ในระหว่างที่ผู้เขียนศึกษา "ตำราพิไชยสงคราม เมืองเพชรบูรณ์" เพื่อเขียนออกมาเป็นภาษาปัจจุบัน
พบว่า ตามประวัติกองทัพไทย จะอ้างถึงการจัดทัพใน "มังรายศาสตร์" ว่าเป็นหลักฐานแรกเท่าที่พบ
ในระหว่างนั้น ได้สืบค้นข้อมูลทางออนไลน์ พบ เอกสารสำคัญ คือ มังรายศาสตร์ (ฉบับ เสาไห้ จ.ศ.1161)
ดร.ประเสริฐ ณ นคร ถอดเป็นอักษรไทย จากตัวหนังสือพื้นเมืองล้านนาไทย
นำมาให้เห็นกันครับ
ข้อความข้างต้น เป็นการจัดหน่วยยามปกติ
ไพร่สิบคน ให้มีนายสิบผู้หนี่ง ข่มกว้านผู้หนึ่ง (ทำหน้าที่เป็นผู้ติดต่อ ป่าวประกาศเรื่องงานนายสิบทุกคน ) (สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ อธิบายไว้ว่า เป็น เจ้าหมู่ หรือ หัวหน้าหมู่บ้านดูและ คนเดิน ไพร่ ที่ได้การฝึก )
นายสิบมีห้าคน ให้มีนายห้าสิบผู้หนึ่ง มีปากซ้าย ผู้หนึ่ง 1 และปากขวาผู้หนึ่ง (เป็นผู้ช่วยรอฟังความ)
นายห้าสิบมีสองคน ให้มีนายร้อยผู้หนึ่ง (เทียบเท่ากับผู้บังคับกองร้อย)
นายร้อยมีสิบคนให้มีเจ้าพันผู้หนึ่ง (เทียบเท่ากับผู้บังคับกองพัน)
เจ้าพันมีสิบคน ให้มีเจ้าหมื่นผู้หนึ่ง (เทียบเท่ากับผู้บัญชาการกองพล)
เจ้าหมื่นมีสิบคน ให้มีเจ้าแสนผู้หนึ่ง (เทียบเท่ากับแม่ทัพ)
ปกครองแบบนี้เพื่อไม่ให้ขัดเคืองใจพระเจ้าแผ่นดิน (จาก หนังสือ ประวัติกองทัพไทย ในรอบ 200 ปี พ.ศ. 2325-2525 (2525) , หน้า 15-16 )
การจัดดังกล่าวนี้ร่วมสมัยกับสมัยกรุงสุโขทัย จึงอาจนำมาใช้กับการทหารของกองทัพกรุงสุโขทัยด้วย
(อ้างจาก http://www.sukhothai.go.th/history/hist_05.htm )
ส่วนการจัดเหล่าทหาร ที่เคยรู้กันคือ จตุรงคเสนา แต่ในแบ่งกองทหารตาม มังรายศาสตร์ จัดแบ่งตามความสำคัญ (ประวัติกองทัพไทย ในรอบ 200 ปี พ.ศ. 2325-2525 (2525), หน้า 15) คือ
ชั้นสูง ได้แก่ เหล่าพลช้าง เรียกว่านายช้าง
ชั้นกลาง ได้แก่ เหล่าพลม้า เรียกว่า นายม้า
ชั้นต่ำ ได้แก่ เหล่าพลราบ เรียกว่านายตีน
บันทึกเก่าและหลักฐานโบราณ มีคุณค่าและประโยชน์มากในการไขความเข้าใจในอดีต และทำให้เราได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น ว่าในสมัยโบราณ ไทยเราก็มีหลักการ พิชัยยุทธ และอาจไม่ได้ ป่าเถื่อน แบบฝรั่งว่า ตามภาพจำหลักที่นครวัด ก็ได้
ไม่มีความเห็น