26 ตุลาคม 2563 ประมา13.30 น. ถึงเบตง เราเดินทางไปยังที่พัก โมเดิร์นไทย ซึ่งเราพักตลอด 2 คืน ในเบตง ที่พักตั้งอยู่ใจกลางเมืองเบตงใกล้กับหอนาฬิกาเพียงไม่กี่ก้าว ใกล้อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ สตรีทอาร์ทเบตง ที่พักสะดวกสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ในราคาหลักร้อยคืนละ 900 บาท ทั้งหมด 4 ห้อง ใช้โครงการเที่ยวด้วยกันของรัฐจ่าย 60% เหตุผลที่เราเลือกพักที่นี่อยู่ใจกลางเมือง ยังไม่ได้เข้าห้องพัก ไปทานข้าวกลางวันก่อนที่ร้านปิด
ถึงเบตงแล้วค่ะ.. มื้อกลางวัน#ข้าวมันไก่เบตง ร้านเจริญข้าวมันไก่เบตงแท้ เขาบอกเป็นร้านดังของที่นี่ จะขายถึง 14.00 น. เท่านั้น พวกเรามาทันได้กิน <<<มาเบตงต้องกินข้าวมันไก่เบตง>>>
กลับมาถึงที่พักประมาณบ่ายสองโมงกว่า พักผ่อนกันสักครู่อาบน้ำให้สดชื่น บ่ายสามโมงครึ่งจึงเริ่มกิจกรรมท่องเที่ยวในตัวเมืองเบตง ชมวีถีชีวิตของผู้คน อาคารบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่สวยงามกลางหุบเขา ถ่ายภาพสตรีทอาร์ตน่ารักที่สะท้อนเรื่องราวและวิถีชีวิตของความเป็นเบตงได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยแต่งแต้มสีสันให้เมืองเบตงมีบรรยากาศที่สดใสและน่าเที่ยวมากขึ้น โดยภาพวาดมีหลายภาพ แต่ละภาพจะวาดอยู่ตามผนังอาคารบ้านเรือน ในตรอกซอกซอย ให้ได้แวะแชะถ่ายภาพ ครีเอทท่ากันอย่างสนุกสนาน
#เบตงเมืองใต้สุดแดนสยามที่น่ารักและอบอุ่น#เบตง เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดยะลา และเป็นอำเภอเดียวในประเทศไทยที่มีทะเบียนรถ เป็นชื่ออำเภอ"เบตง" ที่เดียวเท่านั้น
#เมืองเบตง ย่านตัวเมืองตึกสีพาสเทล ร้านค้าต่าง ๆผู้คนจับจ่ายหลังเลิกงานดูทุกคนมีความสุข..
ยามมุ้งมิ้ง @เบตงเมืองน่ารักใต้สุดแดนสยาม..บริเวณหอนาฬิกา คือ ที่ตั้งของตู้ไปรษณีย์ยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดโลก ซึ่งสามารถส่งจดหมายได้จริง ตู้ไปรษณีย์มีความพิเศษเพราะมีรูด้านบนกับมีลำโพงเพื่อใช้กระจายเสียงข่าวสารให้กับชาวบ้าน ไปรษณีย์ยังเป็นเครื่องมือสื่อสารสำคัญในอดีตของเบตง เพราะการติดต่อกับภายนอกทำได้อย่างลำบาก จึงต้องพึ่งพาการส่งจดหมายเป็นหลัก
บริเวณสี่แยกไม่ไกลกันคือ หอนาฬิกาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางสี่แยกมองเห็นเด่นมาแต่ไกล หอนาฬิกาเป็นสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ที่อยู่เคียงคู่กับเมืองเบตงมายาวนาน เปรียบเป็นสัญลักษณ์ของเมือง บริเวณหอนาฬิกาจะเรียกว่าเป็นความคึกคักที่บรรดานักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพ และรอบหอนาฬิกามีทั้งที่พัก ร้านอาหาร ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนี้
เดินชมเมืองยามค่ำคืน และวันนี้ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งของรัฐบาลตามที่ร้านค้าแนะนำ ทำตอนนั้นใช้ได้เลย 555 เราจึงได้หมี่เบตงของแท้ติดไม้ติดมือกลับบ้าน ค่าหมี่ที่ซื้อ 280 บาท คลิกเดียวจ่ายเพียง 140 บาท.. Happy!!
มื้อค่ำพวกเราไม่ได้ทานอาหารร่วมกันมีแต่เดินหาของอร่อยนิด ๆ หน่อย ๆ ทานกัน เพราะทุกคนยังอิ่มอยู่ ประมาณสองทุ่มกลับที่พัก รีบนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นสามนาฬิกาไปชมทะเลหมอกที่อัยเยอร์เวงค่ะ ..
ไม่มีความเห็น