ว่างเว้นการเขียนบันทึกไปเนิ่นนาน จนกระทั่งโดนกระตุกเรื่องชีวิตคือการเดินทาง จึงลงมือเขียนบันทึกช่วยจำเรื่องนี้เพิ่มไว้
ระหว่างเดินไปบนถนนหมายเลข 6X ได้ฝึกเดินแบบรู้สติ ฝึกได้ ชีวิตที่อยู่กับปัจจุบันก็มีความสงบเย็น
ได้คุ้นเคยว่าจุดหมายบนเส้นทางอาจจะปรากฏกายขึ้นให้รู้จักแบบมิตั้งใจกำหนด ดั่งว่ามันดีดตัวเข้ามาเอง มีความเปลี่ยนแปลงได้เรื่อยๆ โน่น นี่ นั่น
เมื่อมันปรากฏกายขึ้น บางเวลาก็มีความคาดหวังบางอย่างบังเกิด บางเวลาก็จับต้องไม่เจอ
รู้สึกเหมือนดังว่า ความคาดหวังนั้นไม่เข้มข้น ความรู้สึกข้างในจึงเบาสบาย อะไรจะเกิดพร้อมเผชิญ ยอมรับได้หมด สมหวังหรือผิดหวัง แบบว่ารอได้ ยังรู้สึกชอบ กลัว พะวง ปนเปกลมกลืนกันอยู่ มีความสับสนปนเปอยู่บ้าง ไม่ได้เบาสบายแบบรู้สึกเฉยๆ ไร้การครุ่นคิด
เมื่อไรที่สับสนก็พบว่าความคิดมักชักนำให้ค้นหาทางเดินดิ่งตรงไปให้พบจุดหมายโดยเร็วพลัน ณ เวลานั้น ใจร่มๆจะเริ่มมีคลื่นแผ่วๆ ความคาดหวังที่แอบแฝงตัวในมุมมืดจะดีดตัวปรากฏกาย บางครั้งมันนำพาไปสู่การตื่นตัวรับรู้ บางครั้งนำไปพบการเรียนรู้อีกมุมหนึ่งของตัวเอง
ที่น่าสนใจคือ การนำไปพบความโกรธที่แอบแฝงตัวอย่างสงบเสงี่ยมอยู่เงียบๆและคลื่นแผ่วๆนั้นคือสัญญาณบอกเล่าว่าความโกรธกำลังจะเปิดเผยตัวออกมา
ได้ประสบการณ์เรียนรู้ความจริงหนึ่งของตัวว่า ถ้าไม่หวังหาจุดหมาย เดินไปเรื่อยๆ อย่างมีสติ เรียนรู้รอบด้าน แขวนคำตัดสิน ชีวิตบนเส้นทางเลขที่ 6X มีความงดงามยิ่งกว่าถนนใดๆที่เคยเดินผ่าน
ขอบคุณคนถางทางนะคะที่กระตุกให้เขียนบันทึกนี้ขึ้น
๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๙
รีบรับคำเชิญ ราวๆกลางเดือนกค.นี้จะแวะไปเยี่ยมนะคะ
มายินดี..กับ..สิ่งที่พบ..ในข้อเขียนบันทึกนี้เจ้าค่ะ..เดินไปเรื่อยๆ..(กับ..สติ)...