หลังจากเสร็จภารกิจอื่น ๆ ช่วงบ่าย ขอให้ครูหัวหน้างานวิชาการ
พาเดินชมโรงเรียนสัก ๑ รอบ เพื่อทำความรู้จักสถานที่และ
ตรวจสอบปัญหาด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าอีกที
ห้องเรียนเด็กตั้งแต่ ป.๑ - ป.๖
คุณครูประจำชั้นจะมีการตกแต่งห้องด้วยการจัดบอร์ดตามพื้นที่ต่าง ๆ ของห้องเรียน
เช่น ประตู หน้าต่าง ฝาผนังด้านหลัง ด้านข้างของห้อง ฯลฯ
ห้องเรียนอากาศปลอดโปร่งดี มีโครงการที่จะติดตั้งเครื่องปรับอากาศ
แต่ยังไม่ได้ดำเนินปิดช่องหน้าต่างด้านบน
โต๊ะเก้าอี้ของเด็กนักเรียนมี ประมาณ ๓๐ - ๔๐ ชุด ทุกห้องเรียน
คุณครูก็สอนกันไป มองเห็นบ้าง มองไม่เห็นบ้าง
ตามวิถีความคิดของพวกคุณครูเอง
ห้อง Construct
เขาเรียกกันแบบนี้ เป็นห้องเรียนที่พิเศษกว่าห้องเรียนปกติ
มีเครื่องคอมพิวเตอร์ LCD Project แต่ห้องเรียนปกติไม่มี
แล้วมีการสอนแบบ Constructivisim
ห้ามถามว่าเป็นยังไง คือ ผมก็ไม่ทราบ
ว่าง ๆ คงต้องเรียกครูที่เคยไปดูงานที่โรงเรียนดรุณสิกขาลัย
มาอธิบายให้ฟังหน่อย
ชั้น ป.๖ ถูกทดลองใช้ก่อนเป็นรุ่นแรก
แต่ชั้น ป.๕ จะเป็นการสอนแบบปกติ
แต่ผู้ปกครองบางส่วนต้องการให้มีการสอนแบบนี้กับลูกของตัวเอง
จึงยอมเสียค่าใช้จ่ายให้กับโรงเรียน
ทำให้เด็ก ป.๕ มี ๒ ห้อง คือ
ห้องที่เรียนแบบ Construct สัก ๒๐ คน
กับห้องที่เรียนแบบปกติ อีก ๔๐ กว่าคน
สำหรับความเห็นส่วนตัว
นี่คือความไม่เท่าเทียมกันของนักเรียนระดับชั้นเดียวกัน
พ่อแม่คนไหนมีเงิน ก็อยากให้ลูกได้เรียนแบบ Construct
หากพ่อแม่คนไหนไม่มีเงิน ก็ทำได้แค่ให้เรียนแบบธรรมดาไป
ถ้า ป.๕ ห้อง Construct จบไปเมื่อใด
ควรยุติเหตุการณ์แบบนี้ไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก
ถ้าชอบ Construct กัน ก็ควรสอนให้ได้ทุกห้อง
แต่ไม่ใช่การแบ่งแยกแบบนี้
ห้องคอมพิวเตอร์
ห้องคอมพิวเตอร์ที่ได้รับงบเร่งด่วนมา
อยู่ในระหว่างการสร้างห้องใหม่
ส่วนห้องคอมพิวเตอร์เก่า ก็ยังใช้เรียนอยู่
มีครูคอมพิวเตอร์คนเดียว
และเครื่องคอมพิวเตอร์ชุดเก่า
ที่ย้ายออกมาจากห้องที่กำลังทำ
กลับไม่มีที่เก็บ เอาไปวางกองไว้
ตามห้องต่าง ๆ ที่พอมีที่ว่าง
ดูแล้วก็น่าเศร้าจริง ๆ
ห้อง IBM
เป็นห้องที่มีคอมฯ ที่ได้รับฟรีมาจาก IBM
แต่ไม่มีครูใช้สอน
แถมยังเอาห้องไปเป็นที่ฝึกกีฬาในร่มอีก
ไม่รู้จะพูดยังไง
ห้องน้ำ
ได้งบเร่งด่วนปรับปรุงแล้ว
แต่ก็ไม่รู้จะดำเนินการทันหรือไม่
ภายใน ๒ เดือนเท่านั้น
ห้องประกันคุณภาพ
เอาไว้เวลาโรงเรียนมีการรวบรวมเอกสาร
สำหรับการทำประกันคุณภาพ
มีชั้น มีกล่องใส่เอกสาร
วางเหมือนรอตรวจประกัน
มีครูคนหนึ่งที่เคยเป็นผู้ประเมิน
ทำหน้าที่รับผิดชอบงานประกันคุณภาพ
ห้องพักครู
เขาไม่พาชมเลย
ไม่ชอบมาพากล
ยังไงก็ไม่ทราบ
ลิฟท์
มีแต่ไม่ได้ใช้
ทำสายยูมาล็อกประตูทุกชั้น
เพราะมีเด็กชอบมากดเล่น
จนลิฟท์เสื่อมสภาพ
ห้องสมุด
สภาพห้องสมุดทรุดโทรม
เหมือนขาดคนมีความรู้ด้านนี้มาดูแล
ห้องมีขนาด ๔ คูณ ๕ เมตร
แยก ๓ ส่วน คือ Asean, ห้องสมุด และ
ที่พักครูผู้ดูแล
ส่วนห้องสมุด จัดแบบ Dewey
หนังสือเก่ามาก ไม่ค่อยได้งบทดแทน
มีเครื่องปรับอากาศ ๒ ตัว
ครูผู้ดูแลจบปฐมวัย โทหลักสูตรและการสอน
ไม่ตรงสายวิชาชีพห้องสมุด
อยากได้โน้นอยากได้นี่
แต่ไม่ค่อยจะแสดงอะไรให้เป็นประจักษ์
เห็นแล้วก็ เหอ เหอ
ต้องปรับปรุงอย่างหนักอีกแล้ว
ธนาคารโรงเรียน
ธ.ออมสิน เพิ่งมา MOU กับโรงเรียน
ธนาคารจะเปิดเป็นช่วง ๆ ไป
ตามที่มีเวลาว่าง
ครูคณิตเป็นคนดูแล
นักเรียนเข้ามาเป็นผู้ให้บริการ
ห้องซ้อมดนตรี
เป็นอาคารที่ไม่มีฝ้ากันความร้อน
ไม่มีเครื่องปรับอากาศ
คับแคบ เครื่องดนตรีไม่มีที่เก็บ
แถมเอาเคร่ื่องกีฬามาเก็บไว้อีก
ชมรมศิษย์เก่า
อยู่ด้านหน้าโรงเรียน
เป็นห้องเล็ก ๆ คล้าย ๆ ป้อมยาม
ภายในมีอุปกรณ์สำนักงานครบ
ห้องแนะแนว
เคยมีภาคจิตวิทยามาจัดการอยู่พักหนึ่ง
แล้วตอนนี้ก็หายไป
กลายเป็นห้องที่ผมต้องเข้าไปนั่งทำงานแทน
อันนี้เดินแบบคร่าว ๆ สัก ๑ ชั่วโมง
รู้เลยว่า ระบบการบริหารจัดการมันดูเข้าขั้นแย่มาก
คนอยู่แบบเซ็งกะตายมากกว่ามีความสุข
แต่หลังจากนี้ไปหากเขายังไม่ทำงานอีก
เขาจะอยู่ไม่ได้ เพราะองค์กรจะอยู่ไม่ได้เช่นกัน
นี่ผมมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะเลยหรือนี่
โอ้ ไม่นะ ;(...
บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)...
It seems we need more 'imaginative management' and 'inventive practice' to make 'full use' of what available in schools (before we cry out for 'more').
;-)
เมื่อก่อนนี้..เรียก (การทำงานว่า)..เช้าชามเย็นชาม..ต่อมาเช้าถึงเย็นหลายๆชาม..ปัจจุบัน..ใครหยิบชามไปไม่รู้..เลยใช้ถุงพลาสติค..ไม่มีหลักฐาน..แต่เลอะเทอะเต็มไปหมดทั้งโลก..5555
ผู้ปกครองยอมเสียเงินเพื่อให้ลูกได้เรียนแบบ 'construct' คงจะเข้าใจผิดกันใหญ่โตในแนวคิดทฤษฏี
constructivism
-สวัสดีครับ
-ข้อมูลเรื่องการแบ่งแยกห้องเรียนลักษณะห้องพิเศษกับห้องธรรมดาผมว่ามันแปลก ๆ เหมือนกันครับ
-น้องโบลิ่ง....หลานสาวเธอเรียนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่ง เล่าให้ฟังว่าเพื่อนของเธอที่สนิทกันเรียนอยู่ห้องพิเศษ ส่วนเธอเรียนห้องธรรมดา ผมถามเธอว่าอยากจะเรียนห้องพิเศษไหม เธอบอกว่า"หนูไม่อยากเรียนห้องพิเศษ อยากเรียนห้องธรรมดา ๆ นี่แหละ"
-เธอบอกว่าเด็กห้องพิเศษนี้ไม่ต้องเข้าแถวเคารพธงชาติ เพราะต้องเข้าเรียนตั้งแต่เช้า
-ส่วนห้องของเธอเข้าแถวและมีกิจกรรมตามปกติ....เธอก็เลยชอบใจ....
-เป็นสิ่งที่เห็นและรับรู้ ณ มุมหนึ่งของผู้ที่ไม่ได้อยู่ในวงการศึกษาน่ะครับ...จึงไม่ทราบถึงรายละเอียดสักเท่าไหร่...
-ถือว่าเป็นการบอกเล่าและขอร่วมศึกษาข้อมูล ณ โรงเรียนของครูก็แล้วกันนะครับ.....
-ขอบคุณครับ.....
ไม่อยากร้องไห้หนักมากครับ ท่าน sr 555
เลอะเทอะนอกชามเลยครับ คุณ ยายธี 555
ผมก็รู้สึกเหมือนกันว่า มันคืออะไรน่ะครับ ท่านอาจารย์ GD ;)...
บางทีก็ผมก็มานั่งคิดว่า คนเราอยากเป็นคนธรรมดา หรือเป็นคนพิเศษ
ขอบคุณมากครับ คุณเพชรฯ เพชรน้ำหนึ่ง ;)...
ผมว่าการเรียนรู้สภาพจริงของโรงเรียนน่าจะช่วยให้ผู้บริหาร ครู นักการ ผู้ปกครอง และตัวเด็กคิดที่จะปรับปรุงห้องต่างๆให้ดีขึ้นนะครับ
ขอบคุณมากครับ อาจารย์ต้น ;)...
อ่ะนะ สู้ ๆ คร้า
ขอบคุณครับ คุณหมอธิ ธิรัมภา ;)...
ตามมาให้กำลังใจครับ
พูดกับตัวเองเลยครับว่า
ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ทำไม่ไหว ทำไม่ทัน เอี้ย บรึ้ม (คุ้นๆไหมครับ)
555
ขอบคุณมากครับ อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง 555