ย้อนกลับไปเส้นทางเดิม เพื่อกลับสู่ "สบสะเมิง"
..
"... จากถนนหน้าโรงเรียนบ้านแม่ลานคำ ..."
..
..
"... มีนาขั้นบันไดเล็ก ๆ อยู่ข้างทาง เงียบงามและสงบมาก ..."
..
..
"... ถนนคอนกรีตเล็ก ๆ สลับกับถนนดินพัง ๆ ..."
..
..
"... พื้นที่ราบเล็กเพียงไหน ชาวบ้านก็ยังสามารถปลูกข้าวได้เพียงนั้น ..."
..
..
"... อันนี้เป็นพื้นราบใหญ่สักหน่อย เริ่มมีการปักดำกันแล้ว ..."
..
..
ใช้ระยะทางออกมาจาก "โรงเรียนบ้านแม่ลานคำ" ถึง "โรงเรียนสะเมิงพิทยาคม" ๑๖ กิโลเมตร
โรงเรียนสะเมิงพิทยาคม เป็นโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอสะเมิง เขตพื้นที่มัธยมศึกษาที่ ๓๔
ก่อนที่เด็กอำเภอนี้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยต้องได้รับบ่มเพาะความรูัที่นี่ก่อน
..
..
"... หน้าอาคารเรียนที่จะมานิเทศ มีสุนัขตัวหนึ่งมานอนอาบน้ำแล้วก็เดินขึ้นไปตากแดด น่ารักมาก ..."
..
..
"... ห้องเรียนเป็นอาคารเก่าแก่ ไม่มีเครื่องปรับอากาศมีแต่อุปกรณ์การเรียนอย่างที่เห็น ..."
..
..
"... ลูกศิษย์กำลังสอนวิชาภาษาอังกฤษให้กับเด็ก ม.๒ ..."
..
..
การนิเทศสำหรับผมก็คือ การเยี่ยมเยียนไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ ความเป็นอยู่ว่าสบายดีไหม
และการให้เขาเตรียมทำงานแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่หมดภาคเรียนนี้ เช่น แผนการสอน, แฟ้มสะสมผลงาน,
รายงานการวิจัย ๑ เรื่อง ฯลฯ
วันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับหัวหน้าหมวดวิชาภาษาอังกฤษและอาจารย์พี่เลี้ยงของเขาด้วย
ทั้งฝากฝังและฝากกระตุ้นเตือนเรื่องการเป็นครูและการปฏิบัติงาน
ก่อนจะเดินทางกลับบ้าน ฝนเริ่มลงล่ะ ปรอย ๆ แต่เริ่มหนักขึ้นเมื่อเลยไปสัก ๒ - ๓ กิโลเมตร
ตอนแรกตัดสินใจจะกลับเส้นทางเดิม คือ สะเมิง - หางดง แต่ด้วยหนทางที่เป็นโค้งหักศอก
ประกอบด้วยฝนตกหนักมา น้ำไหลบ่าที่ถนน อีกทั้งกลัวดินสไลด์ลงมาอีก จึงตัดสินใจใช้เส้นทางอ้อม
คือ ทางหลวงหมายเลข ๑๐๙๖ สะเมิง - แม่ริม ยอมขึ้นดอยสูง แต่หักศอกน้อยกว่า ลื่นน้อยกว่า
..
..
"... สะพายกระเป๋า แบกเป้ ห้อยถุงรองเท้าหุ้มถุงพลาสติกไว้หน้ารถ สวมเสื้อกันฝน แล้วขี่รถมาช้า ๆ
ระวังมาก ๆ เร่งเร็วไม่ได้ เพราะกลัวรถลื่นตอนเข้าโค้ง จนถึงศาลาจุดชมวิวทิวทัศน์ป่าสะเมิงจึงพักรถ ..."
..
..
"... จุดชมวิว เห็นแต่เมฆและหมอกฝนที่ลอยปน ๆ กันอยู่บนฟ้า ละเลี่ยทางอย่างที่เห็น ..."
..
..
..
..
"... หมอกฝนมันลอยเข้ามาปะทะตรงถนนเรื่อย ๆ อากาศก็ชื้น พื้นก็แฉะ ต้องพักรถอยู่สัก ๒๐ นาทีได้ ..."
..
..
"... หมอกฝนลอยหล่นอยู่บนถนนอย่างไม่ขาดสาย คิดไปก็โรแมนติกไม่เบา ..."
..
..
..
..
"... คือ ต้องจอดรถข้างทาง แถมยังต้องระวังรถที่มาจากทั้งสองฝั่ง เพราะมองไม่เห็นทางข้างหน้าเลย
ถ่ายรูปเสร็จแล้ว บอกตัวเองว่า ต้องรีบไป ถ้าไม่อยากเข้าไปอยู่ในรถหวอที่สวนมา ..."
..
..
"... น้ำท่วมถนนเป็นระยะ ๆ แต่เมื่อลงดอยมาเรื่อย ๆ ฝนก็เริ่มน้อยลง ..."
..
..
เมื่อถึงตัวอำเภอแม่ริม ก็แวะเติมน้ำมันไป ๙๐ บาท + กับซื้อชาเขียวฟูจิไว้เมื่อเช้า ๓๐ บาท
รวมค่าใช้จ่ายในการนิเทศครั้งนี้ ๑๒๐ บาทขาดตัว กับระยะทางวนรอบ ๑๒๐ กิโลเมตรได้
ถามว่า ขี่รถเครื่องมานิเทศเหนื่อยไหม ก็ตอบว่า "ไม่เหนื่อย" มีความสุขดีอย่างที่เล่าให้ฟังแล้วในบันทึกที่ผ่านมา
การได้ไปเห็นวิถีแห่งชุมชน ถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่า
การได้ไปสัมผัสชีวิตของคุณค่าในโรงเรียน ถือว่า เป็นการเปิดโลกทัศน์
การได้ขี่รถเครื่อง วางหัวโขนความเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยลง ถือว่า เป็นการลดอัตตา
"ฟัง" ให้ได้มากกว่า "พูด" คือ กำไร
..
ขอบคุณทุกท่านที่ฟังเรื่องราวการนิเทศมาจนถึงบรรทัดนี้
บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)...
..
วางแผนเตรียมพร้อมดีมาก ๆ ค่ะคุณครูเงา.
ว่าแต่เอารองเท้าไปสองคู่. หรือสวมเพียงถุงเท้าขับรถคะ ? สงสัยจริ๊ง !!!
ฝนไม่ตก … รองเท้าผ้าใบ
ส่วนฝนตก … รองเท้าแตะยาง ครัาบบ คุณหมอธิ 555