ซุ้มบุปผา ถวายอาลัยพ่อหลวงฯ
มีโอกาสไปชมความงามของดอกไม้หลายล้านดอก ที่ชาวปากคลองตลาดร่วมกับจิตอาสา รวมกว่า 4000 คน ได้ผนึกกำลังร่วมใจรังสรรค์ ร้อยเรียงเป็นซุ้มบุปผา อันวิจิตรตระการตา เพื่อน้อมถวายอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนารถบพิตร ถึง 2 ครั้ง ตกแต่งซุ้มบุปผา เป็น 6 ซุ้ม คือ
ซุ้มที่ 1 ชื่อว่า ซุ้มคนไทย (Thais) สื่อความหมายถึง มนุษย์ทุกคนที่เกิดมา เปรียบเสมือนผ้าสีขาวบริสุทธิ์ ชาวไทยได้อาศัยอยู่อย่างสงบสุขภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระองค์
ซุ้มที่ 2 ชื่อว่า "สายฝน" (The Rain) สื่อถึงเหตุผลที่คนไทยรักพระองค์ท่าน อย่างมากมาย
ซุ้มที่ 3 ชื่อว่า "รอยเท้าพ่อ"(The Footstep of My Father) สื่อถึงโครงการหลวงที่ท่านทำเพื่อคนไทยให้อยู่ดี กินดีและมีชีวิตที่ดีขึ้น
ซุ้มที่ 4 ชื่อว่า "บ้าน" (Home) สื่อถึงความรักของพระองค์ท่านที่มีต่อปวงประชาชน
ซุ้มที่ 5 ชื่อว่า "หมายเลข 9"(King Rama IX) สื่อความหมายถึงความเจริญรุ่งเรือง ที่พระองค์ได้นำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศไทย ซุ้มที่ 6 ชื่อว่า "มณฑารพ" เป็นสวรรค์ในจินตนาการ ที่ออกแบบเป็นเทือกเขาสีขาวและมีประตูประดับประดาด้วยดอกมณฑารพโปรยโปรายลงมาสู่แผ่นดิน แท้จริงแล้วดอกมณฑารพจะร่วงจากต้น เฉพาะเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นบนสวรรค์เท่านั้น
ชื่นชมกับสิ่งดีๆ ที่ช่วยกันรังสรรค์เพื่อถวายอาลัยพ่อหลวงฯ
ไปเที่ยวชมครั้งแรกกับพี่ที่นับถือ ณ ยามค่ำ ของวันที่ 22 ตุลาคม 2560
ชมความงามของซุ้มบุปผา ยามเช้าของวันที่ 24 ตุลาคม 2560
จุดเริ่มต้นแห่งความมุ่งมั่น
ณ ยามสายของวันที่ 24 ตุลาคม 2560 ฝูงชนชาวไทยจำนวนนับหลายหมื่นคน นั่ง- ยืน พักอยู่เรียงรายตรงบริเวณทางเข้าจุดคัดกรอง ทั้ง 9 แห่ง เพื่อรอการตรวจค้นและอนุญาตให้เข้าไปสู่ด้านใน รอบๆพระเมรุมาศ ที่จัดตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง งดงามราวกับสรวงสวรรค์ที่มีผู้บรรยายไว้มาเนิ่นนานหลายยุค-หลายสมัย.... บางท่านมาจับจองพื้นที่ก่อนวันที่ 23 ตุลาคม 2560 เสียด้วยซ้ำ เพื่อเข้าไปรอร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ วันที่ 26 ตุลาคม 2560 ได้อาศัยชายคาหน้าร้านค้าหลบแดดอยู่กับเพื่อนๆ ตรงบริเวณสี่กั๊กเสาชิงช้า เพื่อผ่านจุดคัดกรองที่ 5 สะพานมอญ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความมุ่งมั่น.... ในช่วงหัวค่ำ- จวบจนกลางดึก สายฝนกระหน่ำลงมาเป็นระยะๆ ซึ่งมักจะพบเจอได้บ่อยครั้งในช่วงปลายฝนต้นหนาว มือกระชับร่มกางกั้นน้ำไม่ให้หล่นใส่ศีรษะ และดึงผ้าพลาสติกที่ใช้รองนั่งขึ้นมากำบังตัวได้เพียงเล็กน้อย ... เฝ้ารอคอยเวลาที่จะเคลื่อนขบวนไปสู่จุดหมายที่กำหนดไว้ในเวลา 05.00 น. ของวันที่ 25 ตุลาคม 2560
พลาดโอกาส
วางแผนเช่าโรงแรมไว้พักผ่อนยามจำเป็น ที่เยาวราช ห่างจากมณฑลพิธีท้องสนามหลวง แค่ 1.6 กม. เป็นเวลา 3 วัน (24-26 ต.ค.) จึงผลัดเปลี่ยนกันไปอาบน้ำ เมื่อถึงคิวไปอาบน้ำของตนจึงขอแถมเวลาอีกสัก 3-4 ชั่วโมง ตั้งใจจะไปถึงทีนัดหมายในเวลา 04.00 น. ก่อนเวลาที่ทางการกำหนดไว้ 1 ชั่วโมง แต่เพื่อนโทรฯมาบอกว่า จะมีการจัดตั้งแถวขบวนประชาชนที่ต้องการจะเข้าไปร่วมพระราชพิธี ในเวลา 24.00 น. เนื่องจากมีการร้องเรียนว่าหลายกลุ่มมาแทรกแถว จึงต้องมีการจัดระเบียบใหม่ เหลือบมองนาฬิกา…มีเวลาทั้งการเตรียมตัวและไปให้ถึงที่หมาย แค่ 20 นาที ไม่ทันการณ์ละ เกิดความท้อแท้ใจและละอายใจเกินกว่าที่จะไปแทรกเข้าไปอยู่ในกลุ่มเพื่อน กอปรกับเพื่อนอีกคนหนึ่งที่อยู่คิวอาบน้ำเวลาเดียวกันสุขภาพไม่ดี จึงตัดใจยอมพลาดโอกาส ในช่วงนี้
*** …ขอขอบคุณผู้เข้ามาเยี่ยมชม ทุกท่านนะคะ… ***
เป็นบันทึกที่น่าจดจำ
***...ขอบคุณ คุณแก้ว..อุบล จ๋วงพานิช มากนะคะ ....*** ประทับใจกับเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์ไทย *** ครั้งนี้มากมายเลยค่ะ
เป็นบันทึกที่มีคุณค่าทางจิตใจอย่างประมาณไม่ได้เลยค่ะพี่พร