หลักสูตรครูสมาธิ ของพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร มีด้วยกันทั้งหมด 3 เล่ม กล่าวคือ เมื่อเรียนจบ 1 เล่ม เท่ากับว่าจบ 1 ภาคเรียน และนักศึกษาครูสมาธิ ต้องทำกิจกรรมร่วมกันเรียกว่าเป็นกิจกรรมสัมพันธ์ ซึ่งครั้งที่ 1 นี้ จะจัดขึ้นที่วัดธรรมมงคล ...
การร่วมกิจกรรมสัมพันธ์ในครั้งนี้ ได้รับการแนะนำจากอาจารย์ และพี่เลี้ยงว่าจะต้องไปทำอะไรอย่างไร พบอะไรบ้าง ซึ่งผมพยายามวางใจให้ว่างและเป็นกลาง ไม่สร้างมโนภาพในใจตามในสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมา เพื่อต้องการเปิดใจรับกับทุกสิ่งอย่างที่จะเกิดขึ้นจริง ๆ เพราะคิดว่า หากวาดภาพไว้ในใจก่อนไปเจอของจริง หากไม่เป็นไปตามที่วาดไว้หรือมโนไว้ จะทำให้จิตเราตกไป หรือจิตเราฟุ้งมากเกินไป เพราะฉะนั้น วันนี้ที่ได้ไปร่วมกิจกรรม จึงเป็นการเห็นจริงด้วยตัวเอง เห็นจริง ณ ปัจจุบัน และสามารถตามทันอารมณ์ และสามารถกรองอารมณ์ได้ด้วยการมีสติ และมีสมาธิ อย่างที่ควรจะเป็น
ตอนเช้า เรา (สาขาที่ 129 สุมนานุสรณ์ (วัดบางขวาง)) นัดกันตอนตีห้ากว่า ๆ มีอาจารย์และพี่เลี้ยงที่น่ารักมาคอยต้อนรับ แจกเข็มกลัด และรับลงทะเบียน อย่างอบอุ่นก่อนจะเดินทางด้วยรถบัส (เต็มคันรถ) ไปวัดธรรมมงคล ทั้งนี้ในระหว่างการเดินทาง ได้ร่วมกันสวดมนต์ (อิติปิโส) 9 จบ และนั่งสมาธิ จนถึงวัดพอดิบพอดี
ที่วัดได้พบกับเพื่อนนักศึกษาจากสาขาต่าง ๆ ประมาณ 20 กว่าสาขา จาก 130 กว่าสาขา คนมาร่วมกิจกรรมก็ประมาณพันกว่าคน (ได้ยินมาว่าเกินพันห้า) แต่ก็ไม่ได้คุยกับเพื่อนต่างสาขาหรอกนะ เพราะเวลามีจำกัด ต้องทำกิจกรรมต่าง ๆ แบบรวดเร็วมาก เริ่มจากเข้าหอประชุมนั่งตามกลุ่มคละกันทุกสาขา ชมวิดิทัศน์ ๙ มงคล ซึ่งวันนี้จะได้ชมเพียง 4 มงคล เพราะเวลาไม่เอื้ออำนวย จากนั้นก็มีพิธีถวายตัวเป็นศิษย์ หรือการมอบตัวเป็นศิษย์นักศึกษาสมาธิ สำหรับคนที่ยังไม่ได้มอบตัว หรือคนที่สมัครทีหลัง (ผมสมัครก่อน แต่วันมอบตัวผมติดภารกิจเลยต้องร่วมกิจกรรมมอบตัวในวันนี้ด้วยเช่นกัน) ต่อด้วยการสวดมนต์อิติปิโส 3 จบ และนั่งสมาธิแผ่เมตตาจิตอีกครั้ง เมื่อเสร็จแล้ว พระครูปลัดมงคลวัฒน์ (ประธานในพิธี) ได้เชิญชวนให้ทุกคนอธิษฐานให้พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร มีสุขภาพแข็งแรง ส่งกระแสจิตไปถึง usa ด้วย ผมนี้รู้สึกขนลุกขึ้นมาทีเดียว...
เมื่อเสร็จกิจกรรมช่วงแรกในหอประชุม ก็ต้องออกไปชมสิ่งมงคลทั้ง 4 ตามกำหนด ที่แรกที่ไปคือ ถ้ำวิปัสนาที่ประดิษฐานพระเมตตาพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เกิดจากการเห็นในนิมิตรของพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ฯ (อ่านรายละเอียด)
ต่อจากนั้น เป็นการไปกราบนมัสการหลวงพ่อใหญ่ พระพุทธสุพิโนภาสศาสดา ที่ประดิษฐาน ณ อุโบสถ วัดธรรมมงคล เป็นพระพุทธรูปที่พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ฯ ประสงค์จะให้เป็นพระพุทธรูปประจำสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีลักษณะที่ผสมผสานและงดงามยิ่งนัก และการสร้างตลอดจนการทำพิธีเบิกเนตรองค์พระพุทธรูปนี้ก็มีความมงคลเป็นอย่างยิ่ง (อ่านรายละเอียด)
จบจากกิจกรรมนี้แล้ว อีก 2 มงคล เนื่องด้วยจำนวนคนที่เยอะมากและอากาศที่ร้อน ทำให้ผมไม่ได้ไปเยี่ยมชม ก็ขอไม่นำมาเล่าไว้ในบันทึกนี้ แต่ตั้งใจไว้แล้วว่า หากมีโอกาสและบุญวาสนา จะมาเยี่ยมชมกราบนมัสการให้ครบทั้ง ๙ มงคลให้จงได้
เมื่อทุกกลุ่มได้ชมครบ 4 มงคลแล้ว ก่อนทานอาการกลางวัน ได้มารวมตัวกันที่หอประชุมอีกครั้งเพื่อทำพิธีถวายผ้าป่ามหากุศล ที่เกิดจากแรงศรัทธาคนละเล็กละน้อยทำบุญร่วมกัน (ผมก็ทำตามกำลังศรัทธาเช่นกัน และเป็นส่วนที่ได้ให้พ่อและแม่อธิษฐานทำบุญมาด้วยแล้ว) ปรากฎว่าเงินผ้าป่าในวันนี้ได้ถึง หนึ่งแสนสามหมื่นกว่าบาท ทุกคนได้ร่วมอนุโมทนาสาธุกันไปตาม ๆ กัน แล้วก็ต่อด้วยการประชาสัมพันธ์โครงการ/กิจกรรมร่วมบุญกุศลเพื่อสังคมเพื่อประเทศและเพื่อโลกใบนี้ ให้เกิดสันติสุข
หากจะสรุปด้วยตัวผมเอง ว่าได้อะไรบ้างในการทำกิจกรรมสัมพันธ์ในวันนี้ ผมคงจะบอกว่า สิ่งที่ผมได้คือ
1. เกิดการศรัทธาในการเป็นส่วนหนึ่งของนักศึกษาครูสมาธิของสถาบันพลังจิตตานุภาพแห่งนี้ เพราะเห็นว่าสิ่งที่พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ได้ตั้งใจทำนั้น ท่านทำเพื่อความสุข สงบ ความสันติของคนในสังคม ในประเทศ และในโลกใบนี้
2. การมีโอกาสได้มาเจอเพื่อนร่วมรุ่น (รุ่นที่ 37 สัตตัตติงสโม) ที่มากจากสาขาต่าง ๆ มากมายนั้น ทำให้เข้าใจได้ว่า ทุกคนต่างมีความมุ่งมั่นปรารถนาดีเหมือน ๆ กัน แต่การได้พบปะกันเพียงเสี้ยววินาทีที่เดินผ่านหน้ากัน หรือนั่งเบียดเสียดกันนั้น เราอาจจะพบทั้งความเอื้ออารี ความคับแคบสถานที่ ความโวยวาย หรือ อะไรต่อมิอะไร แต่สุดท้ายแล้ว ผมก็ได้นำการเรียนที่ผ่านมาช่วยกรองอารมณ์ต่าง ๆ ให้สงบและอยู่ร่วมกับเพื่อน ๆ ได้ทุกสถานการณ์ คือ สามารถทำให้ใจตัวเองสงบ ระงับ และเย็น ได้จริง ๆ (อานิสงค์ของการเรียนสมาธิเบื้องต้น)
3. การบอกกล่าวกิจกรรมเพื่อระดมทุนของมูลนิธิต่าง ๆ ผมมองว่า มิได้ระดมเงินทุนไปเพื่อเป็นการสร้างอาณาจักร หรือวัตถุใหญ่โตมโหฬารไว้ประดับบารมี แต่ระดมทุนไปเพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางด้านจิตใจของมนุษยชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผม หรือใคร ๆ ก็สามารถช่วยได้ แม้จะเป็นแค่เศษสตางค์เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เมื่อร้อยคน ล้านคน ร่วมกัน จากเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เป็นมหาศาลได้เช่นกัน เพื่อสังคมโลกน่าอยู่
4. และสิ่งสำคัญ แม้ผมจะไม่ได้รู้จักเพื่อนในสาขาอื่น ๆ แต่ผมกลับได้รู้จักกัลยาณมิตรที่เรียนร่วมกันในสาขาเดียวกัน ที่เมื่อก่อนเราแทบจะไม่ได้คุยกัน หรือไม่ได้ยิ้มให้กันเลย แต่วันนี้ ผมกลับได้มิตรภาพที่มากมายจากมิตรสหายเหล่านั้น และจะเป็นมิตรภาพที่ดีตลอดไป จากคนที่ไม่เคยคุยกัน วันนี้ เราได้คุยกันมากมายจริง ๆ ตั้งแต่ออกจากวัดจนถึงวัด...
ก่อนเดินทางกลับ ผมได้เดินดูและเก็บภาพไว้ ขอเอามาแบ่งปันสักเล็กน้อย
หากอ่านบันทึกนี้แล้ว เห็นถึงโอกาสในการร่วมสร้างบุญกุศลร่วมกัน ก็ขออนุโมทนาบุญนะครับ
ได้ทั้งบุญ และมิตรภาพ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากนะคะ
พี่มาอนุโมทนาค่ะ