รมว.อว. มอบนโยบาย "การบริหารงานอุดมศึกษา ภายใต้การกำกับดูแลของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม"
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.) พร้อมด้วย รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ปอว.) เข้ามอบนโยบาย "การบริหารงานอุดมศึกษา ภายใต้การกำกับดูแลของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม" ในการประชุมสามัญที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย และการประชุมสามัญสมาคมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ครั้งที่ 4/2562 และการประชุมสามัญสมาคมสถาบันการศึกษาขั้นอุดมแห่งภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ประจำประเทศไทย (สออ. ประเทศไทย) ครั้งที่ 2/2562
.
ดร.สุวิทย์ รมว.อว. กล่าวว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เป็นกระทรวงใหม่ล่าสุดที่จัดตั้งขึ้น ซึ่งภารกิจที่มีไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหรือตอบโจทย์ปัจจุบัน แต่มีบทบาทหลักในการวางรากฐานประเทศสู่อนาคต โดยเป็นกลไกขับเคลื่อนประเทศสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว อว. จะต้องช่วยกันผลักดัน 3 พันธกิจหลัก เพื่อตอบโจทย์ 3 ภารกิจดังกล่าว นั่นคือ
1. การสร้างและพัฒนาคน ให้เป็น Smart Citizen จะทำอย่างไรที่จะเปิดโอกาสได้อย่างเท่าเทียม “ในการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ” ซึ่งไม่ใช่เพียงทำให้เยาวชนเก่งขึ้น แต่ต้องลดช่องว่างทางสังคม ไม่ว่าจะเรียน Track ไหน ก็เป็น Smart Citizen ได้ และไม่ใช่แค่การมีงานทำ แต่สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ พร้อมกับการปลูกฝังลักษณะนิสัยที่พร้อมรับมือกับโลกในศตวรรษที่ 21/
2. การสร้างและพัฒนาองค์ความรู้ ไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่เน้นคุณค่า (Value Based Economy) จะบูรณาการงานวิจัยทั้ง 3 ศาสตร์ (วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์) ให้เป็นการวิจัยที่มีขีดความสามารถ ครอบคลุมทั้งนวัตกรรมธุรกิจ นวัตกรรมสังคม และนวัตกรรมชุมชน
3. การสร้างและพัฒนานวัตกรรม ไปสู่ประเทศฐานนวัตกรรม (Innovation Nation) จะแปลงนวัตกรรมเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและความสุขของประชาชนอย่างยั่งยืน
.
สถาบันอุดมศึกษาถือเป็น “Future Changer” เป็นตัวหลักในการเตรียมพร้อมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 เป็นกลไกขับเคลื่อนการปฏิรูปโครงสร้างสู่เศรษฐกิจที่เน้นคุณค่า และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการปรับเปลี่ยนสู่ประเทศฐานนวัตกรรม ปัจจุบัน ระบบอุดมศึกษามีปัญหาอยู่หลายเรื่องที่จำเป็นต้องแก้ไข เพื่อให้สามารถเป็นหัวจักรขับเคลื่อนประเทศได้จริง ดร.สุวิทย์ฯ ชี้ว่า ได้จัดตั้งคณะทำงานพิเศษขึ้นมา 3 ชุด ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ได้แก่
1. คณะทำงานด้านตำแหน่งวิชาการและความก้าวหน้า มีหน้าที่ศึกษาแนวทางการปรับระเบียบการขอตำแหน่งวิชาการให้ทันสมัย ตอบโจทย์การขับเคลื่อนประเทศ และเป็นสากล รวมถึงศึกษาความก้าวหน้าของนักวิจัยในสถาบันวิจัย เพื่อกระตุ้นให้อาจารย์และนักวิจัยทำงานวิจัยร่วมกัน ทำงานกับภาคเอกชนและชุมชน ท้องถิ่นมากขึ้น โดยจะต้องลดขั้นตอนความยุ่งยากที่ไม่จำเป็นในการขอตำแหน่งวิชาการลง
สิ่งแรกที่จะปลดล็อก เช่น การยกเลิกการแบ่งเปอร์เซ็นต์การมีส่วนร่วมในผลงานวิจัย ซึ่งเป็นแนวคิดที่ล้าสมัย ไม่ส่งเสริมให้อาจารย์ นักวิจัยทำงานร่วมกัน หรือการกำหนดว่าผลงานที่ทำมาก่อนได้ตำแหน่งหนึ่งจะเอามาขอตำแหน่งต่อ ๆ ไปไม่ได้ หรือที่เรียกว่าผลงานมีระยะเวลาเน่าเสีย เป็นต้น โดยในเบื้องต้นจะปลดล็อกข้อจำกัดเหล่านี้ผ่าน ก.พ.อ. ที่กำลังจะตั้งขึ้นเร็ว ๆ นี้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน และหลังจากนั้นคณะทำงานจะวางระบบการขอตำแหน่งวิชาการที่สอดคล้องกับที่กล่าวมาข้างต้น
2. คณะทำงานด้านกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา (มคอ.) มีหน้าที่ศึกษาแนวทางการปรับ มคอ. ให้เน้นผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอุดมศึกษาของประเทศ การประกันคุณภาพหลักสูตรที่เป็นสากลและกระชับ ลดขั้นตอนความยุ่งยากหรือการกรอกข้อมูลที่ไม่จำเป็นอันเป็นภาระของอาจารย์หรือผู้บริหารหลักสูตร
เบื้องต้น ปอว. ได้เสนอแนวทางไว้หลายข้อ เช่น เรื่อง มคอ. 3-6 ซึ่งหากมหาวิทยาลัยไม่จำเป็นต้องทำก็สามารถยกเลิกได้ทันที ส่วนมหาวิทยาลัยแห่งไหนเห็นว่ามีความจำเป็นอยู่ก็ให้ปรับให้กระชับและลดภาระการกรอกสิ่งที่ไม่จำเป็น ไม่ได้เอาไปใช้ประโยชน์ออก คงเฉพาะสาระสำคัญซึ่งเรื่องนี้ก็เคยแจ้งแก่มหาวิทยาลัยไปแล้วแต่จะสื่อสารให้ชัดเจนอีกครั้ง นอกจากนี้เรื่องการรับทราบหลักสูตรที่แต่เดิม สกอ. ใช้เวลานานในการรับทราบก็จะให้กระทรวงฯ ดูเฉพาะความครบถ้วนของหัวข้อต่างๆ ส่วนเนื้อหาก็เป็นความรับผิดชอบของสภามหาวิทยาลัยที่พิจารณามาอย่างถี่ถ้วนแล้ว โดยกำหนดให้ใช้เวลาที่กระทรวงฯ ไม่เกิน 1 สัปดาห์
3. คณะทำงานด้านคุณภาพอุดมศึกษา จะดูภาพใหญ่ของอุดมศึกษาทั้งระบบ มีหน้าที่ศึกษาและเสนอแนวทางการแบ่งกลุ่มประเภทของสถาบันอุดมศึกษาตามจุดเน้น และความเข้มแข็ง ของแต่ละสถาบันที่เคยแจ้งไปแล้ว รวมถึงกลไกการใช้ระบบคุณภาพที่เน้นผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานของสถาบันอุดมศึกษาตามความถนัดของแต่ละสถาบัน เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนประเทศตามแนวทางที่แต่ละมหาวิทยาลัยถนัด ตลอดจนผลักดันมหาวิทยาลัยเข้าสู่ 100 อันดับแรกของโลก เรียกว่า สนับสนุนให้มหาวิทยาลัยทำตามความถนัดของตน
.
ในส่วนของคุณภาพของการปฏิบัติงาน ได้มีการนำระบบ OKR (Objective and Key Results) มาใช้ในการตั้งเป้าใหญ่ ๆ และเน้นที่ผลลัพธ์สำคัญ ๆ ซึ่งในระดับกระทรวงและการสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยได้นำไปใช้แทนการใช้ KPI เดิมที่เน้นการกำหนดตัวชี้วัดแบบ top-down นั้น ได้ดำเนินการไปแล้วส่วนหนึ่ง นอกจากนี้อีกเรื่องที่สำคัญมาก คือ เรื่องของธรรมาภิบาลมหาวิทยาลัยที่มีปัญหาเป็นอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้ ได้มอบหมายให้ผู้ที่รับผิดชอบดำเนินการศึกษา เพื่อหาแนวทางที่จะทำให้ระบบการบริหารมหาวิทยาลัยมีธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง จะทำให้มหาวิทยาลัยสามารถเข้าไปสู่ศตวรรษใหม่และสามารถตอบโจทย์ของประเทศ ตามที่รัฐบาลได้ตั้งความหวังไว้ต่อไป
.
CR. พีอาร์ อว.
..
..
..
เพิ่งได้ฟังการสัมมนาจากอธิการบดีท่านหนึ่งมาพอดี เรื่อง กระทรวง อว. นี่แหละ
กระทรวง อว. เน้นหนักการสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาประเทศ
ซึ่งไม่แน่ใจว่า มากกว่าการพัฒนาความเจริญงอกงามของจิตใจของคนหรือเปล่า?
ทุกอย่างมี "เศรษฐกิจ" เป็นตัวนำทาง "อุดมศึกษา" เดินตาม สนับสนุนให้เกิด "นวัตกรรม"
เรากำลังเดินทางตามรอยระบบทุนนิยมหรือเปล่า?
เราไม่ได้กำลังหลงทางอยู่ใช่ไหม?
การที่มหาวิทยาลัยย้ายสังกัดจากกระทรวงศึกษาธิการเดิมมาที่ อว. นี้
เนื่องจากบริบทและวัฒนธรรมการทำานหลาย ๆ ส่วนไม่ไปด้วยกัน
แต่มาเจอลมหายใจที่มีแต่ "นวัตกรรม" ก็เริ่มไม่แน่ใจว่า
ถ้าออกมาเป็น "ทบวงมหาวิทยาลัย" เหมือนเดิมจะดีอยู่ไหม
มีบริบทเป็นเอกเทศ แต่ยังสนับสนุนนโยบายของรัฐเหมือนเดิม
มหาวิทยาลัยกลายเป็นแค่เครื่องมือในการผลิตนวัตกรรมเท่านั้น
ติดตามกันต่อไป
บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)...
..
ไม่มีความเห็น