ผู้เขียน เคยสังเกตตัวตนมาหลายต่อหลายครั้ง.. หลายปีดีดักเหลือเกินแล้ว...
ก็ไม่เคย ร้อง”อ้อ” ร้อง”อ๋อ” เสียที
..............................................
#เหตุที่ไม่เคยคิดได้เสียทีว่า...นั่นเป็นเพราะอะไร.. ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
…..............................................
ผู้เขียนรู้แต่เพียงว่า...ทำไมเราถึงถูกจริตกับเขา.. เราเข้ากับเขา ได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย...โดยไม่รู้สึกขัดเขินข้องใจแต่อย่างใด...รู้เพียงเท่านั้น.....
เมื่อรู้เพียงเท่านั้น...ก็หาคำตอบสั้น ๆ เพียงตื้น ๆ ว่า...
ตัวเขาไม่เคยทำให้เราไม่สบายใจ ไม่เคยยืมตังค์เรา(ฮา)...ก็คบกันไป... หากวันใด มีเรื่องเคืองขุ่นกันเข้า.. ก็พยายามหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง อยู่เสมอ ๆ ให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูก ฝ่ายดี.. เสียร่ำไป...
.................................................
มาวันนี้....โลกที่กว้างใบนี้ ยิ่งเรานั่งมอง ...เราก็ยิ่งรู้สึก...สุข สงบ อยู่ในที
.................................................
#วันที่นั่งมองฝูงมดแดงที่ไต่อยู่ตามโคนไม้..ทำให้ผู้เขียน รับรู้อะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ตรงนั้นสัตว์พวกนี้ มันอยู่ของมัน ถ้อยทีถ้อยอาศัย เดินตามจ่าฝูงเป็นกำลัง โดยไม่อิดออด
พวกมันต่างคลานตามกัน รวมกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่น
เพียงแค่เราเอานิ้วไปแตะทางเดินของมัน ..มันกลับกรูเข้ากัดเรา ทำร้ายเรา นั่นเพราะว่า..
เราไปขวางทางเดินของมัน พวกมันรู้ว่าไอ้นิ้วของเรานี้ เป็นสิ่งแปลกปลอมที่มิใช่พวกของมัน นิ้วของเราจึงเป็นดั่งศัตรู สัตว์ประหลาด อะไรทำนองนั้น ที่พวกมดแดงเหล่านี้ ต้องกรูเข้ากัด ทำร้าย รุมทึ้ง เราอย่างบ้าคลั่ง
...................................................
แต่มาวันนี้ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้ผู้เขียนเข้าใจโลกและชีวิตได้มากขึ้น
...................................................
#การได้ศึกษาธรรมะของพระพุทธองค์ซึ่งเป็นสิ่งจริงแท้แน่นอน
คำพูดทุกคำที่พระองค์ทรงพูด ทรงสอนพระองค์เคยพูดไว้ว่า...
สัตว์ที่มันเหมือนกัน มันจะอยู่ด้วยกัน รวมกลุ่มกัน คบค้าสมาคมกัน เป็นพวกเดียวกัน เพราะสัตว์เหล่านี้ พวกนี้.. พระพุทธองค์ทรงบอกว่า..ที่มันอยู่ด้วยกันเพราะมันมีธาตุที่เหมือนกัน คล้ายกัน เมื่อมีธาตุเหมือนกัน คล้ายกัน พวกมันจึงอยู่รวมกลุ่มกันได้ ....เข้ากันได้ อย่างสนิทใจ
..................................................
วันนี้ผู้เขียนกำลังนึกถึง เรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของผู้เขียน ทุกบริบทของชีวิตที่รับรู้และทำความเข้าใจในบริบทนั้น
...................................................
ความรู้สึกของเรา.. ความคิดของเรา
#บริบทชีวิตของเรา..สรรพสิ่งที่เรียงร้อย ถักทอ ประสานกลมกลืนเกี่ยวข้องกัน ทำให้ชีวิตของเรานั้นก้าวเดินต่อไปได้โดยไม่หยุดนิ่ง...และการเรียนรู้ในบริบทของชีวิตนี่เอง เป็นการก้าวเดินของชีวิต เพื่อเรียนรู้โลก.....เรียนรู้ชีวิต ด้วยตัวของเราเอง
..................................................
ผู้เขียนมานั่งคิดครับว่า...การที่เราจะดึงดูดใครสักคนนั้นเข้ามาหาเราในชีวิตของเรา มีความคุ้นเคยกับเรา เดินไปกับเราได้นั้น .. มันต้องเริ่มจากตัวของเราเองเสียก่อน
วันนี้ผู้เขียนจึงได้คำตอบในบางมุมของชีวิตแล้วครับว่า...เราจึงต้องเปลี่ยนแปลงที่ตัวของเราเองก่อนเสมอ
...................................................
............................................
#เราอยากเป็นคนแบบไหน...เมื่อเราเป็นได้แล้ว... เราจะได้คนแบบนั้นเข้ามาในชีวิตของเราเสมอ…#จำไว้
...................................................
ผู้เขียนกราบขอบพระคุณ..พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ..
ที่ทำให้ผุ้เขียนได้เรียนรู้โลกและชีวิตได้กระจ่างขึ้นตามภูมิจิต ภูมิธรรมที่ผู้เขียนมี
....................................................
บันทึกไว้ในค่ำคืนของวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 คืนวันที่ผู้เขียนนั่งคิดถึง...พ่อแม่ครูบาอาจารย์
จะรอศึกษาจากอาจารย์นะคะ ขอบคุณที่เล่าเกร็ดชีวิตที่ดีให้อ่านค่ะ