นานมากแล้วกับต้นเงาะโรงเรียน พันธุ์จากอำเภอนาสาร
ที่เตี่ยนั้นปลูกไว้ เท่าที่ฉันจำได้ ราคาดีไม่เกิน5บาท
ไม่ว่าจะยุคไหน ใครเป็นรัฐบาล เกษตรกรชาวบ้าน ณ ชายแดนใต้
ที่ห่างไกล โพ้น ... ที่ไม่อาจจะทำกินแล้วได้ดี ตลอดรอดถึงฝั่ง
บางบ้านโค่นทิ้งทั้งสวน เผาถ่านขาย กระสอบละร้อย
หันมาปลูกยางพารา ที่มีทีท่าว่าจะแพง ขึ้นถึงร้อยกว่าบาทต่อกิโล
ต่อมาถึงวันนี้ราคาตกต่ำจนถึงต่ำ
มาตอนนี้ ...
ชาวบ้านที่นี่ถ้ำทะลุ บางคน
เริ่มโค่นต้นยางพาราที่อายุสามสี่ปี ส่งโรงงานรมยางแผ่นทำฟืน
แล้วหันมาก้มหน้าก้มตาปลูกทุเรียนหมอนทองกัน
ด้วยทุเรียนหมอนทองตอนนี้นั้น ราคาดี กิโลละครึ่งร้อย
กว่าจะได้เก็บผล อีก ห้าหกปี
ถึงตอนนั้นราคาทุเรียนหมอนจะเป็นเช่นไร
...
ความจริงเราต้องปรับความเป็นอยู่ที่พอดี พอเพียง
ก็คิดว่าเราไม่น่าจะต้องโค่นอย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อราคาตกต่ำ
สุดท้ายเราเองนั้นแหละจะช้ำใจ ปลูกอะไรๆก็ยังไม่ทันได้กิน
...
มาพูดต่อ ถึง เงาะที่สวนเตี่ย
ที่ปีนี้ เราช่วยกันเก็บเพียงเล็กน้อย เก็บกันทั้งวันได้ไม่กี่ร้อยบาท
หลังจากนั้นไม่ได้ช่วยแม่เก็บต่อ ด้วยภาระกิจ กล้วย กล้วย งานประจำ
โชคดีที่มีพ่อค้ามารับซื้อ เก็บเองในราคา กิโลกรัมละ3บาท
แม่จึงตกลงขาย
คนรับซื้อเก็บ 2วัน ได้เงาะ 6ร้อยกว่า กิโลกรัม
แม่ได้ค่าขายเงาะ เพียง 2พันกว่าบาท
แต่ก็ดีกว่า ต้องทิ้งเปล่าสุกคาต้น หล่นลงพื้น
...
บันทึกว่า ว่า ปีนี้ 2558
ทั้งเงาะ และลองกอง ราคา โลละ 3 บาท
...
วันที่บันทึก10ตุลาคม 2558
นารี ชูเรืองสุข
...
ไมราคาตกจัง...เกษตรกรก็แย่สิครับ
เก็บขายได้บ้างก็ยังดีกว่าปล่อยทิ้งไปนะคะ
รู้สึกเหมือนกันเลยนะครับ
..
เป็นกำลังใจครับคุณหนูรี