นายยอด ปอง เมื่อครั้งได้เอกสารเดินทางสำหรับคนต่างด้าวครั้งแรก
ในประเทศไทยยังมีความเข้าใจผิดอยู่เสมอว่า “คนไร้สัญชาติไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้”ทั้งที่ในความเป็นจริงไม่เคยปรากฏกฎหมายหรือนโยบายของไทยใดเลยที่ละเมิดสิทธิในเสรีภาพในการเดินทางดังกล่าวของคนไร้สัญชาติหากแต่คนไร้สัญชาติซึ่งมีสถานะเป็นคนต่างด้าวในประเทศไทยก็ยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายคนเข้าเมืองซึ่งเป็นหลักการสากลในเรื่องนี้ว่า “เพื่อมิให้สิทธิอาศัยในประเทศไทยสิ้นสุดไป คนต่างด้าวจะต้องขออนุญาตเพื่อออกนอกประเทศและขอกลับเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง”[1]
และเพื่อให้การใช้สิทธิในการเดินทางดังกล่าวเป็นไปได้จริงคนไร้สัญชาติจะต้องมี “เอกสารเดินทางสำหรับคนต่างด้าว (Travel Document for Aliens)” ซึ่งออกโดย กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศเจ้าของตัวบุคคล (Personal State) ที่คนไร้สัญชาติอาศัยอยู่ในปัจจุบัน เอกสารเดินทางสำหรับคนต่างด้าวไม่ต่างอะไรกับหนังสือเดินทางของคนสัญชาติไทย (Passport) ซึ่งเป็นเอกสารที่ใช้ในทางระหว่างประเทศในการแสดงว่าพวกเขาเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ได้รับการยอมรับในทางกฎหมายแล้วว่ามีตัวตน ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศต่างๆที่คนไร้สัญชาติต้องการเดินทางไปนั้นยอมรับและอนุญาตให้พวกเขาเดินทางเข้าประเทศ
หากย้อนดูในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยเราจะพบว่ารัฐไทยอนุญาตให้คนไร้สัญชาติเดินทางออกนอกประเทศและอนุญาตให้พวกเขาเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยหลายต่อหลายครั้งด้วยกัน
ไมว่าจะเป็นเรื่องการเดินทางเพื่อเป็นตัวแทนในการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในการแข่งขันต่างๆ อาทิ อาจารย์อายุ นามเทพ เป็นตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันการร้องเพลงประสานเสียงระดับโลก (World Choir) ณ ประเทศออสเตรีย เมื่อปี พ.ศ.2551 น้องหม่อง ทองดี เป็นตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันพับเครื่องบินกระดาษ (Origami Airplane Competition) ณ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี พ.ศ.2552 และสองพี่น้องตระกูลริมพู (น้องสมบูรณ์ และ น้องกิติยา ริมพู) เป็นตัวแทนประเทศไทยในการประกวดวงโยธวาทิต ณ ประเทศฮ่องกง เมื่อปี พ.ศ.2554
นอกจากนี้ หากคนไร้สัญชาติในประเทศไทยต้องการที่จะเดินทางเพื่อการศึกษาดูงานในต่างประเทศก็ยังสามารถทำได้ด้วย อาทิ การเดินทางเพื่อเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาของ นางสาวศรีนวล เสาร์คำนวล ณ สหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ.2551 การเดินทางเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมของ นายยอด ปอง ณ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี พ.ศ.2557 และล่าสุดการเดินทางเพื่อศึกษาในภาคสนาม (Field trip) ภายใต้โครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ของ นางสาวดวงตา หม่องภา ที่กำลังจะเกิดขึ้นในดือนตุลาคมนี้ (พ.ศ.2558) ณ ประเทศเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่สำคัญมากกว่าที่ทำให้การจัดการสิทธิในการเดินทางไปต่างประเทศของคนไร้สัญชาติในประเทศไทยไม่สามารถเป็นไปได้จริง คือ องค์ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนในการใช้สิทธิในการเดินทาง รวมไปถึงสิทธิในการมีเอกสารพิสูจน์ตนที่ใช้ในทางระหว่างประเทศของคนต่างด้าวในประเทศไทย (เอกสารเดินทางสำหรับคนต่างด้าว หรือ Travel Document for Aliens) ยังไม่ถูกเผยแพร่ไปยังเจ้าของปัญหาและผู้รักษาการตามกฎหมายบางส่วน
[1] โปรดดูมาตรา 39 แห่ง พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522
อยากสอบถามว่า
สิทธิในการเดินทางออกนอกประเทศของคนไร้สัญชาติ ที่มีที่อยู่แน่นอนในประเทศไทย สามารถทำได้แม้เป็นเพียงการเดินทางเพื่อท่องเที่ยว ใช่มั้ยคะ