บันทึกเกียรติประวัติของพ่อบุญส่ง แสงศรี(วันที่พ่อลาลับ...จากลูกไป)


บันทึกเกียรติประวัติของพ่อบุญส่ง แสงศรี


กราบนมัสการ พระราชไพศาลมุนี เจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี พระอธิการวิโรจน์ หิริธัมโม เจ้าอาวาสวัดซอย 10 พระเถรานุเถระทุกรูป กราบเรียนท่านประธานในพิธี และแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ที่มาร่วมแสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปของพ่อ บุญส่ง แสงศรี ในวันนี้


กระผมนายพงศ์เพชร์ แสงศรี บุตรคนกลางในจำนวนพี่น้องทั้งหมด ได้รับความเห็นชอบ ให้เป็นผู้นำเรียนประวัติของพ่อ เพื่อเป็นเกียรติ เป็นอนุสรณ์แก่พ่อครับ


ชุดปกติขาวชุดนี้.... ลูก ๆ ทุกคนของพ่อรู้อยู่เต็มอกครับว่า...มันเป็นสิ่งที่พ่อชอบ ในวันนี้..ดวงจิตของพ่อจะลาลับจากพวกเราไป..สู่สรวงสวรรค์.... ด้วยความทรงจำที่แสนงาม

@ประวัติโดยสังเขป


พ่อเคยพูดกับผมว่า...ตัวพ่อเองนั้นเกิดวันพุธ เมื่อปี พ.ศ. 2472 ที่จังหวัดเพชรบุรี นับเวลาจนถึงวันนี้ พ่ออายุ 91 ปี
พ่อมีพี่น้องทั้งหมด 6 คน ปัจจุบันเสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น

ช่วงชีวิตของพ่อ....พ่อเคยเล่าให้ผมฟังว่า..ตัวพ่อเองนั้นเรียนไม่สูง ตอนเด็ก ๆ อายุ ประมาณ 10 ปี(ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2) พ่อบอกว่าพ่อเป็นเด็กเลี้ยงวัว (เลี้ยงวัวเป็นฝูงเลยนะครับ) พ่อเล่าให้ผมฟังเพียงเท่านี้...แล้วพ่อก็ไม่เล่าต่อ แต่พ่อชอบเล่าเรื่องตอนหนุ่มๆ ให้ผมฟังมากกว่า เพราะช่วงหนุ่ม ๆ นั้น พ่อผ่านอะไรต่อมิอะไรมามาก

พ่อเป็นแม้กระทั่งเด็กขายของบนรถไฟ ขายของอยู่บนรถไฟหลายปี ชีวิตของพ่อก็พลิกผันครับ เนื่องจากมีคนเห็นหน่วยก้านของพ่อ เขาก็พาพ่อไปอยู่กับห้างขายยาแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯสมัยนั้น พ่อจะขับรถเป็นหลัก ชนิดที่เรียกว่า..ถนนแถบพระนครเมื่อสมัย 70 ปีก่อน. พ่อรู้แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตรอกไหน ซอยไหน พ่อเล่าให้ผมฟังเช่นนั้น...


สมัยก่อน ที่บ้านเราอยู่นครปฐม พ่อมีรถจิ๊ป และรถจิ๊ปคันนี้เองครับที่พ่อขับพาพวกเราไปไหนต่อไหน.. ตัวผมเองจำได้แม่นครับ...ภาพถ่ายใบหนึ่งที่ผมเก็บมันเอาไว้ ซึ่งเป็นภาพถ่ายริมทะเล...สมัยที่พวกเราเป็นเด็ก


ภาพถ่ายใบนั้น เป็นภาพที่พ่อนอนราบกับพื้น และพวกเราทั้ง 6 คนนี่แหละครับ!! ที่ขึ้นไปนั่งขย่มอยู่บนตัวพ่อ
ผมได้เห็นรอยยิ้มของพ่อจากภาพถ่ายนั้น ผมได้เห็นความสุขครับ ความสุขที่มัน...ผ่องถ่ายออกมาจาก “หัวใจของคนที่เป็นพ่อ” ....ส่งมอบให้กับพวกเรา .... ให้กับครอบครัวของเรา

ช่วงวัยหนุ่มของพ่อนั้น พ่อมีเวลาอยู่กับพวกเราไม่มากหรอกนะครับ.. เพราะพ่อต้องออกไปหาเงิน ....หาเงินเพื่อส่งเสียให้พวกเรานั้นได้เรียนหนังสือ ...

ชีวิตของพ่อ...พ่อมีมุมแห่งความสุขในแบบฉบับที่พ่อเป็น... ที่มอบให้กับพวกเรา... ให้กับแม่.... ให้กับครอบครัวของเราเสมอ ๆครับ ….. แม้แต่มุมเล็ก ๆ แบบนี้ .....พ่อก็เล่าให้ฟัง

พ่อเล่าว่า.... สมัยก่อน การจะได้ไปสมุยทั้งทีนั้น....มันลำบากเหลือเกินนะครับ...และพ่อยังบอกกับผมอีกว่า... “กว่าจะได้แม่มานั้น...มันก็แสนยาก” เพราะคนสมุยสมัยนั้นเค้าหวงลูกสาวเป็นกำลัง โดยเฉพาะแม่ที่เป็นคนสวย...สวยขนาดนางงามเลยทีเดียว พ่อพูดเช่นนี้กับผม และคนสมุยต่างยอมรับและพูดถึงในความงามของแม่...อย่างที่พ่อพูดไม่มีผิด

กว่าที่พ่อจะได้แม่มา..มันต้องหนีอย่างเดียวนะครับ พ่อเล่าให้ฟังว่า...ในคืนวันนั้น… พ่อบรรจงสอดรูปถ่ายของพ่อให้กับแม่ที่ร่องใต้ถุน.. เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ให้แม่รู้ว่า พ่อนั้นมาแล้ว...แล้วพ่อก็พาแม่หนี..ชนิดที่เรียกว่าตามกันสุดหล้าฟ้าเขียวเลยทีเดียว......

คำว่า “รักแท้” นั้น แม้จะมีอุปสรรคขวางกั้นขนาดไหนก็ตาม..มันก็เป็น....รักแท้...อยู่วันยังค่ำ ชนิดที่เรียกว่า...ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร กันเลยทีเดียว

พ่ออยู่กินกับแม่ สมยา มีเดช มีลูกด้วยกันทั้งหมด 7 คน (เสียชีวิตไป 1 คน) ที่เหลืออยู่ 6 คน ประกอบไปด้วย


ลูกคนแรก นางอินทิรา แสงศรี ข้าราชการครูบำนาญ มีบุตรสาว 1 คน น.ส.สิระลักษณ์ จบการศึกษา...คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

ลูกคนที่ 2 นายอัมรินทร์ แสงศรี สมรสกับ นางพีรธัญญา แสงศรี ปลัดอำเภอหญิง จ.ชุมพร มีบุตร – ธิดา 3 คน
1) นส. ณภัทร ปัจจุบันอยู่บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพมหานคร
2) นส.นารินทร์ จบการศึกษา คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3) นายอภิวิชญ์ กำลังศึกษาคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน

ลูกคนที่ 3 นายพงศ์เพชร์ แสงศรี ข้าราชการบำนาญ สมรสกับ นางอารยา แสงศรี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลมะเร็งสุราษฎร์ธานี มีบุตร-ธิดา 2 คน
1) นายทะเลชล กำลังศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี
2) ดญ.พุฒทอง กำลังศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ห้องเรียนโครงการ 3 ภาษา MLP โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา

ลูกคนที่ 4 นายธรรมศักดิ์ แสงศรี สมรสกับ นางสาวเบ็ญญาพา ประเสริฐเวชมล ทำงานศิลปะ อยู่จังหวัดภูเก็ต

ลูกคนที่ 5 นางสิระสา แสงศรี สมรสกับ นายบันฑูร สายวิไล นักธุรกิจ มีบุตร 1 คน คือ นายกฤตยศ จบการศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ลูกคนที่ 6 น.ส.เบ็ญจมาพร แสงศรี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต สมรสกับ นายสุภาพ ภักดีไทย มีบุตรสาว 1 คน ดญ.สิตานัน กำลังศึกษาอยู่รร.ธิดาแม่พระ

บั้นปลายชีวิตของพ่อ เมื่อพ่ออายุ 89 ปี พ่อป่วยเป็น มะเร็งลำไส้ระยะสุดท้ายแต่พ่อก็มีชีวิตอยู่ให้ลูก ๆ ได้ดูแล...... พ่ออยู่ให้ลูก ๆ ได้สร้างคุณงามความดีกับพ่อ ซึ่งเป็น “พระในบ้าน” อยู่นานถึงเกือบ 2 ปี



ในวันนี้..บุญกุศลที่พ่อทำมาทั้งชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การสร้างพระพุทธรูป การสร้างเจดีย์ การเป็นประธานองค์กฐิน ฯลฯ จะเก็บเบ็ดเสร็จเรียบร้อย เป็นอาภรณ์ห่อหุ้มดวงจิตของพ่อ...เพื่อเดินทางไกลครับ .... เดินทางไปยังสัมปรายภพ


......

ดินจะกลบ... ลบกาย... วายสังขาร
ไฟจะผลาญ.... ชีพให้.... มลายสูญ
แต่ความดี ....ที่พ่อทำ..... ได้ค้ำคูณ
ย่อมเทิดทูน.... แทนซาก..... เมื่อจากไป


.....

หมายเลขบันทึก: 675935เขียนเมื่อ 5 มีนาคม 2020 21:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มีนาคม 2020 23:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท