อยๆ ไม่ใช่ว่างจนไม่มีอะไรทำ แต่เพราะว่าในใจเขามีคุณ
****************************************************************************************************
ณ วันนี้ลูกศิษย์คนที่ส่งมันมาเติบโตขึ้นมาก ตัวเธอตั้งความหวัง "ฉันจะเป็นครูที่ดีให้ได้" รำลึกถึงเธอขึ้นมา จึงนำเรื่องน่าอ่านจากเธอมาแบ่งปัน
บันทึกไว้ ณ วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๘
"...อาจารย์สังเกตุเห็นนักเรียนคนหนึ่งไม่พูดไม่จาตลอดเวลา ก็เลยบอกให้ตอบคำถาม นักเรียนตอบว่า "อาจารย์ หนูคิดว่า..." I like to see more of this "I think...". If we can nurture our learners to think (rather than to momorize), we do really teach!