ไปกราบพระบรมศพและชมนิทรรศการ


เล่าเรื่องวันหยุดของสามคนพี่น้อง

วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2560 สามคนพี่น้อง พร้อมครอบครัวพี่สาว มีโอกาสเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง



การมาครั้งนี้เป็นความปรารถนาตั้งใจมั่นของน้องสาวที่ถูกกำหนดไว้แล้วหากได้กลับมาเมืองไทย และพี่สาวซึ่งยังไม่มีโอกาสกราบพระองค์ท่านจากเบื้องหน้าพระบรมโกศค่ะ สำหรับข้าพเจ้านับครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม

วันเวลาถูกกำหนดทันทีที่สมาชิกผู้พร้อมเดินทางจัดสรรเวลานัดได้ตรงกัน โดยไม่ลาหยุดงาน หรือมีภารกิจทับซ้อน เมื่อจัดการติดต่อจองพาหนะเดินทางและที่พักได้เรียบร้อย ผ่านช่องทางการสื่อสารและธุรกรรมการเงินจาก Application สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ที่แข่งขันการเสนอราคาอย่างดุเดือด พร้อมกันนั้นโดยอาศัยประสบการณ์เดินทางก่อนหน้านี้ โปรแกรมเสริมเรื่องกินจึงเป็นหน้าที่ของข้าพเจ้าและสาวน้อยในมหานคร ค่ะ

เราเลือกพักโรงแรมที่มีทำเลที่ตั้งในย่านใกล้กับเยาวราช ตลาดอาหารยามค่ำคืน และไม่ผิดหวังที่เลือกพักโรงแรมนี้ ที่มองเห็นทิวทัศน์งดงามแห่งกรุงเทพมหานคร ที่แอบลุ้นไปล่วงหน้าว่าอีกไม่นานการก่อสร้างเส้นทางสาธารณะรถไฟฟ้าใต้ดินเรียบร้อยลงเมื่อใด ทำเลที่พักโซนนี้คงจะกลายเป็นทำเลทองของนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศที่ชอบการแบกเป้เที่ยว

การเที่ยวท่องถิ่นอาหารการกินย่านเยาวราช เป็นการตามรอยการมาในครั้งแรก ซึ่งไม่ผิดหวังอะไรกับการกิน อาหารจีนชื่อดัง ริมทางเดิน เฮียตือหูฉลาม (หน้าแบงค์กรุงศรี) การแชร์ค่าอาหารร่วมกันระหว่างพี่น้อง ทำให้ได้คำตอบว่า เงินไม่เกินสี่พันห้าถึงห้าพันบาทก็เที่ยวเมืองบางกอก พักอย่างหรู รับประทานอาหารที่ไม่ธรรมดา ได้สองวันกับหนึ่งคืน

สำหรับโปรแกรมการไปเข้ากราบพระบรมศพพระเจ้าเหนือหัวในพระบรมโกศ เรากำหนดไว้ว่าจะไปให้ถึงจุดพักคอยไม่เกินเวลา 05.15 น. ที่นั่งพักรอเวลานั้นคือแถว จ.จาน แล้วค่ะ แต่รอไม่นานนักราวหนึ่งชั่วโมงครึ่ง (06.45 น.) เราได้เข้าไปภายในพื้นที่พระบรมมหาราชวังผ่านทางประตูวิเศษไชยศรี การเดินแถวลื่นไหลด้วยการจัดระบบเป็นอย่างดีของคณะเจ้าหน้าที่ รวมระยะเวลาที่ไปในครั้งนี้ 05.15 – 07.30 น. และในระหว่างรอครั้งนี้เราพบประชาชนที่มีอัธยาศัยน้ำใจดีอีกมากมายที่ได้สนทนาร่วมกัน หลายคนมากันเกินกว่าสี่ห้ารอบ และมาเข้าแถวนั่งรอเป็นกิจวัตรเช่นนี้ พี่คนหนึ่งเล่าว่าช่วงที่พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัยใหม่ๆ เธอและเพื่อนๆ ได้มาร่วมในงานอาสา งานแจกน้ำ อาหาร ภาพถ่าย และผลิตยาดมสมุนไพร การมากราบพระองค์ท่านหลายครั้ง ทำให้รู้สึกว่าพระองค์ท่านไม่ได้ไปไหน



ภายหลังจากได้เข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง แล้ว เป้าหมายสำคัญของการมาในครั้งนี้คือการเข้าเยี่ยมชมนิทรรศการ เย็นศิระเพราะพระบริบาล ซึ่งตั้งอยู่ภายในอาณาบริเวณท้องสนามหลวง โดยผู้เข้าชมจะต้องเข้าสู่กระบวนการขั้นตอนรอคอยเช่นเดียวกันกับการเข้ากราบพระบรมศพฯ โดยจุดพักคอยคือแถว ซ .โซ่ ใช้เวลารออีกไม่นานตามแต่ว่าจะมีปริมาณประชาชนมากน้อยเท่าไร และระยะเวลาแต่ละรอบการเข้าชมนิทรรศการคือ 20 นาที โดยมีเจ้าหน้าที่ชี้แจงทำความเข้าใจการปฏิบัติตน ก่อนจะส่งต่อให้เจ้าหน้าที่นำเข้าไปเป็นกลุ่ม


นิทรรศการ "เย็นศิระ เพราะพระบริบาล" เริ่มจัดแสดงมาตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 ผู้ที่มาชมนิทรรศการ จะได้รับแจกการ์ดขนาดเท่าบัตรเอทีเอ็ม ด้านหน้าเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวง ร.9 ด้านหลังเป็นพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัสของในหลวง ร.9 ซึ่งมีทั้งหมด 89 แบบ ไม่ซ้ำกัน โดยจะแจกที่โซน 5 ร้อยใจไทย เพื่อให้ประชาชนเก็บไว้เป็นที่ระลึก เป็นมงคลแก่ชีวิต

ภายในห้องแสดงนิทรรศการเย็นศิระ เพราะพระบริบาล ได้จัดเป็น 5 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 บุญของแผ่นดินไทย โซนที่ 2 พระราชาผู้ทรงธรรม (ทำ) โซนที่ 3 กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ โซนที่ 4 พระมิ่งขวัญชาวไทย และโซนที่ 5 ร้อยใจไทย

นิทรรศการ "เย็นศิระ เพราะพระบริบาล" จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมถึงพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และพระบรมวงศ์ เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจด้านต่างๆ ที่ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น ผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วประเทศในปัจจุบัน

และภารกิจครั้งนี้ทำให้เราสามารถกลับไปยังที่พักเพื่อรับประทานอาหารเช้าของโรงแรมได้อย่างไม่รีบร้อนมากนักค่ะ

ก่อนจบภารกิจสำคัญของสามคนพี่น้อง สาวน้อยผู้กลายเป็นเด็กทำงานในมหานครเมืองแห่งกล่อง ทำหน้าที่ผู้ให้บริการที่ดีต่อญาติผู้ใหญ่ก็มารับเราตามนัดหมายเพื่อไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ก่อนอื่นเราก็ยังไปต่อเรื่องกิน ในย่านถิ่นที่พัก อาหารกลางวันอย่างง่ายๆ แต่ไม่ธรรมดาจนต้องใช้บริการ Application แผนที่ ค้นหา ร้าน พูนเลิศ (เหลาะงาทิ้น) ข้าวหน้าไก่ห้าแยกพลับพลาไชย ที่มีตำนานมาแสนนานเหมือนกับการมาตามรอยทางที่เคยกินในกาลครั้งหนึ่ง(เมื่อยังเด็ก) เลยค่ะ


หมายเลขบันทึก: 626575เขียนเมื่อ 27 มีนาคม 2017 14:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มีนาคม 2017 14:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

พี่ดาวครับ

สามคนพี่น้องคล้ายกันมากๆ

เพิ่งไปเชียงใหม่มาแต่ไม่ได้แวะทักทายใครเลย

ทำงานอย่างเดียวเลย

ขอสาธุๆด้วยครับ

สวัสดีค่ะน้องอาจารย์ขจิต

ขอบคุณค่ะ เสียใจไม่ได้พบกันเลยนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท