วันแรกที่ซอลเบิร์ก (Salzburg) โผล่ออกไปสถานีรถไฟตกใจที่เห็นทหารตำรวจมากมายเต็มสถานี คิดว่า มีรัฐประหารกันหรือไร
อ้อ...ผู้อพยพชาวซีเรียนี่เอง มีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก นั่งนอนกันอยู่เต็มพื้นที่ว่าง เห็นเช่นนี้ทุกวัน แต่ดูเหมือนจะเปลี่ยนกลุ่มกันไป คงแวะมารอขึ้นรถไฟต่อไปที่อื่น
การควบคุมก็ดูไม่เข้มงวด แค่ขึงเชือกสีแดงไว้เส้นเดียว ถ้าจะเดินไปไหนก็น่าจะได้ ไม่มีสัญลักษณ์อะไรบอกว่าเป็นผู้อพยพชีเรีย สำหรับฉันดูแล้วหน้าตาพวกเขาก็กลมกลืนกับชาวเมืองได้
เราต้องเดินผ่านพวกเขาเข้าไปซื้อตั๋ววันสำหรับเดินทาง เดินเข้าห้องน้ำก็ต้องผ่านตรงนี้
ใหม่ๆ ก็กลัวๆ แล้วก็ถามตัวเองในภายหลังว่า "กลัวอะไร? ทำไมต้องกลัว? พวกเขาเป็นมนุษย์เหมือนเรา ต่างจากเราที่พลัดบ้านเมืองมา สมควรต้องเห็นใจ"
หน่วยพยาบาลตั้งอยู่นอกสถานีที่ซอลเบิร์ก
.............................
หลายวันผ่านไป ที่ลินซ์ (
เจอพวกเขาอีกครั้ง ขณะกำลังเดินขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ เพื่อเดินทางไปที่ไหนสักที่
หนนี้ มีเวลาที่จะยืนดู พร้อมๆ กับชาวเมืองลินซ์ที่กำลังรอรถไฟ
สังเกตเห็นชัดเจนว่า พวกผู้อพยพ หน้าตายิ้มแย้ม ฉันเดินถอยห่างออกไปไกลๆ เพื่อถ่ายภาพ
ด้วยกลัวตำรวจทหารที่คุมมา ตกใจเหมือนกันที่ผู้อพยพคนหนึ่งโบกมือ และยิ้มให้กล้องแสดงว่าเขามองตามฉันอยู่
............................
สงครามของคนชาติเดียวกันในชีเรีย มีการเข้าไปแทรกแซงของรัสเซียกับอเมริกา หนุนหลังคนละฝ่าย และทั้งสองประเทศมิได้แสดงความรับผิดชอบใดๆ ต่อผู้อพยพ
เกิดคำถามมากมาย เช่น
- เหตุใดชาวชีเรียจึงไม่อพยพไปอยู่ในประเทศร่ำรวยในอ่าวเปอร์เซียที่ใกล้กว่า แต่เลือกที่จะไปยุโรป เช่น เยอรมัน ออสเตรีย
- เหตุใดประเทศร่ำรวยในอ่าวเปอร์เซียจึงไม่ยินดียินร้าย เสนอความช่วยเหลือผู้อพยพที่เป็นเพื่อนบ้าน ใจดำไปหรือเปล่า
- ประชาชนชาวเยอรมัน หรือ ออสเตรีย คิดอย่างไร ต่อการที่ผู้นำประเทศของตัวเองยื่นมือประกาศรับผู้อพยพ ซึ่งทะลุ 3 ล้านไปแล้ว
- การรับผู้อพยพ เป็นการดูแลระยะยาว ต้องใช้เงินที่เป็นภาษีของพวกเขา จนกว่าผู้อพยพจะทำมาหากินด้วยตัวเองได้ และถ้าทำมาหากินเองไม่ได้ หรือไม่อยากทำมาหากิน ปัญหาเชิงสังคมจะตามมามากมาย
- ต้องเกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายในประเทศที่รับผู้อพยพ ที่ต่างวัฒนธรรม ต่างศาสนา แน่นอน น่าเห็นใจ
- คำถามกลับมาที่ว่า รัสเซีย อเมริกา ไป "แทรกแซง" เรื่องประเทศอื่นทำไม? อยากอวดอำนาจว่า “ข้าใหญ่” หรืออยากได้ทรัพยากรของชาวบ้าน
สงครามเกิดจาก “คนบ้าอำนาจ” ไม่กี่คน แต่ประชาชนตาดำๆ เดือดร้อนล้มตายนับล้าน
.....................
ไม่นานมานี้ “คนบ้าอำนาจ” ไม่กี่คน สร้างเงื่อนไข สถานการณ์ ยุยงให้แตกแยก มีการสร้างความรุนแรงหวังให้ลุกลามเป็นสงครามกลางเมืองในประเทศไทย
อเมริกาจดจ้องที่จะข้ามาแทรกแซง
โชคดีที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ตกหลุมพราง คนไทยมีสติ รักสงบ รักชาติ รักแผ่นดิน เราจึงไม่เป็นเหยื่อ
คำถามคือ
หากโชคร้าย คนไทยบ้าอำนาจทำการสำเร็จ เราคนไทยต้องเป็นผู้อพยพ คุณอยากไปประเทศไหน??
ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า มาเลเซีย?.
เสาร์ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๘
คุณมะเดื่อคงอพยพไปอยู่ยอดเขาตะนาวศรีนะ
แต่ไม่ข้ามเขตแดนปน่ ๆ จ้าาา
สงครามไม่ใช่..สิ่ง..งดงาม..แต่โหดร้าย..ไม่มีสงครามจะดีกว่า...ตราบใด..ที่ยังมีคำว่าคนไทย..ที่เป็นชนชาติรักสงบ มานมนาน..ความโหด..จริงๆอย่างคำว่าสงคราม..คงจะไม่เกิดขึ้น..ง่ายๆ...เราก็คงยังไม่ต้องหนีไปไหน..นะเจ้าคะ...(บางทีได้ยินคำเปรียบเปรยว่า..เงินซื้อได้ทุกสิ่ง..บางทีอาจจะมีคนบ้าๆที่มีเงินเหลือล้นและไม่พอซักทีซื้อสงครามเข้าประเทศ..น่าจะเป็นได้..ถึงตอนนั้น..คง
เหลือแต่ธุลีดินแล้ว....๕...
ไม่ชอบพี่ใหญ่มหาอำนาจและไม่อยากให้เกิดในไทย
ไม่อยากอพยพไปที่ประเทศอื่นครับ
มาบอกพี่ว่า
มะนาวรอดแล้ว แต่มีหนอนกินยอดเจอก็จับออกนะครับ
เป็นหนอนตัวเขียวๆ บางทีตอนกลางคืนมีตั๊กแตนมากินใบด้วย
ต้นถั่วพูใช้ได้แล้วครับ
เก็บเมล็ดพันธุ์ไว้นะครับ
ส่วนกวางตุ้งเข้าใจว่าดินไม่ดี
คงห้องหาขี้วัวหรือขี้ไก่ใส่
ในภาพต้นแน่นเกินไปครับ ลองพรวนดินและเอ่ปุ๋ยขี้วัยหรือขี้ไก่ใส่นะครับ
ขอบคุณมากๆครับ
….. อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/597010
ไม่อยากไปไหน....
และคงไม่เกิดที่บ้านเรา....
มุมมองของอ. nui น่าสนใจจึงขอร่วมวงสนทนาด้วยความเห็นและความหวังครับว่า
เห็นว่า...ประเทศมหาอำนาจชอบแทรกแซงประเทศอื่นเพื่อทรัพยากรธรรมชาติโดยตรงและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจการเมืองและยุทธศาสตร์ทั้งในระดับโลกและภูมิภาค รวมถึงกำไรจากการขายอาวุธสงครามภายหลังการที่ได้แสดงแสนยานุภาพนั้น
หวังว่า...ไทยจะยังรักษาความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติได้ต่อไปโดยเฉพาะในเรื่องของแหล่งอาหารด้วยการร่วมมือกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
หวังว่าชาวไทยจะรักสามัคคีและรักชาติมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตน
และหวังว่ารัฐบาลจะมีความสามารถรู้เท่าทันไม่พลาดท่าเสียทีให้แก่ใครๆ
ดังเช่นที่บรรพบุรุษของไทยได้เก็บรักษาเอาไว้ให้จนถึงรุ่นของพวกเราด้วยครับ
บนนั้นเสือเยอะนะคะน้องครูมะเดื่อ....5555
พี่ว่าคนไทยไม่ต้องเป็นผู้อพยพแน่นอนค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณยายธี
ดิฉันคิดตามที่เขียนบันทึกขณะยืนดูผู้อพยพที่ลินซ์ค่ะ
และได้ข้อสรุปว่าเราคนไทยโชคดีที่มีปัจจัยหลายอย่างไม่ทำให้เกิดความรุนแรงที่นำไปสู่สงครามกลางเมือง และคิดเล่นๆ ต่อไปว่าหากเกิด ทางเลือกสุดท้ายถ้าเลือกได้ เราคงอยากไปประเทศที่ต้อนรับเรา และดีต่อชีวิตเรามากกว่า
ซึ่งมันไม่เกิด แต่ใครจะรู้อนาคต
ขอบคุณค่ะอาจารย์ สำหรับคำแนะนำ
พี่ทำตามนั้นทุกประการ ไปถอนต้นผักออกให้เหลือห่างๆ ใส่ปุ๋ย
เมื่อคืนจับหนอนตัวเขียวๆ ทิ้งไป 2 ตัว แล้วก็สงสารเขา ทำไงดี?...555
ใช่ค่ะคุณพิชัย บ้านเราไม่มีโอกาสเกิดสงครามกลางเมือง
ดิฉันคิดเปรียบเทียบเพื่อให้เข้าถึงความรู้สึกของผู้อพยพ จริงๆ แล้วมนุษย์ทุกคนรักประเทศถิ่นเกิดตัวเอง หากไม่สุดวิสัยเราย่อมไม่คิดถึงบ้านทิ้งเมืองกลายเป็นผู้อพยพ เพราะมันเจ็บปวดมาก
ขอบคุณนะคะอ.โรจน์ สำหรับความเห็นดีๆ
ประเทศมหาอำนาจชอบแทรกแซงประเทศอื่นเพราะอยากได้ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศนั้นๆ ด้วยความร่วมมือของนักการเมือง ไม่มีจริงใจหรอกนะคะ
ประเทศไทยยังโชคดี
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
ขอบคุณนะคะสำหรับดอกไม้ บุษยมาศ
หวังว่าเราคงไม่ต้องอพไปไหนไกล ๆ แต่อพยพภายในคงมีโอกาส เช่นหนีน้ำท่วมค่ะ
ขอโทษค่ะ พิมพ์ผิด ในอิรักค่ะ
จับหนอนตัวเขียวออกไป
ไม่บาปหรอกครับ
ไม่ได้ฆ่าเขาครับ
ผมก็จับเป็นประจำ 555
ขอบพระคุณ อ.ดร.กัลยา ค่ะที่สรรหาของดีๆ มาให้ดูเสมอๆ
ดิฉันก็ไม่คิดไปไหน และโอกาสเกิดภัยสงครามยาก แต่หนีน้ำนี่เป็นไปได้นะคะ หวั่นๆ เพราะจังหวัดดิฉันเป็นจังหวัดแรกๆ ที่จะถูกทะเลกลืนค่ะ
ถ้าสิ่งที่นักวิชาการทำนายไว้เป็นจริง แต่ก็ช่างเถอะ เกิดอะไรก็เกิด
พาพี่ไปด้วยนะน้องเพชร ไปกับน้องนี่ไม่อด...555
เมื่อเช้าออกไปจับปล่อยนอกบ้าน 2 ตัวค่ะน้องอาจารย์ขจิต
หนอนกลายเป็นผู้อพยพ
พี่ใหญ่เป็นคนหนึ่งที่จะไม่ทิ้งประเทศไทยค่ะ...ทำบุญทานให้ที่อยู่อาศัยแก่คนและสัตว์ไว้มาก...
ขอบคุณค่ะพี่ใหญ่ เราคงไม่ต้องไปจากประเทศไทยอันแสนสุขนี้แน่นอนค่ะ
ตัวอ้วนน่ากลัวจังค่ะน้อง ตัวขนาดนี้ไม่กล้าจับค่ะ