อุตมสาสมาธิ รุ่นที่ ๒ (พระธรรม) ปัจฉิมนิเทศ

เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ เป็นวันที่ผู้ที่เรียนหลักสูตร อุตมสาสมาธิ รุ่นที่ ๒ (พระธรรม) รับโอวาสปัจฉิมนิเทศจากพระอาจารย์หลวงพ่อ วิริยังค์ฯ ด้วยการถ่ายทอดสดทางวิดิโอ และสอบภาคทฤษฎี และปฏิบัติเดินจงกรมและทำสมาธิ 

          ด้วยภาระกิจเกี่ยวกับการดูแลแม่และสายตาของผู้เขียนที่เริ่มรู้ตัวว่ายากในการขับรถช่วงกลางคืน เป็นเหตุให้ตอนแรกที่ผู้เขียนลังเลในการเรียนหลักสูตรนี้ แต่ผู้เขียนกลับพบว่าการที่ผู้เรียนได้ออกไปพบเพื่อนกัลยาณมิตรที่เคยร่วมเรียนหลักสูตรครูสมาธิ รุ่นที่ ๓๗ มาด้วยกัน ถือได้ว่าเป็นพลังที่ดีที่ทำให้ผู้เรียนพยายามอุตสาหะให้ได้ไปเรียนจนถึงวันสอบได้ด้วยดี ซึ่งคล้ายกับช่วงที่ผู้เขียนต้องไปเรียนหลักสูตรครูสมาธิ เพราะช่วงนั้น ผู้เขียนก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะเรียนจนจบด้วยดีเช่นกัน 

          การเรียนสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรใด พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ มักจะเน้นให้ทำสมาธิเพื่อผลิตพลังจิต และต่อเนื่องเสมอ 

          ในวันปัจฉิมนิเทศน์ผู้เขียนสังเกตุว่าพระอาจารย์ด้วยวัยเกือบ ๑๐๐ ปี มีสภาพร่างกายผอมลงและอ่อนแรงมากกว่าวันปฐมนิเทศน์ แต่เมื่อท่านได้ให้โอวาสแล้วนั่นเอง ที่ผู้เขียนรู้สึกได้ว่าพระอาจารย์กลับมีพละกำลังมากกว่าเมื่อตอนที่เดินเข้ามาก่อนให้โอวาส อาจจะเป็นเพราะท่านได้รับทราบว่าสิ่งที่ท่านได้ปวารนาที่จะเผยแพร่พระธรรมและการทำสมาธิเพื่อความสันติสุขของโลกเป็นจริงได้นั่นเอง 

          ไม่น่าเชื่อเลยว่า ในช่วงสูงวัยของพระอาจารย์นี้เอง ท่านยังสามารถคงเขียนหลักสูตรด้วยเครื่องมืออันทันสมัย คือ ไอแพด 

           ผู้เขียนคิดว่าท่านได้พลังจิตที่ท่านได้สั่งสมมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน จึงทำให้ท่านสามารถผลิตตำรา หลักสูตรต่างๆออกมาให้กับลูกศิษย์ได้เรียน ได้ทำสมาธิอย่างต่อเนื่องด้วยดี และลุกขึ้นมาทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างเรียบร้อยเสมอมา 

          คุณวิเศษของการทำสมาธิ คือ ผลิตพลังจิต ซึ่งสำหรับผู้เขียน การได้ทำสมาธิทำให้เกิดสิ่งที่ไม่น่าจะสำเร็จให้สำเร็จด้วยดี ช่วยให้ผู้เขียนสามารถดำเนินชีวิตไปได้ราบรื่น ช่วยลดทอนสิ่งไม่ดีที่มีเกิดขึ้นให้บรรเทาเบาบางลงได้