KM Workshop ที่ รพ.พระนารายณ์มหาราช (3)


KM ต้องผูกโยงกับเป้าหมายของงาน ให้เริ่มต้นที่งานและดูผลสำเร็จที่งาน

ตอนที่ 2

วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม 2560

วันนี้เราต้องการให้ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของพวกเราเอง เผื่อจะนึกภาพออกว่าจะนำ KM ไปใช้ต่ออย่างไร แต่ก็ต้องให้เชื่อมโยงกับกิจกรรมของเมื่อวานนี้ หลังจากอ้อใหญ่ เปรมสุรีณ์ ทำกิจกรรมอุ่นเครื่องทั้งกิจกรรมนับเลขและออกแรงกับ chicken dance แล้ว คุณธวัชทำกิจกรรม check in โดยให้ผู้เข้าอบรมทุกคนสรุปเป็นประโยค/วลีสั้น ๆ ว่าเมื่อวานได้เรียนรู้อะไรบ้าง เราได้ข้อมูลมากมายที่แสดงว่าผู้เข้าอบรมบรรลุวัตถุประสงค์ที่เราตั้งไว้เมื่อวาน


เต็มที่กับ Chicken dance


ต่อจากนั้นเราฉาย VDO หนึ่งทศวรรษเครือข่ายเบาหวาน เพื่อให้เห็นภาพว่าใน 10 ปีที่ผ่านมาเราทำงานกันผ่านกิจกรรมอะไรบ้าง คุณธวัชขอให้ผู้เข้าอบรมดูประสบการณ์ผ่าน VDO ให้อยู่กับ VDO/เรื่องราว ผู้เข้าอบรมก็ตั้งใจกันดี แต่เกิดปัญหาที่สายสัญญานทำให้ VDO สะดุดหายไปเป็นช่วง ๆ ซึ่งคงจะทำให้สมาธิของผู้ชมสะดุดไปด้วย เราเลยต้องหยุด VDO ไว้ตอนครึ่งเรื่อง เราให้ผู้เข้าอบรมบอกว่าเห็นอะไรใน VDO ได้ข้อมูลหลากหลายที่บ่งบอกการเรียนรู้ของผู้ปฏิบัติงานและมีความคิดเรื่องการจะนำความรู้ที่เห็นไปใช้ต่อ

ดิฉันได้นำเสนอการทำงานของเครือข่ายเบาหวานด้วย PowerPoint presentation ว่าที่ผ่านมาเราได้ทำงานอะไร อย่างไร เริ่มจากตลาดนัดความรู้เล็ก ๆ ในปี 2548 จนถึงงานใหญ่ระดับชาติ เวทีการ ลปรร. ของเรามีทั้งตลาดนัดความรู้ เพื่อนช่วยเพื่อน เว็บบล็อก และมหกรรม KM เรื่องราวการทำงานของเครือข่ายไปสู่เวทีระดับนานาชาติคือ World Diabetes Congress ได้อย่างไร สาวสองอ้อแชร์ประสบการณ์การใช้ KM ในการพัฒนาการทำงานของเจ้าหน้าที่ ชุมชน และชมรมผู้ป่วยโรคต่าง ๆ มีเวลาให้ผู้เข้าอบรมได้ซักถาม

คุณธวัชย้ำว่าเวลาทำ KM ต้องผูกโยงกับเป้าหมายของงาน ให้เริ่มต้นที่งานและดูผลสำเร็จที่งาน ระบบ KM มีหน้าตาเป็นอย่างไร เป้าหมายที่ต้องการบรรลุคืออะไร ถ้าจะบรรลุเป้าหมายนั้นได้ คนทำงานจะต้องใช้ความรู้อะไรบ้าง ความรู้ที่สำคัญนั้นอยู่ที่ไหน ใครมีมากมีน้อย การ ลปรร. จากประสบการณ์จริงต้องมีคุณอำนวยเป็นตัวช่วย มีการบันทึกความรู้ ต่อยอดความรู้ เพื่อกลับไปทำงานให้บรรลุเป้าหมาย ในบางส่วนคนระดับ manager ต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อทำแล้วต้องดูว่าเป้าหมายขยับไหม ถ้าไม่ขยับต้องย้อนกลับไปดูกระบวนการ

การถ่ายทอดความรู้มีหลายวิธีเพราะเป้าหมายยากง่ายไม่เท่ากัน (ระดับการเปลี่ยนแปลง)

  • ถ้าต้องการแค่ให้รับรู้ ก็ใช้วิธีการบรรยายได้
  • ถ้าจะให้ทำได้ทำเป็น ปรับเปลี่ยนทักษะ ฝีมือ ก็ต้องให้เจอสถานการณ์ ลองผิดลองถูก สาธิต ทำให้ดู ได้ทดลองทำจนทำได้ เรื่องทักษะถ้าไม่ลงมือทำไม่มีทางเข้าใจ
  • ถ้าต้องการให้เปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งเป็นการเปลี่ยนความคุ้นชิน ใช้วิธีการบอกไม่ได้ (ใช้ clip VDO ของหมอฝนที่ครบุรี) เรื่องของพฤติกรรมไม่ใช่ขาดความรู้ ต้องพาให้เขาเรียนรู้แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนตัวเอง พาทดลองวิธีใหม่ ทำต่อเนื่อง ให้สัมผัสผล เห็นข้อเท็จจริง เปรียบเทียบ (เห็นผลอะไรบางอย่าง) ให้เขาตัดสินใจ
  • ถ้าต้องการเปลี่ยนความเชื่อ เปลี่ยนวิถี เป็นขั้นที่ยากที่สุด ต้องแบบต่อเนื่อง แบบน้ำเซาะทราย พูดคุยกันต่อเนื่อง

คุณธวัชยังพูดถึงแม่ไม้ KM ต่าง ๆ ถ้าเป็นพวก learning media คนก็เข้าไปเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ แต่ถ้าเป็นความรู้เชิงทักษะมากขึ้น จะต้องอาศัยแม่ไม้อื่นช่วย เช่น AAR, CoPs/Networking learning, Peer Assist ต้องอาศัย facilitator และ human interaction

ช่วงเวลาสุดท้ายเราให้ผู้เข้าอบรม AAR โดยให้ทบทวนเป้าหมาย บอกว่าอะไรที่ได้มาก อะไรที่ได้น้อย เพราะเหตุใด ถ้าจะทำภารกิจเช่นนี้อีก จะต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง ให้เขียนลงในกระดาษ และให้ผู้ที่สมาชิกอยากฟังพูด AAR ให้ทุกคนได้ยินด้วย มีหนังสือรูปแบบการบริการป้องกันควบคุมโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง สำหรับสนับสนุนการดำเนินงาน NCD Clinic Plus ของสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค (Download ได้ที่นี่) มอบให้สำหรับคนที่อยากได้และคนที่ AAR ได้อย่างน่าประทับใจ

เสร็จงานแล้วคุณหมอนิพัธและคณะได้พาพวกเราแวะชมพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ดิฉันและคุณธวัชเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทางถนนสายเอเซียแยกกับสาวสองอ้อแถวสิงห์บุรี พอเราถึงเขตวังน้อยก็ไปทางถนนกาญจนาภิเษก การเดินทางสะดวกสบายและไม่เจอฝน


วัลลา ตันตโยทัย

บันทึกเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2560

หมายเลขบันทึก: 629195เขียนเมื่อ 2 มิถุนายน 2017 21:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2017 17:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ตามมาเชียร์ทีมเบาหวาน

อาจารย์หายไปนานมากเลยครับ

กลับมาแล้วค่ะอาจารย์ขจิต คงจะได้เจอกันบ่อยขึ้นค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท