วัดยม อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอบางบาลประมาณ ๖ กม. ตามถนนทางหลวงชนบท อย ๔๐๔๗ เส้นทางจะผ่านวัดไผ่ล้อม วัดนกกระจาบ และวัดธรรมจักร ก็จะถึงทางเข้าวัดยมทางซ้ายมือ วัดยมไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง สันนิษฐานว่าสร้างราว พุทธศตวรรษ ที่ ๒๐ – ๒๑ สมัยอยุธยาตอนต้น โดยพิจารณาจากซากเจดีย์เก่าที่เหลืออยู่ เป็นเจดีย์ทรงระฆัง ก่ออิฐไม่สอปูน บนฐานแปดเหลี่ยม ข้างในกลวง คล้ายกับวัดกระซ้าย ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะเมืองอยุธยา มีเรื่องเล่าต่อกันมาจากชาวบ้านว่า พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ดอนน้ำไม่ท่วม จึงเกิดชุมชนและสร้างวัดขึ้น และยังเป็นสถานที่พักทัพในสมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อเสียกรุงศรีอยุธยา พ.ศ.๒๓๑๐ วัดยมได้กลายเป็นวัดร้าง และราว พ.ศ.๒๔๗๔ พระครูภาวนารังสี ( เปลื้อง วิสัฏโฐ )ท่านเป็นชาวบางบาล ได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดยม จนได้รับการยกให้เป็นวัดที่มีพระภิกษุจำพรรษา และท่านได้รับสมณศักดิ์เป็น พระครูภาวนาพิริยคุณ จำพรรษาอยู่วัดยม ๑๔ พรรษา ก่อนที่ท่านจะย้ายไปบูรณะฟื้นฟูวัดใหญ่ชัยมงคลในเวลาต่อมา โบราณสถานที่สำคัญได้แก่ เจดีย์ทรงระฆังบนฐานแปดเหลี่ยม ไม่มียอดก่ออิฐไม่สอปูน ใบเสมาหินชนวน อุโบสถหลังใหม่สร้างแบบมหาอุดบนฐานอุโบสถหลังเก่า บางท่านสันนิษฐานว่าเดิมน่าจะเป็นวิหารเพราะตั้งอยู่ด้านหน้าเจดีย์ประธานของวัด และบ่อน้ำโบราณก่ออิฐสมัยอยุธยา นอกจากนี้ยังมีต้นโพธิ์เก่าแก่ซึ่งคาดว่าจะมีอายุไม่น้อยกว่า ๒๐๐ ปี ปัจจุบันวัดยมมี หลวงพ่อพระมหาสายันต์ เตชวโร ชาวบางบาล อุปสมบทเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘ พรรษาที่ ๔๔ เปรียญธรรม ๓ ประโยค เป็นเจ้าอาวาส ..
ขออภัยครับ ยังใช้ไม่ค่อยเป็น…ครับผม
ต้นมะขามยักษ์ วัดยม บางบาล