ชีวิตการทำงาน 2 ขาเพื่อการคงอยู่ขององค์กร


เมื่อประเทศมีการขยับเพื่อพัฒนา ผู้ใหญ่แต่ละกระทรวงก็ต้องขยับตาม ลูกน้อยอย่างเราก็เลยได้รับนโยบาย change จากท่านอธิบดี กรมอนามัยมาเต็มๆ จะบอกว่าต้องเปลี่ยน

ในตอนแรก ...ก็นึกต่อต้านเต็มๆๆ เพราะเราอยู่กันก็ดีแล้ว โรงพยาบาลก็มีผู้รับบริการมาก งานก็ล้นมือ แล้วตัวเองในฐานะพยาบาลก็ทำงานทั้งในโรงพยาบาล แล้วมีการทำงานวิชาการด้วย แถมออกนิเทศงานเหมือนเป็นนักวิชาการอีก อยู่ๆ ก็มีคำสั่งที่ฟังต่อๆ กันมาว่า "ให้ยุบโรงพยาบาล ไม่เน้นบริการ ให้เน้นงานวิชาการ" อ้าว!!!! งง สิคร้าบท่าน............. ไงเหว่

ต่อมา..หลังจากที่ข่าวมาเป็นวูบๆ เปลี่ยนทุกวัน ก็ต้องยอมรับสื่อ social ที่มันรวดเร็วเกินไป บวกกับความไม่มั่นคงของคน มันก็เริ่มมองหาล่ะ ว่าใคร??? จะเป็นคนออกมาแจ้งข้อมูลที่ถูกต้องซะที จะได้เลิกมโนกัน ผู้บริหารก็บอกว่ามันยังไม่ชัด ยังไม่อยากบอก รอให้มันชัดเจนก่อน

ภาคต่อมา....มีการขอพยาบาลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมย้ายมาทำงานวิชาการ เสมือนเป็นนักวิชาการ และให้ทำงานพยาบาลในโรงพยาบาลเพื่อศึกษารูปแบบด้วย พยาบาลคนนี้จะต้องทำงาน 2 ขา แต่มีโอกาสก้าวหน้ามากขึ้นกว่าเดิมไม่ได้ตันกันแค่พยาบาลวิชาชีพชำนาญการเท่านั้น ก็ดูดีนะ เลยมีบางคนตัดสินใจมาเลย แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่มาเพราะยังหวังว่าการอยู่โรงพยาบาลแบบเดิมน่าจะมีความก้าวหน้าไม่ต่างกัน เพราะมีข่าวว่าจะมีตำแหน่ง c 8 มาตรึมเลย....สับสนแท้ๆๆ

สุดท้าย...เมื่อท่านอธิบดีแถลงชัดเจนด้วยตนเอง และมีเจ้าหน้าที่หลายคนได้ไปรับฟังด้วยตนเอง กลับมาจึงทำให้พยาบาลหลายคนสมัครใจที่มาทำงาน 2 ขา เพื่ออนาคตที่คิดว่าจะดีกว่า แต่ก็ต้องยอมเหนื่อยหน่อยเพื่อองค์กร และตัวเอง หนึ่งในนั้นก็เรานี่ล่ะ

ก็ได้ชิมลางมา 3 วัน ขอบอกว่าเหนื่อยดี สนุกด้วย เพราะมันต้องเรียนรู้วิธีการบริหารเวลา กับการทำงานรูปแบบใหม่ ก็ท้าทายดี เพราะต้องทำงานแบบรีโมททีวี กดปุ๊บเปลี่ยนช่องปั๊บ ห้ามจมอยู่กับเรื่องก่อนหน้า แล้วมีสมาธิกับเรื่องในปัจจุบัน เพื่อให้งานเสร็จได้ในเวลาจำกัด

คำสำคัญ (Tags): #change#พยาบาล
หมายเลขบันทึก: 613254เขียนเมื่อ 2 กันยายน 2016 22:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 กันยายน 2016 22:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

Living in more than one world, can show the other side of the coin.

เลือกมองมุมดี ชีวิตก็ดี แล้วดีจริงๆ ไม่ใช่ฝืนรู้สึกดีนะคะ แต่ก็กว่าจะมองเห็นมุมดี ก็เผลอเป็นสีเทาๆ อยู่พักนึงคะ

เอาใจช่วย การทำงานด้านบริการอย่างเดียว โดยไม่เขียนงานด้านวิชาการ

จะไม่สามารถให้คนอื่นเรียนรู้กับเราได้

ดังนั้นการทำงานทั้งบริการและวิชาการ จึงจะเกิดผล คนเป็นสุขค่ะ

ถ้าทำบริการต้องถ่ายทอดเทคนิคไม่ให้หายไปด้วยการมีพี่เลี้ยง ojt และเป็น coach แต่งานวิชาการเป็นเรียนรู้และศึกษา บวกกับมีทักษะการถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือด้วย ก็เรียนรู้กันค่ะ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท