"หน้ากากผ้า - ใช้หรือไม่ใช้ ?"

“หน้ากากผ้า - ใช้หรือไม่ใช้ ?” 

- การศึกษา RCT (prospective randomised clinical trial) พบว่า

1. The rates of all infection outcomes were highest in the cloth mask group
(อัตราการติดเชื้อทั้งหมด พบสูงที่สุดในกลุ่มที่ใช้หน้ากากผ้า)

2. Influenza-like illness and laboratory-confirmed virus were significantly higher in the cloth masks group.
(พบอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ และผลตรวจ virus จากห้องปฏิบัติการเป็นบวก สูงในกลุ่มที่ใช้หน้ากากผ้า)

3. Penetration of cloth masks by particles was almost 97% and medical masks 44%.
(หน้าการผ้ามีการผ่านทะลุสูงถึง 97% ส่วนหน้ากากทางการแพทย์มีการผ่านทะลุเพียง 44%)

4. Moisture retention, reuse of cloth masks and poor filtration may result in increased risk of infection.
(การกักเก็บความชื้น การใช้หน้ากากผ้าซ้ำ และการกรองที่ไม่ดี อาจส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ)

Ref: Australian New Zealand Clinical Trials Registry: ACTRN12610000887077 (BMJ Open.2015;5(4):e006577)
———————-- 

การศึกษาโดยใช้ optical microscope เพื่อดูประสิทธิภาพในการกรองของหน้ากากผ้า 20 กว่าประเภทต่อ particular matter (PM) พบว่า

1. The pore size of masks ranged from 80 to 500 micron.
(ขนาดของรูผ่านมีตั้งแต่ 80-500 ไมครอนซึ่งใหญ่กว่า PM10)

2. The PM10 filtering efficiency of the selected masks ranged from 63% to 84%.
(ประสิทธิภาพการกรอง PM10 ของหน้ากากผ้าที่ศึกษาอยู่ระหว่าง 63% ถึง 84%)

3. Efficiency dropped by 20% after the 4th washing and drying cycle.
(การซักและอบแห้งประมาณ 4 ครั้งทำให้ประสิทธิภาพการกรองลดลงอีก 20%)

4. Washing and stretching of CM surface also altered the pore size and potentially decreased the filtering efficiency.
(การล้างและการยืดของหน้ากากผ้า ทำให้รูผ่านใหญ่ขึ้น ซึ่งจะไปลดประสิทธิภาพการกรอง)

สรุป : การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า ประสิทธิภาพการกรองของหน้ากากผ้าค่อนข้างต่ำ และการซักและอบแห้ง ยิ่งทำให้ประสิทธิภาพลดลง

Ref: PeerJ.2019;7:e7142.