เรื่องเล่าระหว่างวันที่ 2 - 6 มกราคม 2560



7 มกราคม 2560

เรียน ผู้บริหาร เพื่อนครูและผู้อ่านที่รักทุกท่าน

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม 2560 เช้าเดินทางไปปทุมธานี เพื่ออวยพรวันเกิดนายกชาญ พวงเพ็ชร ที่บ้านป่างิ้ว ปีนี้จัดเรียบง่าย ไม่มีกางเต้นท์เหมือนทุกปี เจ้าภาพต้อนรับดีมีอาหารบริการหลายอย่าง ได้พบหน้าผู้บริหารโรงเรียน สมาชิกสภา อบจ. ผู้นำชุมชน ทุกคนล้วนมีอัธยาศรัยที่ดีงาม ร่วมงานกันมา 6 ปี สนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ ยิ่งท่านนายกชาญ ถือเป็นมิตรผู้มีอุปการะมาก เวลามีกิจกรรมสำคัญสามารถขอเงินมาทำงานได้ครั้งละ 10 ล้าน 20 ล้าน ในเพียงการต้ดสินใจไม่ถึงนาที เพราะความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ขากลับมาห้างเซ็นทรัลเวสเกตซื้อของจำเป็น กลับที่พักรื้อของจัดบ้าน

วันอังคารที่ 3 มกราคม 2560 เช้านี้ไปแวะกินข้าวแกงที่ร้านข้าวแกง ณนคร ถนนราชพฤกษ์ที่หยุดปีใหม่ไปหลายวันเพิ่งเปิดขายวันนี้ ลูกค้าจึงมากมาย จนกับข้าวเหลือไม่กี่อย่าง อิ่มแล้ววนรถเป็นวงกลมไปแวะห้างเซ็นทรัลเวสเกต หาซื้อของใช้จำเป็น คนยังแน่นที่จอดรถเต็มทั้งด้านนอกและด้านใน อาหารกลางวันทานที่ร้านอาหารชั้น 3 เป็นอาหารจานเดียว ของขึ้นชื่อคือเย็นตาโฟทรงเครื่อง แต่วันนี้สั่งข้าวคั่วกลิ้งซี่โครงหมูมากินเลยต้องรอนาน บ่ายกลับมาจัดบ้านต่อ เพราะรื้อของมากองเพื่อเลือกทิ้งเสียบ้าง เพื่อเพิ่มที่ว่างให้บ้าน จัดมาหลายวันยิ่งจัดก็ยิ่งรกหนักเข้าไปอีก ชนิดเปิดตำราไม่ทัน

วันพุธที่ 4 มกราคม 2560 อยู่เขตทำงานแฟ้มต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องวินัยที่นิติกรปรับใหม่มานั่งอ่านอีกรอบ เช้านี้มอบท่านรอง ผอ.เขต นำของขวัญไปคารวะผู้ใหญ่ในจังหวัดและ สพฐ.ตามธรรมเนียม ผมเองงดกิจกรรมนี้มาเป็นปีที่สาม เนื่องจากสุขภาพไม่แข็งแรง ประกอบกับวัยที่ใกล้เกษียณจะไปขอพรก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ครั้นจะให้พรเขาบารมียังไม่ถึง จึงให้น้อง ๆ ไปแทน ยังมีคนมาอวยพรขอพรที่ห้องอีก 2-3 คณะ สิ่งที่ได้แน่ ๆ คือเจริญอายุอีก 1 ปี ชีวิตในปีที่ครบ 5 รอบ ความรู้สึกไม่เคยคิดว่าแก่ แต่สังขารต่างหากที่มีอาการให้ต้องยอม เพราะฝืนตามใจไม่ไหว อาหารกลางวันทานที่ห้องเพราะเมื่อวานลงมือแกงไตปลาแบบพัทลุงเองเช้าใส่หม้ออวยมาเผื่อน้อง ๆ ด้วย เป็นปีใหม่ที่ต้องอยู่อย่างพอเพียงอย่างจริงจัง


วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม 2560 ตื่นตีสองเพราะนอนไม่ค่อยหลับ อาบน้ำสระผม แต่งตัวชุดปกติขาวไว้ทุกข์ขับรถไปสำนักงานเขต สมทบกับคณะรวม 15 คนเพื่อ ไปเป็นเจ้าภาพฟังสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลพระศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชในพระบรมมหาราชวัง ตามที่ สพฐ.นัดหมาย มีข้าราชการทั้งส่วนกลางและเขตใกล้เคียงมาร่วมงานนี้จำนวนมาก ผมมีโอกาสขึ้นไปนั่งบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เป็นบรรยากาศที่เศร้าสลดเกินจะบรรยาย ท่านอยู่ปกป้องพวกเรามานาน จนเรารู้สึกว่าท่านจะต้องอยู่กับเราตลอดไป เลยลืมเตรียมการเตรียมใจที่จะรองรับการสูญเสียตามกฎธรรมชาติ ในขณะนี้นั่งในพระราชพิธี มีพี่น้องประชาชนที่มาเข้าคิวที่ท้องสนามหลวงทยอยเข้ากราบพระบรมศพเป็นชุด ๆ ทุกคนมาจากแดนไกลใช้เวลากราบพระราชาของเขาไม่เกิน 55 วินาทีก็ต้องให้ชุดใหม่เข้ามาแทนที่ หลายคนร้องไห้เบา ๆ ทำให้น้ำตาเราไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนกลับทุกคนจะมีอาการหันรีหันขวางมองไปที่พระโกฏิเป็นอาการที่รู้สึกได้ว่าเป็นความห่วงใยในหลวงของพวกเขาว่าอยู่ทุกข์สุขอย่างไรหนอ นี่คือคำตอบว่าทำไมประชาชนของพระองค์จึงหลั่งไหลมาจากทุกพื้นที่ของประเทศ เริ่มเข้าคิวจากท้องสนามหลวง ความรักความศรัทธาที่มีอยู่มากมาย หลายคนมาเกิน 2 ครั้ง เวลา 08.00 น ก็เสร็จพิธีในรอบที่ สพฐ.เป็นเจ้าภาพ เดินทางกลับสำนักงานเขต เพื่อเดินทางไปจังหวัดกาญจนบุรีใช้เส้นทางผ่านอำเภอบางเลน อำเภอกำแพงแสน แวะไหว้พระพุทธบาทจำลองพระแท่นดงรัง อำเภอท่ามะกา


มีบันไดพญานาคขึ้นไปจนถึงสถูปบนยอดเขา เป็นการทดสอบความพร้อมของร่างกายแบบมินิ บรรยากาศธรรมชาติ สงบ ร่มเย็น เดินทางต่อผ่านอำเภพนมทวน ไปสมทบกับคณะที่เดินทางโดยรถบัสในมื้อข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารแพชุกโดน จากนั้นเดินทางไปที่พักโรงแรมผึ้งหวานรีสอร์ทแอนด์สปาร์ อำเภอเมืองกาญจนบุรี บ่ายผมบรรยายวิธีทำงานในยุคไทยแลนด์ 4.0 รวมทั้งอภิปรายปัญหาการทำงานระหว่างเขตและโรงเรียน


เย็นทานอาหารในแพหน้าโรงแรม กลับขึ้นนอนประมาณ 2 ทุ่ม


วันศุกร์ที่ 6 มกราคม 2560 ตี 4 ก็ตื่นแล้ว ทั้งที่อากาศดีของที่พักโรงแรมผึ้งหวานรีสอร์ทแอนด์สปาร์ อำเภอเมืองกาญจนบุรี หกโมงเช้าลากกระเป๋าลงไปห้องอาหาร มีอาหาร ให้เลือกหลายอย่าง มื้อนี้ได้ข้าวต้มกับผ้ดซีฮิ้ว และกาแฟ เพียงพอแล้ว ตามโปรแกรมการพัฒนาวันนี้จะเป็นการศึกษาภาคสนาม เริ่มจากสะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่มีประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และทดลองโดยสารรถไฟสายธนบุรี-น้ำตก ที่เรียว่าทางรถไฟสายมรณะ เพราะตอนสร้างมีผู่เสียชีวิตประมาณ 8 หมื่นกว่าคน สะพานข้ามแม่น้ำแควยามเช้าสดชื่นและเงียบเหงา พอสาย ๆ นักท่องเที่ยวเริ่มคึกคักขึ้น ร้านค้าบริเวณนี้หนักไปทางเครื่องประดับจำพวกพลอยและนิล อาหารที่วางจำหน่ายมีข้าวเหนียวหน้าปลาและหน้าสังขยา ลองซื้อมากินหนักหวานไปหน่อย กิจกรรมจุดนี้เป็นการถ่ายภาพเป็นที่ระลึก รวมทั้งเดินข้ามสะพานรถไฟไปอีกฝั่งหนึ่ง ก่อนเดินทางไปสถานีรถไฟกาญจนบุรี เดิมได้ตั๋วนั่งรถไฟฟรี ต่อมามีนักเรียนร่วม 300 คนมาเข้าแถวเตรียมขึ้นรถไฟขบวนนี้เหมือนกัน คณะผู้จัดจึงซื้อตั๋วหัวละ 100 บาท เขาจึงต่อตู้โดยสารเพิ่ม พวกเราจึงมีที่นั่งทุกคน เป็นครั้งแรกในการนั่งรถไฟสายนี้ ได้บรรยากาศ เพราะสองข้างทางมีไร่อ้อย ไร่กล้วย และพืชอื่น ๆ สลับกันไป บางจุดผ่านแม่น้ำมีทิวทัศน์สวยงาม จุดสวยที่สุดตรงถ้ำกระแชง เพราะเป็นทางโค้งเลียบภูเขาและแม่น้ำ พวกเราลงสถานนี้เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน บ่ายขอแยกวงเดินทางกลับใช้เส้นทางผ่านจังหวัดนครปฐม แวะร้านวุ้นเส้นท่าเรือ เพื่อซื้อของฝาก ที่ขึ้นชื่อคือวุ้นเส้นที่ทำจากถั๋วเขียว จากนั้นเดินทางกลับนนทบุรี ถึงที่พักประมาณ ห้าโมงเย็น

นายกำจัด คงหนู

ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 1

หมายเลขบันทึก: 621170เขียนเมื่อ 7 มกราคม 2017 06:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มกราคม 2017 07:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท