สัมผัสหนาว@กุ้ยหลิน (guilin) 桂林(วันที่สี่กุ้ยหลิน - กวางโจว)

เช้าวันจันทร์ที่  29  มกราคม  2561  ตื่นเช้าตามปกติ 5.30 น.  จัดการกับตัวเองเรียบร้อย  7.00 น. ขึ้นไปทานอาหารเช้าชั้น 16  ห้องพักอยู่ชั้น 10  อาหารเช้าเป็นอาหารจีนไม่มีอาหารฝรั่ง  เพราะไม่มีฝรั่งสักคนให้เห็นที่เมืองกุ้ยหลินนี้  ตลอดระยะเวลา  3 วัน  

เขางวงช้าง (elephant trunk hill) 象鼻山 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองตรงบริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำหลีเจียงและแม่น้ำถาวฮัวเป็นหนึ่งในภูเขาที่ขึ้นชื่อของกุ้ยหลิน ทางตะวันออกเฉียงใต้สุดเขตเมืองกุ้ยหลิน ริมแม่น้ำหลีเจียง เป็นสัญลักษณ์ของเมืองกุ้ยหลิน ที่ได้ชื่อว่าเขางวงช้างนั้น มาจากรูปร่างของภูเขาหินที่คล้ายกับงวงของช้างที่กำลังโน้มลงเพื่อกินน้ำจากแม่น้ำหลีเจียงที่อยู่เบื้องล่าง บริเวณชายฝั่งแม่น้ำบริเวณนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาก ที่ใต้เขายังมี “ถ้ำคืนไข่มุก”เป็นจุดสนใจ ซึ่งว่ากันว่าเคยมีมังกรอาศัยอยู่ภายในถ้ำแห่งนี้ ปัจจุบันถ้ำคืนไข่มุกนับเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในกุ้ยหลิน ที่ภายในถ้ำโดดเด่นด้วยพระพุทธรูปแกะสลักหินที่ผนังถ้ำส่วนทางด้านฝั่งริมแม่น้ำหลีของถ้ำยังมีเสาหินที่ตามตำนานจีนเล่าว่า ยอดขุนพลของจีนคนหนึ่งที่มีรูปปั้นตั้งโดดเด่นอยู่หน้าเขาสลายคลื่นได้แสดงบารมีให้นักรบเวียดนามดู โดยใช้ดาบเดียวฟันฉับลงที่เสาหินจนขาดสะบั้นในดาบเดียวจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ในบริเวณเขางวงช้าง อาทิ ถ้ำจันทร์วารี (สุ่ยเยว์) ผาเนตรกุญชร เจดีย์ผู่เสียน วัดหงเฟิง ซึ่งภายในวัดเป็นที่แสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของไท่ผิงเทียนกั๊ว ข้างเตียงยังมีเจดีย์เส้อลี่แห่งวัดไคหยวน ซึ่งเป็นวัดโบราณ ที่เริ่ม สร้างในสมัยราชวงศ์สุย (ค.ศ. 581-617) แต่เสร็จสิ้นในสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907) ถ้ำจันทร์วารีอยู่ติดริมแม่น้ำ หลีเจียง สายน้ำไหลทะลุ หินผาและดูเหมือนกับพระจันทร์ลอยอยู่เหนือน้ำ ส่วนหินเหนือถ้ำย้อยลง แม่น้ำเหมือนงวงช้างที่ยื่นลงเพื่อ ดื่มน้ำจากแม่น้ำหลีเจียง แลดูน่าทึ่งและสวยงามยิ่งนัก นักกวีสมัยถังซ่ง เมื่อได้มาเยือนเขางวงช้าง แล้วประทับใจจนบรรยายเป็นบทกลอนดังนี้ใต้น้ำมีจันทราสว่างไสวเหนือน้ำมีจันทราลอยเด่น สายน้ำไหลแต่จันทรายัง จันทร์ลับฟ้าสายน้ำยังคงไหล

08.50 น. ทุกคนพร้อมเดินทางไปเขางวงช้าง  เช้านี้หนาวมากอุณหภูมิ 1 องศาเซนเซียส. มองน้ำบนเบาะมอเตอร์ไซต์ด้านล่าง เป็นน้ำฝนบนเบาะ มันกลายเป็นน้ำแข็งเพราะเมื่อคืนอุณหภูมิ 0 องศาเซนเซียส  ฝนที่กุ้ยหลินเป็นฝนโปรยปรายเบา ๆ มาพร้อมกับความหนาวแบบเย็น ๆ บางครั้งโปรยปรายมาพร้อมกับหิมะ

09.15 น.  ถึงเขางวงช้าง  นั่งรถกอฟท์เข้าไปชมธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำหลีเจียง ตอนนี้น้ำแห้งเห็นสันดอน ถ่ายรูปกับบรรยากาศเขางวงช้าง. แต่การเดิาต้องระมัดระวังเพราะน้ำแข็งบนทางเดิน บนใบไม้ข้างทางมีแต่น้ำแข็ง ระหว่างทางจะมีร้านขายของ ประเภทอาหารร้อน ๆ ได้น้ำขิงร้อน ๆ คิดเป็นเงินไทยแก้วละ  40  บาท

 

 เก็บภาพดอกไม้สวยๆ ดอกฉาฮัว บานชูช่อท้าความหนาว อย่างองอาจ  ดูแล้วทั้งกลีบดอกและใบแข็งแรงมาก 

10.40 น. มาถึงร้านอาหาร เขารีบทำเวลาเพราะต้องไปขึ้นรถไฟความเร็วสูงบ่ายโมง ระหว่างรออาหาร 11. นาฬิกา เก็บภาพบริเวณโต๊ะอาหารไปเรื่อยๆ อาหารมาแล้วจานเด่นกุ้งุชุบแป้งทอด วางมาใน เหมือนลอบดักกุ้ง

12.00 น. กลับขึ้นรถเพื่อเดินทางไปสถานีรถไฟ และเดินทางไปกว่างโจว เพื่อไปท่าอากาศยานไป่หวิน ..กลับบ้านเราเมืองไทยค่ะ

ณ สถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง เก็บภาพก่อนขึ้นรถไฟไว้เป็นที่ระลึกค่ะ 

ตั๋วโดยสารรถไฟความเร็วสูงค่ะ

12.13 น.  รถไฟฟ้าเคลื่อนขบวน คณะฯ นั่งโบกี้ที่ 7 ระหว่างทางเก็บภาพสวย ๆ สองข้างทางที่รถไฟวิ่งผ่าน ซึ่งเรานั่งคนละด้านกับขาไปกุ้ยหลิน  เราจะเห็นสวนส้มที่เขาใช้พลาสติกห่อหุ้มไม่ให้โดนหิมะ และความหนาว ธรรมชาติงดงามยังกับภาพในนิยายจีน

ถึงสถานีกว่างโจว. เวลา 17.00 น.  กลับขึ้นรถบัส เดินทางไปสนามบินไป่เหวิน. ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึงสนามบิน 18.30 น. ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง เที่ยวบินKG 887 : Kenya Airways เหินฟ้าเวลา 21.40 น.

 *เกิดความผิดพลาดของสายการบิน จากที่นั่งชั้นธรรมดา เขาอัพเกรดให้นั่งชั้น Premier World. บริการหรูเริดราคาเดิม เขาดูแลลูกค้าดีมาก.ชั้นธรรมดาอาหารบริการด้วยกล่องโฟม แต่ชั้นนี้ถ้วย/จาน กระเบื้องอย่างดี นั่งปุ๊บมีเครื่องดื่มเย็นๆมาให้ นั่งสักพักมีผ้าร้อนหอมกรุ่นมาให้เช็ดหน้า(จริงๆคงแพงเนอะ)  แต่จะถูกหรือแพง ก็ดีใจที่กลับถึงพื้นดินโดยสวัสดิภาพเมื่อเวลา เที่ยงคืนค่ะ ..เป็นทริปที่หนาวเย็นสุดๆแต่ก็ happy นะคะ 

[ประกาย~natachoei ที่~natadee]

เห็นภาพแล้วอยากไปเที่ยว

[ครูแอ๋ม]

มีโอกาสแล้วไปค่ะไม่ใกล้ไม่ไกล  ธรรมชาติสวยงาม  สามารถต่ออายุเราได้นะคะ