บทสนทนาระหว่าง ย่าคอร์นีเลีย และ เพนเดอร์แกสต์
"มีคำสาปแช่งโบราณของฝรั่งเศสว่าขอให้สิ่งที่ปรารถนากลายเป็นจริง ถ้าสูตรยานี้ราคาถูกและทุกคนสามารถใช้ได้ โลกก็ล่มสลายเพราะประชากรล้นโลก แต่ถ้ามีแค่คนรวยที่ได้ไปก็จะเกิดจลาจล สงคราม และกติกาของสังคมก็จะถูกทำลาย ไม่ว่าทางไหนมันก็เป็นเหตุให้มนุษย์ต้องทุกข์ทรมานทั้งนั้น การมีชีวิตยืนยาวมันดีตรงไหนล่ะ ถ้าต้องอยู่ท่ามกลางความเสื่อมทรามและไร้สุข"
"แล้วความรู้มหาศาลสุดประมาณที่จะเพิ่มพูนขึ้นจากสูตรยานี้ล่ะครับ" เพนเดอร์แกสต์ตั้งคำถาม "ถ้าบรรดาผู้ทรงปัญญามีเวลาเรียนรู้และศึกษานานขึ้นอีกร้อยปีหรือสองร้อยปีล่ะจะเป็นยังไง คิดดูสิครับ ย่าคอร์นีเลีย คนอย่างโยฮันน์ โวล์ฟกัง ฟอน เกอเทอ โคเปอร์นิคัส หรือไอน์สไตน์จะทำอะไรให้กับมนุษยชาติได้บ้างหากมีชีวิตอยู่ถึงสองร้อยปี"
หญิงชราพูดเป็นเชิงเยาะเย้ย "คนฉลาดและคนดีมีแค่หนึ่งในพันเมื่อเทียบกับพวกโหดร้ายที่โง่เง่านะ ถ้าหลานให้เวลาอีกสองร้อยปีเพื่อให้ไอน์สไตน์ศึกษางานของเขาสำเร็จ ก็เท่ากับหลานได้เพิ่มเวลาอีกสองร้อยปีให้คนพวกนั้นทำเรื่องโฉดชั่วได้ลุล่วงเช่นกัน" .....
จากตอนหนึ่งใน เล่นแร่แปรศพ ...
จบแล้ว.. อีก 1 เรืองที่ประทับใจ เป็นเรื่องที่ได้รับแรงเชียร์จากเพื่อนใน FB
ผู้แต่ง Douglas Preston & Lincoln Child แปลโดย สายอุษา ชื่นศิลป์ ซึ่งผมไม่รู้จักทั้งผู้อ่านและผู้แปล
เพียงคำแนะนำจาก time line และแนวเรื่องการสืบสวน สอบสวน ฆาตกรรม วิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นแนวหนัง หรือหนังสือที่ชอบเป็นทุนเดิม ก็ทำให้ผมตัดสินใจพุ่งตรงไปร้านหนังสือแล้วคว้าจากชั้นหนังสือมาอ่านได้สมดังตั้งใจ
การที่สายตาร้างห่างหายหนังสือ ทำให้การเริ่มต้นอ่าน ดูจะติด ๆ ดับ ๆ นิดหน่อย และการอ่านนิยายแปลที่มีสถานที่ ตัวละคร เป็นชาวต่างชาติ ทำให้การจินตนาการภาพดูจะไม่สดใสและแจ่มชัดเหมือนกับสิ่งที่ประสบการณ์เราคุ้นเคย แต่ด้วยความเก่งของผู้แปลที่ใช้ภาษาได้ตรงกับเรื่องและสถานการณ์ ทำให้การอ่านมีอรรถรส และเห็นภาพได้เป็นอย่างดี และด้วยการเป็นนิยายสืบสวน สอบสวน ก็ย่อมมีความอึมครึมของบรรยายกาศเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว...
ตัวละครในเรื่องมีไม่มาก แรก ๆ อ่านก็ยังมีความสงสัยในบุคลิกของแต่ละตัว แต่เมื่ออ่านไปเรื่อย ๆ การเชื่อมโยงความรู้สึก และเหตุผลในความคิดของแต่ละตัวละครทำให้อ่านแล้วเข้าใจว่าตัวละครแต่ละตัวนั้นมีเสน่ห์อย่างแท้จริง แม้จะเป็นตัวละครที่ร้าย ก็ร้ายได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ
การตามหาต้นเหตุของการฆ่า สุดท้ายแล้ว อาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดไว้ แต่กลับเป็นอีกคนที่เราคิดว่าไม่ใช่ และการกระทำอย่างเดียวกัน แต่ต่างกันด้วยเหตุและผล ย่อมทำให้ความรู้สึกของการอ่านตอนสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้ต่างกันไปด้วย
อ่านเรื่องนี้แล้ว ทำให้ได้เรียนรู้ วิทยาศาสตร์การแพทย์ นิติวิทยาศาสตร์ วิทยาการด้านโบราณคดี และแฝงความเชื่อแนวพุทธศาสนา ว่าด้วยเรื่องสมาธิอีกด้วย
สรุปว่า เป็นเรื่องที่ไม่ผิดหวังที่อ่านจบไปอีก 1 เรื่อง
ขอบคุณ ผู้เขียน ผู้แปล ผู้แนะนำ และตัวเองที่ตั้งใจเขียนและอ่านอย่างมีความสุข
ไม่มีความเห็น