ทุกสิ่งทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง จึงต้องเตรียมให้พร้อมอยู่เสมอ ชีวิตเรามีขึ้นมีลง เพราะฉะนั้นตอนช่วงชีวิตขาขึ้นก็ไม่ต้องรีบร้อนขึ้นจนเกินไป ขาลงก็ต้องระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นก็ตกบันไดขาหัก

เราต้องยอมรับว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อสมัยเด็กๆ วัยรุ่นก็ยังสาวสวยหนุ่มหล่อ ใครบ้างที่เดี๋ยวนี้ผ่านวัยนั้นมาก็ยังสาวสวยอยู่ เคยหล่อก็ยังหล่ออยู่อย่างนี้ มันเป็นไปไม่ได้ มันต้องเป็นไปตามวัฏจักรชีวิต การเปลี่ยนแปลงมันจะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา นี่แหละเป็นสิ่งที่จัดการยาก ถ้าหากมันนิ่งมันก็จัดการง่าย การเปลี่ยนแปลงเกิดจากทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน ทั้งควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ด้วย สิ่งที่ควบคุมไม่ได้มาจากข้างนอกเสียเยอะ บางครั้งมาจากข้างนอกมาจากที่เราไปก็อปปี้เขาเอง แล้วก็ไม่ได้เตรียมความพร้อมของเรา นั่นแหละทำให้มีปัญหาเยอะแยะในบ้านเมืองเรา ที่มีการเถียงกันอยู่ทุกวันนี้ระหว่างนักวิชาการกับนักปฏิบัติ นักปฏิบัติบอกว่านักวิชาการไม่รู้เรื่อง ไม่เคยลงพื้นที่ว่าประชาชนอยู่อย่างไร นักวิชาการก็บอกว่า พวกนักปฏิบัติไม่รู้เรื่องรู้ทฤษฎีแนวคิดว่าทฤษฎีเขามีไว้ว่าอย่างไร มันก็แล้วแต่ความเชื่อ แต่ความเชื่อของผมต้องเริ่มด้วยการปฏิบัติ แล้วมันจะเกิดแนวคิดและทฤษฎี ทำไมต้องเริ่มด้วยการปฏิบัติ ปฏิบัติแล้วเราจะรู้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้สำเร็จได้อย่างไร จะให้สำเร็จได้จะต้องนำเอาทฤษฎีอะไรมาเสริมต่อ มีการลองผิดลองถูก เรื่องนี้มีการถกเถียงมานาน

Plato (ซ้าย) & Aristotle (ขวา) School of Athens by Raphael Plato : pointing the sky = deductive & idealistic ใช้การอนุมาน และอุดมคติ ส่วน Aristotle: covering the ground = Inductive & pragmatic สรุปจากข้อสังเกต/ข้อเท็จจริง

[แก้ว..อุบล จ๋วงพานิช]

การปฏิบัติทำให้เข้าใจสิ่งที่ทำได้ลึกซึ้ง เมื่อนำไปเทียบเคียงกับทฤษฎี ทำให้งานเราสมบูรณ์แบบมากขึ้นค่ะ