สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้จัดให้มีการการเสวนาสรุปผลการดำเนินงานของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ประจำปี ๒๕๕๘ ในหัวข้อ "สร้างสุขในสังคม ด้วยการพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน" เพื่อให้ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบการดำเนินงานและร่วมกันให้ข้อคิดเห็นในการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานอย่างยั่งยืน เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ณ ห้องประชุมเทเวศร์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งข้าพเจ้าได้รับเชิญไปร่วมงานนี้ด้วยในฐานะกรรมการมูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และข้าพเข้าขอนำสาระสำคัญของการเสวนาบางหัวข้อมาเล่าให้ผู้อ่านได้ทราบด้วย
ศาสตราจารย์ ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้กล่าวเปิดงานว่า การดำเนินงานของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้น้อมนำ "พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงยึดมั่นหลักการทรงงานในหน้าที่ ทั้งในฐานะพระมหากษัตริย์ และในฐานะพลเมืองดีของประเทศชาติ".. มาเป็นเข็มทิศในการดำเนินงานตามหน้าที่การบริหารจัดการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นภารกิจหลัก และการพัฒนาสังคมผ่านกิจกรรมต่างๆที่เป็นประโยชน์ในฐานะพลเมืองดีของประเทศ
สัดส่วนการดำนินงานในหน้าที่หลัก คิดเป็นร้อยละ ๓๘ ของงบประมาณรายจ่าย ในขณะที่การปฏิงานในฐานะพลเมืองดี มีสัดส่วนร้อย ๖๒ เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดความสุขอย่างยั่งยืนด้วยการแบ่งปันสู่สังคมในด้านการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนทุกช่วงวัย ได้แก่เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ และผู้พิการ รวมทั้งผู้ด้อยโอกาส โดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้ดำเนินการร่วมกับภาคีเครือข่าย เช่น มูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มูลนิธิยุวสถิรคุณ มูลนิธิมั่นพัฒนา บริษัททุนลดาวัลย์ จำกัด รวมทั้งภาคธรุกิจ ที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถือหุ้น เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทเทเวศร์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้โดยมีกลยุทธ์การขับเคลื่อนงานของ S4S Sufficiency for Sustainability (พอเพียงเพื่อยั่งยืน)
คุณสมบูรณ์ ชัยเดชสุริยะ รองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และ รศ.ดร.เฉลิมพล เกิดมณี หัวหน้าโครงการพลังปัญญา สถาบันมั่นพัฒนา มูลนิธิมั่นพัฒนา ได้ร่วมกันเล่าถึงการดำเนินงานของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อสร้างสุขในสังคมด้วยหน้าที่และการเป็นพลเมืองดีของชาติ
คุณปราโมทย์ โชติมงคล ผู้อำนวยการศูนย์โรงเรียนคุณธรรม มูลนิธิยุวสถิรคุณ และดร.ปรียานุช ธรรมปิยา ผู้อำนวยการศูนย์สถานศึกษาพอเพียง มูลนิธิยุวสถิรคุณ ได้ร่วมกันเสวนา เรื่อง "การสร้างอนาคตของชาติผ่านเยาวชน ด้วยคุณธรรมและความพอเพียง
ในช่วงสุดท้ายของการเสวนา คุณจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองผู้อำนวยการสายงานบริหารและสนับสนุนกลยุทธ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และคุณหทัยรัตน์ ยุภาศ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้ร่วมกันเสวนา "รวมพลังเครือข่ายไทยและสากล เพื่อความสุขที่ยั่งยืน" ที่ได้มุ่งเน้นการรณรงค์ "อย่าให้ใครว่าไทย" เพื่อกระตุ้นให้คนไทยปรับเปลี่ยนกระบวนท้ศน์ สร้างค่านิยมใหม่อย่างเร่งด่วน ให้คนไทยเปลี่ยนความเชื่อ ทัศนคติ พฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องคอรัปชั่น มักง่าย ไร้สติ ฟุ้งเฟ้อ มาสู่การมีจิตสำนึกที่ดี มีวินัย สร้างภูมิคุ้มกัน และพฤติกรรมอันดี ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญเบื้องต้น ที่จะทำให้ประเทศพัฒนาก้าวหน้าต่อไป ซึ่ง ณ สิ้นปี ๒๕๕๘ มีองค์กรและภาคีเครือข่ายจำนวนทั้งสิ้น ๘๘ องค์กร และเพิ่มเป็น ๑๐๒ แห่งในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ในส่วนของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ศาสตราจารย์ ดร. จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ได้ประกาศให้เป็น "องค์กรแห่งคุณธรรม" มีคำขวัญว่า "อย่าให้ใครว่า คนทรัพย์สินฯไม่ทำความดี" โดยร่วมกันมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมต่อไปอย่างยั่งยืน
ปิดท้ายรายการเสวนาด้วยการเปิดโอกาสเปิดให้ผู้ร่วมงานแสดงความเห็น ซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิได้เสนอแนวคิดดีๆด้านต่างๆในการพัฒนางานด้านสังคมของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ในส่วนของข้าพเจ้านั้น ได้เสนอความเห็นสำหรับการรณรงค์โครงการ "อย่าให้ใครว่าไทย"ในช่วงต่อไปนั้น อาจคัดเลือกตัวอย่างของการทำความดีที่มีปรากฏอยู่หลายด้านในกิจกรรมสังคมขององค์กร และภาคีเครือข่าย เพื่อเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ในรูปแบบที่น่าสนใจ ในการเป็นแรงบันดาลใจแบบอย่างของการทำความดีในโครงการ "อย่าให้ใครว่าไทย"
ข้าพเจ้าขอขอบคุณสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่ได้เปิดโอกาสให้ได้มาร่วมรับทราบการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านอย่างต่อเนื่อง และขอปวารณาตนในการร่วมสนับสนุนคนทำดีในโครงการเหล่านี้อย่างเต็มกำลังความสามารถ
................................................................................................................................................................
I like this: "... "รวมพลังเครือข่ายไทยและสากล เพื่อความสุขที่ ยั่งยืน" ที่ได้มุ่งเน้นการรณรงค์ "อย่าให้ใครว่าไทย" เพื่อกระตุ้นให้คนไทยปรับเปลี่ยนกระบวนท้ศน์ สร้างค่านิยมใหม่อย่างเร่งด่วน ให้คนไทยเปลี่ยนความเชื่อ ทัศนคติ พฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องคอรัปชั่น มักง่าย ไร้สติ ฟุ้งเฟ้อ มาสู่การมีจิตสำนึกที่ดั มีวินัย สร้างภูมิคุ้มกัน และพฤติกรรมอันดี ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญเบื้องต้น ที่จะทำให้ประเทศพัฒนาก้าวหน้าต่อไป..."
And I am all4it ;-)
สวัสดีครับพี่ใหญ่
ขอบคุณบันทึกดีๆครับ
"อย่าให้ใครว่าไทย"
คำนี่คุ้นๆคล้ายโฆษณาชิ้นหนึ่งที่เคยได้ยิน
"อย่าให้ใครว่าคนไทยไม่ใช้ปัญญา"
ชื่นชมครับ
เป็นโครงการที่ดีมากเลยครับ
มีโรงเรียนที่กาญจนบุรีที่ผมไปช่วยบ่อยๆเข้าโครงการโรงเรียนกงอทุนรุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2
ตั้ง 3 โรงเรียน
ขอบคุณพี่ใหญ่มากๆครับ ที่เขียนเรื่องดีๆให้อ่าน