นานแล้วที่ไม่ได้เข้ามาเขียนอะไรไว้ วันนี้มีเหตุให้ต้องเขียนก่อนที่จะถูกทำให้เลือนหายไปโดยฝีมือความลืมของข้าพเจ้าเองวันนี้มีนัดกับนักศึกษาที่ คก. บริหารหลักสูตร ส.บ. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัลพระราชทาน ของกระทรวงศึกษาธิการ ระดับอุดมศึกษา นัดกันเพื่อลงนามในเอกสารรับรองก่อนเสนอไปพิจารณากันตามลำดับขั้นของการบริหาร และเมื่อ “นิว” ลูกสาวคนที่ถูกเสนอชื่อนี้มาเจอ เสนอเอกสารให้ลงนาม ขณะที่นั่งอ่านกอ่นลงนาม หูก็ได้ยินคำกล่าวเบาๆ ของเธอว่า หนูใช้เวลาทำและแก้ไขจากที่ได้รับคำแนะนำมาในช่วงเสาร์อาทิตย์ เสียดายเวลาที่จะเตรียมสอบกลางภาค เพราะเมื่อเช้าเข้ามาใน ม. แล้วทราบว่า.... หากเขามีคนของเขาแล้ว ผมก้มลงนามในเอกสารได้ยินก็นิ่งไป พยายามคิดว่าจะตอบว่าอะไรดี ยังไงดีเพื่อให้เกิดกำลังใจที่ดีทางบวก จึงได้พูดขึ้นว่า เกิดเป็นคนใต้ต้องเข้าใจวิถีวัวชน วัวชนเวลาถึงนัดจะชน หากทั้งสองตัวยังไม่ต่อเขากัน แต่มีตัวใดตัวนึงวิ่งหนี หรือไม่เข้าชนไม่ต่อเขาทั้งคู่ จะถูกตีความต่างกัน แต่ที่เหมือนกันคือยังไม่สามารถตัดสินได้ว่าตัวไหนแพ้หรือตัวไหนชนะ เพียงหากตัวไหนวิ่งหนีไม่ยอมชน ก็จะถูกนินทาว่าไม่สู้หรือใจเสาะหรือขี้แพ้ แต่หากใช่แพ้จริงๆ ไม่ เพราะยังไม่สามารถตัดสินแพ้ชนะได้ ครูไม่ได้เปรียบนิวเป็นวัวชน แต่เปรียบเปรยให้เห็นว่าเกิดเป็นคนวิถีใต้ ต้องเข้าใจสังคมเข้าใจวิถีเราเอง ให้ดีๆ ตัวครูเองหลายเรื่องครูรู้ว่าพ่ายแพ้ตั้งแต่เห็นอคติ เห็นการถืออำนาจแล้ว แต่ที่ครูชน เพราะครูยอมถูกเรียกว่าผู้แพ้ ดีกว่าใครมาเรียกว่าไอ้ขี้แพ้ เธอก็เช่นกันวันนี้หากผลการสัมภาษณ์เพื่อคัดเลือกจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ แต่เธอจะไม่ใช่ไอ้ขี้แพ้แน่นอน “นิวลูกรักของครู”
ไม่มีความเห็น