911. เรียนการค้นหา Purpose จาก Netflix ตอน “Studio PONOC” และ Modest Heroes”



บทความ โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ Appreciative inquiry Institute

ผมดู Studio PONOC โดยบังเอิญ เพราะเปิด Netflix มามันก็อยู่ตรงหน้าเลย Studio PONOC เป็นสารคดีที่พูดถึง Studio ที่สร้างหนังสั้นที่ได้แรงบันดาลใจจาก Studio Gibli บริษัทนี้เน้นทำแอนนิเมะสั้น ตอนนี้ออกมาสามเรื่องรวมอยู่ในตอนเดียวกันเรื่อง Modest Heroes

ผมเลยตามไปดูทั้งสามเรื่องแล้วรู้สึกเลย เฮ๊ย..นี่มันบรรเจิดพอๆกับการ์ตูนของ Studio Gibli เลยนิ

ผมดูทั้งสัมภาษณ์เจ้าของและตามดูในหนังจริงๆ ที่ฉายทาง Netflix ก็สุดยอดมากครับ แต่ที่ผมรู้สึกโดน ได้ใจมากๆ คือเจ้าของบอกมาตอนท้ายๆ ว่า เหตุผลของการมีอยู่ของ Studio PONOC คือ การดึงศักยภาพของเด็กๆ ออกมาให้ให้เปล่งประกายที่สุด จะเห็นว่า หนังสั้นสามตอนนี้ออกมาภายใต้แนวคิด “การมีชีวิตอยู่ (Live)” ประมาณสอนถึงความหมายของการมีชีวิตอยู่ให้เด็กๆ ผมตามดูเลย ก็ใช่จริงๆครับ

เรื่องแรก พี่น้องมนุษย์ปู “Kanini and Kanino” เป็นเรื่องราวของเด็กๆ ที่พยายามช่วยชีวิตพ่อ ดูแค่ฉากก็สวยงามครับ คุณเหมือนลงไปอยู่ในหนองน้ำจริงๆ วาดน้ำยังไงมันดูอยู่ใต้น้ำจริงๆ เรื่องสอง เป็นเรื่องแม่ที่พยายามปกป้องลูกจากการเป็นภูมิแพ้ไข่ “Life Ain’t Going to Lose” เป็นหนังสั้นที่แม่พยายามทำทุกอย่างดิ้นรนเพื่อช่วยลูก จำได้ว่าจำฉากไม่ได้ แต่ดูแล้วโทรหาแม่ที่บ้านเลย สุดท้ายเป็นเรื่องของมนุษย์ล่องหน “The Invisible Man” ที่ทุกคนมองข้ามไม่เห็นหัว แต่ก็ได้กลับมารู้สึกมีค่าเพราะได้ทำอะไรบางอย่าง เออ นี่รู้เลยว่า ถ้าเราเป็นเด็กหนังเรื่องนี้คงทำให้เราได้เรียนรู้ว่า คนเรามีค่าเสมอ ไม่มีใครไม่มีค่า

ว๊าวววว นี่มันหนังที่ทำให้คนเข้าใจขีวิตนี่ ไม่ใช่เด็กเท่านั้น ผู้ใหญ่ด้วย คิดได้ยังไง

ถามว่าได้อะไรจากเรื่องนี้ ผมนึกถึงหนังสือเรื่อง Meaning Revolution ที่พูดถึงองค์กรที่มีจุดประสงค์ที่ดีงาม หรือปณิธาน (Noble Purpose) คือองค์กรที่พยายามทำให้โลกนี้ดีขึ้น องค์กรแบบนี้นอกจากทำให้โลกดีขึ้น คนที่ทำงานให้องค์กร และผู้เกี่ยวข้องจะเกิดอาการทุ่มเท มีความผูกพันธ์สูงมาก

Purpose ของที่นี่คือการดึงศักยภาพเด็กออกมาให้สูงที่สุด นี่เป็น Purpose ที่ผมไม่ค่อยได้เห็นที่ไหน งดงามมากๆ และนี่คือเหตุผลที่บริษัทนี้ สามารถรวมเอาคนมหัศจรรย์ มาสร้างงานที่แสนวิเศษออกมา

Purpose ของ PONOC ทำให้นึกถึงโรงเรียนลำปลายมาพัฒนา โรงเรียนทางเลือกที่มี Noble Purpose ที่ผมว่าดีที่สุดในโลกโรงเรียนหนึ่ง นั่นคือ (ขอคัดลอกที่ web โรงเรียนมาลงแบบไม่ตัดเลยจะอินกว่า)

“ด้วยกรอบความคิดของการศึกษาที่เอาความรู้เป็นตัวตั้งและ เป็นระบบแพ้คัดออก ทำให้มีเด็กเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่จะสามารถเรียนต่อไปในระดับสูงขึ้นได้ โอกาสแคบลง ในบางกระบวนการยังเป็นการย่ำยีคุณค่าความเป็นมนุษย์ในตัวเด็กโดยการเปรียบเทียบหรือตีค่า การใช้ความกลัวกับความอยากเป็นเครื่องล่อคนไปสู่เป้าหมายยิ่งทำให้เด็ก อ่อนแอในกระแสบริโภคนิยม วัตถุนิยม หรือค่านิยมตามอย่าง เด็กอีกส่วนหนึ่งที่ไม่เก่งด้านวิชาการจึงถูกทิ้งระหว่างทางทั้งที่พวกเธอเหล่านั้นต่างก็มีศักยภาพด้านอื่นๆที่รอการงอกงามมูลนิธิลำปลายมาศพัฒนาซึ่งเป็นมูลนิธิเพื่อการกุศล จึงก่อตั้งโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ที่มีทั้งระดับอนุบาล ประถมศึกษา และ มัธยมศึกษา เพื่อเป็นโรงเรียนตัวอย่างในการจัดการศึกษาที่เอาชีวิตเป็นตัวตั้ง อันจะเป็นที่ที่มนุษย์ได้สร้างการเรียนรู้สำหรับมนุษย์โดยไม่ละทิ้งใครแม้แต่คนเดียว ซึ่งจะมีครู พ่อแม่ และชุมชนร่วมมือกันในการเกื้อหนุนให้เด็กทุกๆคนได้มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จและงอกงามได้ตามศักยภาพตามความถนัดและตามความปรารถนาของตน”

สุดยอดไหมครับ โรงเรียนนี้เป็นต้่นแบบโรงเรียนในไทย มีคนไปดูงานมามาก อาจารย์วิเชียร ผู้ก่อตั้งก็นับเป็นยอดคนท่านหนึ่ง เป็น Hero ของด้านการศึกษาของไทย เป็นการปฏิวัติจริงๆ สำหรับที่ท่านสนใจบริจาคเงินช่วยรร. เข้าไปที่นี่ได้ครับ http://www.lpmp.org/

ใครก็อยากสนับสนุน ใครก็อยากทำงานด้วย ใครก็อยากทำตาม

สุดยอดครับ Studio PONOC รร.ลำปลายมาศพัฒนา

ถ้ามีสักล้านบริษัทโลกเปลี่ยนแน่ ประเทศไทยของแค่พัน..

คุณก็คงอยากให้องค์กรคุณเป็นแบบนี้แล้วทำอย่างไร เริ่มจากหา purpose

คำถามคือแล้วเราจะค้นหา Purpose แบบนี้ได้อย่างไร ลองมาตอบคำถามต่อไปนี้ ที่หนังสือ Meaning Revolution แนะนำไว้

1.เหตุผลการมีอยู่ขององค์กรนี้คืออะไร

2.อะไรคือความแตกต่างที่เรากำลังมอบให้ลูกค้าของเราและโลกใบนี้

3.ทำไมความสำเร็จของเราจึงสำคัญกับทุกคน

4.ทำไมองค์กรของเราจึงทำให้เราอยากทุ่มเทแรงกายแรงใจให้

5. แล้วทุกคนเข้าใจหรือไม่ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ตอบโจทย์จุดประสงค์ที่ดีงามร่วมกันขององค์กรหรือยัง

ผมลองตอบของผมดู

เหตุผลการมีอยู่ขององค์กรนี้คืออะไร

ของผม AppreciativeInquiry Institute

1.เหตุผลของการดำรงอยู่คือเพื่อสร้างวัฒนธรรมแห่ง Appreciative Inquiry (คล้ายๆ Coffee Culure) ให้เกิดขึ้นในทุกองค์กร จะเป็นที่ที่ทุกคนคุ้นเคยกับการใช้ Appreciative Inquiry เป็นภาษาที่สอง

2.อะไรคือความแตกต่างที่เรากำลังมอบให้ลูกค้าของเราและโลกใบนี้ เรากำลังส่งมอบระบบการฝึกคนให้ทำ Appreciative Inquiry ให้เป็น ประมาณถ้าเป็นอุตสาหกรรมกาแฟ เราก็มีระบบสร้าง Baristar ที่ดีที่สุดในโลก

3.ทำไมความสำเร็จของเราจึงสำคัญกับทุกคน ถ้าเรายิ่งสำเร็จ คนในประเทศไทยและโลก จะมีชีวิตที่ดี มีความหวัง เห็นโอกาสจากทุกปัญหา ไม่ใช่เห็นปัญหาในทุกโอกาส

4.ทำไมองค์กรของเราจึงทำให้เราอยากทุ่มเทแรงกายแรงใจให้ ควรมากๆ เพราะย่ิงทำ ประเทศยิ่งขึ้น

5. แล้วทุกคนเข้าใจหรือไม่ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ตอบโจทย์จุดประสงค์ที่ดีงามร่วมกันขององค์กรหรือยัง ดูอินอยู่

ผมตอบแล้วรู้สึกว่าชีวิตมันชัดขึ้นครับ มันเห็นเลยเราทำไปเพื่ออะไร รู้สึกว่าดีกับใจมากๆ ตอนแรกจะงงๆกับคำถาม ค่อยๆ ตอบ มันจะออกมาเอง อาจใช้อุปมาอุปไมยช่วยแบบที่ผมทำ คำตอบที่ได้เราเอามาสร้างวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ต่อ ไปหาแนวร่วมคนมีอุดมการณ์แบบเดียวกันมาร่วมงานกันได้ มันชัดกว่าเดิมมากๆ มีความหมายจริงๆ และนี่คือเหตุผลการดำรงอยู่ขององค์กรของผม

แล้ว Purpose ขององค์กรท่านล่ะ คืออะไร เหตุผลของการดำรงอยู่ขององค์กรของท่านคืออะไร

ชอบกันตอบ ช่วยกันสร้าง ช่วยกันเปลี่ยนโลกครับ

ด้วยรักและปราถนาดี

ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์

Appreciative inquiry Institute

Ref: Kofman, Fred. The Meaning Revolution (p. 128). Crown. Kindle Edition.

หมายเลขบันทึก: 688650เขียนเมื่อ 31 มกราคม 2021 08:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 มกราคม 2021 08:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท