จากตอนที่ 1-4 ดังได้กล่าวมาแล้วว่าภูมิภาคแห่งนี้ ได้มีการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก และการยกตัวของเปลือกโลกอยู่
ตอดเวลา ทำให้ทะเลหน้าเมืองทางด้านทิศใต้ เกิดการตื้นเขิน เส้นทางเดินเรือจากเมืองป้องปุตร ถึงเมืองปะแลนดาก็หมดสภาพ
ยากแก่การเดินเรือได้ ซ้ำร้ายกว่านั้นธรรมชาติได้สร้างหาดทรายขึ้นในทะเลอ่าวไทย เป็นหาดทรายที่มีความยาวหลายร้อย
กิโลเมตร เริ่มจากอำเภอกาญจนดิษฐ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไปทางใต้จนถึงอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เข้าไปยังแหลม
มลายู เป็นผลให้เกิดทะเลตอนในขึ้นมาเรียกว่าทะเลใน
เป็นผลให้เมืองป้องปุตรไม่ได้เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลอ่าวไทยอีกต่อไป การติดต่อค้าขายกับเมืองต่างๆ ในภูมิภาคนี้ก็ค่อย
ลดน้อยลงไป ท้ายที่สุด เมืองป้องปุตรก็กลายเป็นเมืองตาย ผู้คนอพยพหลบหนีไปอู่ที่อิ่น
บัดนี้เมืองป้องปุตร เหลือเอาไว้เพียงก้อนอิฐไม่กี่ก้อน และกระดูกชาวเมืองที่ล้มตาย
ก็ยังเป็นหลักฐานให้คนรุ่นหลังได้ศึกษากันต่อไป ที่บ้านป้องปุด และบ้านหารเปลวในพื้นที่ตำบลฝาละมี อำเภอปากพะยูนจังหวัด
พัทลุง......
.เมืองป้องปุตรกลายเป็นเมืองตายหลังจากรับใช้ผู้คนในภูมภาคแถบนี้มาแล้วกว่า 1000 ปี แต่ก็ได้เกิดเมืองใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่
แทน คือเมืองสิงหนคร(อ่านว่า สิงหะนะคะระ) หรือเมืองสงขลาในปัจจุบัน......
เมือกปากพะยูนความเป็นมาย้อนไปถึงโบราณคดี มีองค์ประกอบทางมานุษยวิทยาและธรณีวิทยา สถาบันการศึกษาในพื้นที่ควรมีโครงการในรูปคดีศึกษาที่เป็นรูปธรรม เพื่อเป็นชุดความรู้ที่ใช้ประโยชน์ในอนาคต
เรียนอาจารย์จำรัส สืบค้นเมืองเมืองป้องปุตร เห็นความเริญรุ่งเรือง แล้วก็กาลล่มสลาย ก็มีเมืองใหม่ ปากพะยูนเกิดมาทำหน้าที่เมืองท่าแทน ประวัติศาสตร์คือร่องรอย ที่คนรุ่นหลังจะได้เรียนรู้เรียนรู้ประวัติศาสตร์เพื่อมาปรับใช้ในปัจจุบัน และวางแผนอนาคตแต่หากหลงไหลได้ปลื้มอยู่กับประวัติศาสตร์ แล้วไม่พัฒนาความคิดให้ทันกับกระแสของความเปลี่ยนแปลง เราก็จะถูกลืมเหมือนกับเครื่องมือสื่อสารต่างๆที่ผ่านมา