ศาลปะกำ ที่ 1 ( ตระกูลสุขเเสวง ) บ้านศรีจอมพระเก่าเเก่ที่สุดอายุไม่ตำกว่า 500 ปี
ชาวกูยจอมพระประกอบไปด้วยหมู่บ้าน 5 หมู่ ได้เเก่ 1.บ้านจอมพระ 2.บ้านศรีจอมพระ
3.บ้านดงบัง 4. บ้านศรีดงบัง 5.บ้านกระทุ่มเกษตร เป็นกลุ่มชาวกูยช้าง ( กูยอาจีง )
ผู้สืบเชื้อสายมาจากชาวกูยโบราณเขาพระวิหาร ไม่ต่ำกว่า 1,500 ปี เป็นชาวกูยที่อาศัย
อยู่ในเขตเทือกเขาพนมดงรักมานานเเล้ว คำศัพท์ของภาษากูยเเละสำเนียงภาษาพูด
สัมพันธ์กับภาษาขอมโบราณ ตามจารึกที่พบในเขตปราสาทพระวิหารเเละจารึกปราสาท
จังหวัดเสียมเรียบ เเละภาษาเขมรมาตรฐานของประเทศกัมพูชา อพยพครั้งใหญ่
มาจากเมืองเสียบเรียบสมัยเมืองพระนครหลวงเเตก นำช้างข้ามเทือกเขาพนมดงรัก
ตั้งถิ่นฐานอยู่ในเขตจอมพระในปัจจุบัน เมื่อ 500 ปี ที่ผ่านมา ส่วนคำว่า จอมพระ ได้มาจาก
ภาษากูย 2 คำ คือ จอม แปลว่า ตรง เเละ พระ แปลว่า พระพุทธรูป ดังนั้น จอมพระ แปลว่า
ตรงพระพุทธรูป ชาวกูยตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่ด้านทิศตะวันตกตรงกับปราสาทจอมพระที่ตั้ง
อยู่ทางทิศตะวันออก ซึ่งมีพระพุทธรุปประดิษฐ์ฐานอยู่ภายในปราสาทจอมพระ ชาวกูย เรียกหมู่บ้าน
เป็นภาษากูยว่า เสราะจอมพระ แปลว่า บ้านตรงพระพุทธรูป ชาวกูยบ้านจอมพระชำนาญคล้องช้างป่า
( โพนอาจีงกรูง ) จะออกคล้องช้างป่าในเขตประเทศกัมพูชาปัจจุบัน เช่น ป่าในเขต จังหวัดบ้านใต้มีชัย
อุดรมีชัย เสียมเรียบ พระวิหาร สตึงเเตรง รัตนคีรี
ศาลปะกำ เเห่งที่ 2 ( ตระกูลสุขเเสวง ) บ้านศรีจอมพระอายุไม่ตำ่กว่า 500 ปี
ตำเเหน่งคล้องช้างป่า ของชาวกูยกูยจอมพระเรียงจากตำเเหน่งสุงสุดดังต่อไป
1.กำโลงพืด ( ประธานใหญ่ ) ตำเเหน่งคล้องช้างของควาญช้างครูบา ผู้เชี่ยวชาญในการคล้องช้างเเละชำนาญเส้นทางสถาณที่คล้องช้างป่า
ที่ประเทศกัมพูชา เเละพิธีกรรมต่างที่เกี่ยวกับช้าง
2.สดีง ( ซ้าย ) ตำเเหน่ง ระดับรองจาก กำโลงพืด
3.สดำ ( ขวา ) ตำเเหน่ง ระดับรองจาก กำโลงพืด
4.กะมะ ( ผู้ช่วย ) ตำเเหน่ง ระดับรองจาก สดีง สดำ อยู่บนหลังช้างด้านหลัง ยังไม่มีประสบการณ์ในการคล้องช้าง
อุปกรณ์และเครื่องมือคล้องช้างป่า ( โพนอาจีงกรูง ) ของชาวกูยบ้านจอมพระ มีดังต่อไปนี้
1.พรัดปะกำ คือ เชือกปะกำทำมาจากหนังควาย
2.สลก คือบ่วงคล้องช้างป่าเจาะรู 2 รู ส่วมกับตองจาม
3.ตองจาม คือ ด้ามจับสำหรับคล้องช้างป่าส่วนปลายเจาะรู 2 รู ทำมาจากไม้ ส่วมกับสลก
4.สิงโทน คือ ที่เหยียบเพื่อขึ้นบนหลังช้างต่อ ( ทะนะ ) ทำมาจากไม้
5.พุนธง คือ ทำมาจากด้ายถักขึ้นรูปเป็นทรงกระบอกสำหรับใส่หมากพลู
6.สะเยี่ยว คือ เป็นตาข่ายทำมาจากเชือก สำหรับใส่ จาน หม้อหุงงข้าว ทัพพี
7.สนามมุก คือ ลักษณะคล้ายกับตาข่ายทำมาจากเชือก สำหรับใส่มีด โซ่ พริก เกลือ
8.กะลัน คือ ปลอกคอสำหรับคล้องคอช้างป่า ( เจลย )
9.กะตาซอง คือ อุปกรณ์ สำหรับใส่มีด กะลัน ทำมาจากหวาย
10.เเทบ คือ โครงสานด้วยไม้ใช้ใบตระเเบกสานเป็นแผง ใช้สำหรับสำหรับกันแดด กันฝน ขณะอาศัยอยู่ในป่า
11.จะทัว คือ สำหรับใส่ข้าวสาร ทำมาจากหนังวัว
12.งก คือ ลักษณะคล้ายค้อนทำมาจากไม้สำหรับไล่ช้างต่อขณะคล้องช้างป่า
ข้อห้ามเเละข้อปฏิบัติของภรรยาเมื่อสามีคล้องช้างป่ามีดังต่อไปนี้
1.ห้ามไม่ให้ตัดผม
2.ห้ามโยนสิ่งของลงจากบ้าน
3.ห้ามตีลูกหลาน
4.ห้ามพูดคำหยาบ
5.ห้ามไม่ให้คนอื่นมานอนค้างที่บ้าน
6.ห้ามไม่ให้แต่งตัว
7.ห้ามไม่ให้กวาดบ้าน ยกเว้นให้ลูกหลานสามารถกวาดบ้านได้
8.ต้องเเขวนใบสัปปะรดไว้หน้าบ้านทุกครั้งเมื่อสามีออกไปคล้องช้างป่า
มอเฒ่า หรือ พระกำโลงพืด คล้องช้างป่า ( โพนอาจีงกรูง ) ของชาวกูยบ้านจอมพระก่อนและหลังมีดังต่อไปนี้
1.พระกำโลงพืด มอโพนอาจีงกรูง นุตาฉาย สุขแสวง หมู่ 5 บ้านศรีจอมพระ
2.พระกำโลงพืด มอโพนอาจีงกรูง นุตาเฮือน บูรณะ หมู่ 1 บ้านจอมพระ
3. พระกำโลงพืด มอโพนอาจีงกรูง นุตาสุข สุขแสวง หมู่ 6 บ้านเกษตร
ไม่มีความเห็น