โบ๊ะเกี่ยเมืองหาดใหญ่



“พ่อ ไปกินทับทิมกรอบกัน” เจ้าจ้าจะออกปากชวนแบบนี้ราว ๆ ๓ วันต่อสัปดาห์

“พ่อจ๋า ไปกินข้าวเหนียวมะม่วงกัน” ผมอดนึกรักบ้านเกิดเมืองนอนไม่ได้ เพราะบางทีหากเกิดอยากกินอะไรแล้วขับรถออกไปก็ได้กินนี่มันคือสวรรค์

“พ่อๆ ไปกินโบ๊ะเกี่ยกัน” เอาอีกแล้ว
“หือ..ลูกรู้จักอาหารแบบนี้ด้วยหรือ” ผมสงสัยมาก เพราะมันน่าจะเป็นไอเท่มขนมโบราณที่เด็กยุคนี้สมัยนี้ไม่น่าจะชอบกิน (นั่นคือผมสรุปเอาเอง)

ผมนึกถึงพ่อ

ร้านโบ๊ะเกี่ยหน้าตลาดสดบ้านดอนมักจะเป็นที่จอดรถในช่วงค่ำของพ่อเสมอๆ พ่อชอบกินโบ๊ะเกี่ย ไม่ก็น้ำเต้าหู้ถุงละ ๒ บาทที่อยู่ข้างๆกัน

“ขนมอะไรพ่อ เหนียวจะตาย” ผมสงสัยเพราะชื่อขนมมันแปลก มันคือแป้งสีขาวเส้นอ้วนๆคล้ายขนมปลากริม แถมยังเหนียวหนึบ เคี้ยวก็ยาก
“เค้าเรียกว่าโบ๊ะเกี่ย” พ่อยิ้มแก้มบุ๋มตอบผมมา แก้มบุ๋มลักยิ้มหลุมนี้นี่แหละ ที่แม่ผมชอบนักหนา

และแม้ไม่ชอบ ผมก็กิน เพราะขนมหวานอุ่นๆที่พ่อซื้อมาให้กินในถุงนั้นมันมีรสชาติหวานหอม มันคงจะดีกว่าไม่มีอะไรให้กินเล่นในช่วงค่ำๆเป็นไหนๆ แม้จะเคี้ยวยาก ผมก็เคี้ยวมันมาจนโตกระทั่งบินออกจากรังมาอยู่หาดใหญ่เพื่อเรียนหมอ เติบโต ทำงาน และมีครอบครัวอยู่ที่นี่

โบ๊ะเกี่ยหายไปจากชีวิตผมเกือบ ๓๐ ปี กระทั่งเจ้าลูกสาวคนเล็กมันชวนมากินตามเพื่อนๆ พี่ๆ ที่สลับกันโชรูปโบ๊ะเกี่ยในไอจี

“มันอยู่ตรงไหนล่ะลูก” 
“จ้าไม่รู้” เธอตอบ ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะแม้จะรู้ เจ้าคนนี้มันก็ยังบอกทางไม่เป็นและนิยมการหลงทางเป็นยิ่งนัก แต่เอาเหอะ ยุคนี้อยากกินอะไร มันอยู่ตรงไหน หาได้ง่ายจริงๆ

ร้านรถเข็นเล็กๆ อยู่บริเวณหน้ามูลนิธิเซี่ยงตึ๊ง จุดออกรถพยาบาลฉุกเฉินเสียงกวนตีนสลัดจิต มันหาเจอง่ายมาก อันที่จริง ผมขับรถผ่านร้านนี้ทุกคืนเสียด้วยซ้ำ ด้านในเค้ามีโต๊ะให้นั่งกินหลายโต๊ะ น่าเข้าไปนั่งมาก เพราะมีแต่วัยรุ่น 

เชื่อผม ราวร้อยละ ๗๐ ของคนกินในร้านคือหมู่มวลวัยรุ่นจริงๆ ใครที่รักเด็กก็ควรมาลองนั่งกินดู

แล้วเราก็ได้มาลองกินกัน

“พ่อ.....” เสียงน้องจ้าครางออกมา
“ทำไม” ผมงง
“มันอร่อยมาก” แหม่ลูกเอ๋ย ลูกช่างต่างจากพ่อสมัยเด็กๆมากนัก ตอนนั้นพ่อไม่ชอบกินมันสักเท่าไหร่

เอิ่ม..อร่อยครับ
เนื้อแป้งเหนียว แต่ก็ไม่เหนียวจนทำให้เหล็กดัดเมียหลุดจากฟัน 

ผมลองกินบัวลอยงาดำ มันก็อร่อย น้ำขิงหวานไม่มากแถมด้วยเนื้อขิงลอยมาให้ตักไปเคี้ยวหนุบหนับ ผมจินตนาการถึงการตดที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ไปราวอีกชั่วโมงหนึ่งได้เลย

สรุปว่าชอบ มันอร่อย ราคาไม่แพง และผมรู้สึกว่า “แม่ค้าน่ารัก”

เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งคิดไปไกล

แม่ค้าเธอน่ารักเพราะอารมณ์ดี เธอทักทายทุกคนที่เธอรู้จัก และคนรู้จักก็ชอบทักทายเธอ

“ไปแล้วแม่” เด็กนักเรียนม.ปลายกลุ่มนั้นขับมอเตอร์ไซค์ออกจากร้านแล้วสวัสดีเธอ
“ขับรถดีๆนะลูก” นั่น..ผมชอบโมเม้นต์แบบนี้มาก

ตอนแรกก็คิดว่าคงบังเอิญ แต่การทักทายแบบนี้มีหลายหนจนผมต้องถาม
“เจ๊รู้จักทุกคนเลยเหรอ”

“ก็เพื่อนลูกค่ะ เพื่อนลูกๆที่โรงเรียนชอบมากิน” เธอตอบ แล้วก็เล่าเรื่องลูกให้ฟังพลางทำงานของเธอไปด้วย 

ตักบัวลอยใส่ถุง ใส่แป้งโบ๊ะเกี่ยลงหม้อต้ม เดี๋ยวเพิ่มแรงไฟ เดี๋ยวลดแรงไฟ ใข้กระชอนตักเส้นขึ้นมา เกลี่ยใส่ถ้วยบ้าง ถุงบ้าง น้ำขิงใส่ถ้วย ใส่ถุง พัลวัน

ได้มากินโบ๊ะเกี่ยหน้าเซี่ยงตึ๊งเพียงแป๊บเดียว แต่เรื่องราวร้อยพันกลับพรั่งพรู

ธนพันธ์ ชูบุญกินโบ๊ะเกี่ยกัน
๓ กย ๖๒

คำสำคัญ (Tags): #โบ๊ะเกี่ย
หมายเลขบันทึก: 673140เขียนเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2019 16:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2019 16:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท