ผมใช้เวลาในการเดินทางไปทำงานตอนเช้าด้วยการฟังข่าวสารจากรายการบันทึกสถานการณ์สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจากเวลา ๘ นาฬิกาถึง ๙ นาฬิกาส่วนหนึ่งเป็นเพราะรู้สึกประทับใจผู้ดำเนินรายการที่ใช้คำถามในการถามผู้ที่รับเชิญมาร่วมรายการได้อย่างกระชับและตรงประเด็น
เช้านี้เป็นการสัมภาษณ์รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องการจัดงานครบรอบสถาปณากระทรวงและมหกรรมแพทย์แผนไทยแต่นั่นไม่ทำให้ผมสะดุดใจเท่ากับการให้ข้อมูลของท่านรองปลัดเกี่ยวกับการเรียกเก็บยารักษาความดันโลหิตสูงบางรายการออกจากตลาดที่สะดุดใจมีเหตุจากสองประการ
ประการแรก เมื่อวานตอนเย็นมีคนไข้ถือยามาให้ผมดูที่คลินิกด้วยความเป็นกังวลและบอกว่าได้หยุดกินยาดังกล่าวมาสองสามวันแล้ว เพราะกลัวและไม่รู้ว่ายาที่ตนเองกินใช่ยาที่เป็นข่าวหรือไม่
ประการที่สอง คือผมเป็นแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวที่เคยทำงานราชการและเห็นด้วยกับการผลักดันให้คนไทยมีแพทย์ประจำตัว(ซึ่งมีความเหมือนและประเด็นที่แตกต่างอยู่พอควรกับนโยบายหมอครอบครัวของกระทรวงสาธารณสุขในปัจจบัน)
ประเด็นของผมก็คือว่าหากโครงการดังกล่าวที่ว่าเป็นไปด้วยดีทำไมกระทรวงสาธารณสุขจึงไม่ใช้ช่องทางนี้เป็นแกนในการจัดการกับปัญหาตัวอย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราจินตนาการว่าทุกคนมีหมอครอบครัวซึ่งดูแลเราทุกเรื่องดังนั้นเรื่องที่ผู้ป่วยกลุ่มไหนในความรับผิดชอบของทีมหมอครอบครัวที่กำลังใช้ยาlotนี้อยู่ย่อมต้องทราบได้โดยเร็ว(เว้นเสียแต่ว่าในทางปฏิบัติแพทย์และทีมไม่ได้มีความรู้สึกว่าเป็นเจ้าของคนไข้อย่างแท้จริง)ถ้าทีมหมอครอบครัวรับทราบความเสี่ยงเรื่องยาตัวนี้ที่คนไข้ตนเองดูแลรับผิดชอบใช้อยู่ก็ควรจะต้องมีการสื่อสารโดยตรงกับคนไข้(ในยุค๔.๐คงใช้เวลาชั่วข้ามคืนหากการสนับสนุนระบบการสื่อสารของทีมกระทรวงสาธารณสุขมีจริง)และให้มาเปลี่ยนหรือออกไปเปลี่ยนให้โดยไม่ยากและล่าช้าจนกลายเป็นความตื่นตระหนก
และที่ตลกร้ายไปกว่านั้นคือ คำแนะนำของรองปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่บอกว่าหากไม่แน่ใจให้ไปติดต่อที่โรงพยาบาล
หมายความว่าอย่างไรครับแทนที่ท่านจะเข้าใจในบทบาทของทีมหมอครอบครัวที่ประชาสัมพันธ์ว่าจะดูแลต่อเนื่องทุกเรื่อง ทุกที่ ทุกเวลาและบอกว่านโยบายนี้แหละที่จะลดความแออัดของโรงพยาบาลแต่ท่านกลับบอกประชาชนให้ติดต่อกลับไปที่โรงพยาบาลถ้าในอุดมคติต้องติดต่อไปที่ทีมหมอครอบครัวครับ
ตัวชี้วัดจากเหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นอย่างเด่นชัดว่านโยบายหมอครอบครัวของกระทรวงสาธารณสุขต้องมีการทบทวนแนวคิดและการปฏิบัติซึ่งเอาเข้าจริงไม่ใช่ผู้ปฏิบัติตัวเล็กๆในพื้นที่หรอกครับแต่คนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะทั้งหลายนั่นแหละครับที่ไม่เข้าใจแนวคิดนี้อย่างถ่องแท้
หมอสีอิฐ
๑๖กค. ๖๑
ไม่มีความเห็น