วัดทองบ่อ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากเกาะเมืองอยุธยาไปทางทิศใต้ประมาณ ๙ กม. บนทางหลวงหมายเลข ๓๔๗๗ (อยุธยา – บางปะอิน) ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังคงเหลือชุมชนชาวมอญเพียงแห่งเดียวที่อนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีไว้อย่างเหนียวแน่น คือ ชุมชนมอญเสากระโดง ซึ่งเดิมเรียกชื่อหมู่บ้านตามภาษามอญว่า “กวานประสาท” เคยเป็นด่านขนอนหรือด่าน เก็บภาษีอากรในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีเรื่องเล่าว่า บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่วัดโปรดสัตว์ วัดทองบ่อ และตลาดโก้งโค้ง ในปัจจุบันนี้ ในสมัยโบราณ เป็นคล้ายกับท่าเรือคลองเตยของกรุงเทพทุกวันนี้ คือจะมีเรือสำเภาขนสินค้าเข้ามาค้าขายกับกรุงศรีอยุธยา และจะต้องมาจอดรอที่ด่านเก็บภาษีที่เรียกว่า ขนอนหลวง บริเวณที่ขึงโซ่ขวางแม่น้ำเจ้าพระยาจะอยู่ที่ต้นมะขามในวัดโปรดสัตว์ ซึ่งปัจจุบันยังมีต้นมะขามยักษ์นี้อยู่ และมีเรือสินค้าอับปางลงบริเวณนี้ด้วย เสากระโดงเรือได้ถูกพบโดยชาวบ้านที่ลากอวนหาปลา เสากระโดงเรือดังกล่าวได้นำมาเก็บไว้ที่วัดทองบ่อ ยังมีเรื่องเล่าต่อกันมาอีกว่ายังมีระฆังขนาดใหญ่ที่ยังคงจมอยู่ใต้ลำน้ำบริเวณหน้าวัดชีปะขาว ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับวัดทองบ่อ และยังคงไม่สามารถนำขึ้นมาได้ ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงเรียกว่า หมู่บ้านเสากระโดง อันมีวัดทองบ่อหรือชื่อเดิมว่า เพย์ทอปลาง เป็นศูนย์กลางหมู่บ้าน โบราณสถานและวัตถุที่สำคัญในวัดทองบ่อ ได้แก่ เจดีย์โบราณย่อมุมไม้สิบสองซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เสากระโดงเรือทำจากไม้ตะเคียน ความยาวประมาณ ๒๑ เมตร พระอุโบสถปัจจุบันสร้างใหม่บนสถานที่เดิมของพระอุโบสถหลังเก่า นอกจากนี้ วัดทองบ่อยังสืบสานประเพณีอันดีงามของชาวมอญไว้ โดยวันมหาสงกรานต์จะจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์แบบมอญหรือที่เรียกว่า ตักบาตรน้ำผึ้ง ประเพณีแห่โหน่ สรงน้ำพระสงฆ์จากรางไม้ไผ่ซึ่งมีที่เดียวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านจะแต่งกายแบบชาวรามัญ พร้อมมีอาหารพื้นบ้านเพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีของบรรพบุรุษที่สืบต่อกันมาหลายร้อยปี....ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ..
ไม่มีความเห็น