แนวปฏิบัติสู่ความสำเร็จในการสนับสนุนทรัพยากรเพื่อการผลิตและเผยแพร่ผลงานวิจัย
1. การร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกในการดำเนินการวิจัย เพื่อตอบโจทย์การวิจัยของประเทศ โดยอาจแบ่งกลุ่มย่อยในการดำเนินการวิจัยโครงการย่อยๆ
2. การเผยแพร่แหล่งทุนวิจัยภายนอก ให้กับอาจารย์ทุกท่านรับทราบ โดยการรวบรวมข้อมูลต่างๆตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้อาจารย์เตรียมตัวและวางแผนในการเตรียมโครงร่างการวิจัยให้ทันตามที่หน่วยสนับสนุนทุนวิจัยกำหนดไว้
3. การสนับสนุนงบประมาณเพื่อการผลิตผลงานวิจัยของหน่วยงานภายในเอง โดยต้องกำหนดกติกาในการรับทุนให้ชัดเจน เช่น ระยะเวลาในการดำเนินการวิจัยให้เสร็จสิ้น ถ้าผิดสัญญาจะดำเนินการอย่างไร เป็นต้น เพื่อกำกับให้มีผลงานวิจัยตามที่กำหนดไว้ และการเปิดเวลาในการขอรับทุนทั้งปีนับเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาดำเนินการต่อไป
4. การสนับสนุนด้านฐานข้อมูลในกรณีที่อาจารย์ต้องการข้อมูลที่ไม่มีในฐานข้อมูลของวิทยาลัย ควรมีหน่วยสนับสนุนในส่วนนี้
5. การจัดสรรภาระงานด้านการสอนให้เท่าเทียมกัน เพื่อให้ทุกคนมีเวลาในการผลิตผลงานวิจัยเท่าเทียมกัน
6. การสร้างแรงจูงใจในการผลิตผลงานวิจัย เช่น การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัย ทั้งนี้ต้องมีหลักฐานการเบิกจ่ายที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการเบิกซ้ำซ้อน
7. ต้องมีการถ่ายทอดภาระความรับผิดชอบในการผลิตผลงานวิจัยมาตามลำดับขั้น เช่น กำหนดไว้ให้ชัดเจนว่าวิทยาลัยต้องการผลงานวิจัยกี่เรื่อง ในแต่ละภาควิชาควรรับไปภาควิชาละกี่เรื่อง และในภาควิชาต้องมาตกลงกันว่าใครจะรับผิดชอบดำเนินการ มีใครในทีมบ้าง ถ้าเป็นอาจารย์ใหม่ต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพในการทำวิจัย โดยระบบพี่เลี้ยง ในส่วนของอาจารย์ประจำหลักสูตร ต้องมาพิจารณาผลงานของอาจารย์ทุกคนเพื่อให้หลักสูตรได้รับการรับรอง รวมทั้งการขอตำแหน่งทางวิชาการของอาจารย์ต้องพิจารณาทุกปี และสุดท้ายคือการนำผลงานวิจัยเป็น PA ในการประเมินผลงานประจำปี
8. การดำเนินโครงการวิจัยควรเป็นชุดโครงการวิจัยที่มีขนาดใหญ่
9. การสร้างเครือข่ายในการทำวิจัย โดยไม่ต้องกังวลกับสัดส่วนในการทำวิจัย แต่ควรหวังผลเรื่องการเพิ่มศักยภาพของตนเองในการทำวิจัย
10. การเข้าร่วมอบรมการพัฒนาศักยภาพในการวิจัยกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานวิจัยแห่งชาติ ซึ่งจะได้ทั้งความรู้และเครือข่ายในการวิจัย 11. อย่าละเลยบางประเด็นในหัวข้อของโครงร่างการวิจัย เช่น ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ผู้วิจัยที่จะขอทุนต้องเขียนให้ชัดเจนว่าจะนำไปใช้อย่างไร ใครได้ประโยชน์จากงานวิจัย และที่สำคัญในปัจจุบันการทำโครงร่างการวิจัยใหญ่ๆ นักการศึกษาจะทำแบบเดี่ยวๆไม่ได้ แต่ควรมีคนในพื้นที่ร่วมทีมด้วย เพราะผู้ให้ทุนวิจัยจะมองเห็นการนำไปใช้ประโยชน์จริงจากงานวิจัยนั้นๆ
อาจารย์ที่มีประสบการณ์ในการทำวิจัยน้อยอาจต้องมีผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำวิจัยมากเป็นที่ปรึกษาหรือชี้แนะแนวทาง
วิจัยกับคำว่า 'นักวิชาการ' มาด้วยกัน
ทำเพื่อเรียนรู้ ตอบโจทย์ พัฒนาแก้ปัญหางานที่ทำ
ควรเผยแพร่แหล่งสนับสนุนภายนอกทั้งในประเทศและค่างประเทศให้อาจารย์เพื่อเป็นแรงกระตุ้น
อาจารย์แต่ละท่านนำเสนอผลงาน ทำให้เรามีแรงกระตุ้นในการทำงานวิจัย
เป็นแรงบันดาลใจในการผลิตผลงานวิจัยเพื่อพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิชาการทุกคนควรพัฒนาตนเองไปเรื่อยๆ ขอบคุณเวทีที่สร้างแรงบันดาลใจค่ะ