ดีใจมีโอกาสนำเสนอโปสเตอร์งาน CMU-KM Day


ฉันมีความพยายามก้าวข้ามการจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุข


เมื่อ มช. จัดกิจกรรมดีๆ ด้านการจัดการความรู้ พัฒนางานประจำ นำพาไปเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความสุข เป็นครั้งแรก (พ.ศ. 2559)

ทันทีที่มีหนังสือเชิญร่วมงานมาถึงงาน ฉันมิได้ลังเลในการลงชื่อไปร่วมงานมากกว่าการไปนั่งฟังการบรรยาย และชมผลงานนำเสนอทั้งโดยสุนทรียสนทนาและแผ่นภาพโปสเตอร์

หลังจากแจ้งชื่อผู้เข้าร่วมตามจำนวน ทึ่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วม ก็มาถึงขั้นตอนสอบถามรับฟังความคิดเห็นภายในลูกทีมถึงความสนใจ ถ้าจะนำผลงานกระบวนการทำงานข่าวสาร ไปนำเสนอ เห็นด้วยหรือไม่

คำตอบที่ได้คือมีความลังเลใจ และอีกบางส่วนก็อยากลองดูเหมือนกัน แต่...จะทำยังไง เวลาเหลือไม่กี่วันเอง ทำไม่ทันหรอกค่ะ...

ฉันเปลี่ยนแผนการคิดใหม่ เพราะเป้าหมายฉันปักวางมานับตั้งแต่ 3-4 ปีที่แล้วซึ่งในครั้งนั้นฉันมีความคิดว่าพร้อมแล้วก็จริง แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดกลับยังไม่พร้อม นั่นคือฉันยังไม่มีคนที่สามารถถอดสกัดเรื่องเล่า แล้วร้อยเรียงออกมาเป็นแผ่นภาพโปสแตอร์ให้ได้ วันนี้มีแล้วแต่ลูกทีมกลับขาดแรงบันดาลใจ ฉันปวารณาไว้ว่าจะสร้างผลงานที่ดีให้ดูเป็นตัวอย่าง 1ครั้ง (คือครั้งนี้) และด้วยแรงบังคับบ้าง

กิจกรรมวันนี้เป็นจังหวะเหมาะสมที่จะคิดทำนำเสนอ จะไม่มีอะไรผิด แม้จะไม่ถูกต้อง อย่างน้อยระเบียบกฎเกณฑ์ของงานครั้งแรกจะเปิดอิสระ และในที่สุดก็มีผลงานเชิงประจักษ์


ฉันมีความพยายามก้าวข้ามการจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุข

อาจจะเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนักถ้าจะถามตัวเองว่า ภายในหน่วยงานของเรามีการจัดระบบการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ดีพอแล้วหรือ?

ความคิดที่แอบแย้งข้างในคือ องค์กรของเราเดินหน้าเป็นพันธสัญญาเรื่องนี้มานานมากนักแล้ว หลายคน หลายหน่วยงานทำได้ ได้บ้างไม่ได้บ้างก็ถือว่าได้พยายามทำกันแล้ว ภาพโดยรวมถือว่าดี ให้ภาคภูมิใจ ยิ่งองค์กรเดินหน้าสร้างมาตรฐานทางสมรรถนะหลัก สมรรถนะตามสายงานวิชาชีพเป็นรูปธรรมอย่างนี้แล้ว ระบบการเรียนรู้ การเสาะแสวงหาความรู้ ความใส่ใจในการเรียนรู้เพื่อทำสิ่งที่ดีขึ้นก็จะเกิดโดยอัตโนมัติ จะนำพาองค์กรไปสู่การจ้ดการความรู้ในที่สุด และเป็นธรรมชาติ

การคลุกคลีทำเรื่องแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การแบ่งปันสิ่งที่รู้เพื่อให้คนอื่นรู้ด้วย เพื่อให้คนอื่นคิดต่อยอด เป็นอะไรที่ทำมานานมาก นานจนลืมตัวเองไปว่าไม่ได้หยุดยืนในพื้นที่ปลอดภัย แล้วมันก็ไม่ปลอดภัยจริงๆ

การสร้างองค์กรแห่งความสุขในวันนี้กลายเป็นเรื่องท้าทาย และเราจะไปถึงเป้าหมายนั้นได้หรือไม่ เราจึงเกิดความคิดว่าจะพยายามก้าวผ่านด่านเก่าๆ ที่เคยเล่น เพื่อการลงมือทำสิ่งที่ยากขึ้น คือจะเป็นองค์กรสร้างสุข ก็จะต้องมีทีมงานสร้างสุขให้ได้ และก็จะต้องเป็นคนทำงานสร้างสุขให้ดีได้เสียก่อน

..เคยคิดอยากจะสร้าง Talent กับตัวเราเองดูบ้าง

แต่.... คงทำไม่ได้...ตราบใดที่ตัวเรายังไม่รู้สึกมีความสุข

ดังนั้น เราควรต้องหาความสุขให้เจอเร็วๆ เพราะเวลาเหลือน้อยลงทุกทีแล้ว


ถึงตอนประกาศผล มอบหน้าทีน้องที่เป็นผู้ออกแบบแผ่นโปสเตอร์ออกไปรับรางวัลค่ะ และรางวัลผลงานเป็นสิทธิของน้องคนนี้ทีจะภาคภูมิใจกับผลงานของเธอเอง

หมายเลขบันทึก: 614947เขียนเมื่อ 18 กันยายน 2016 22:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 ธันวาคม 2016 09:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท