เครื่องบินถึงสนามบินเชียงใหม่น่าจะตรงเวลา แต่เมื่อลงจากเครื่อง ต้องเดินไกลกว่าเมื่อก่อนมาก กว่าจะถึงบริเวณรับกระเป๋าและทางออก แต่ก็ยังน้อยกว่าที่สุวรรณภูมิ เมื่อถึงจุดนี้ก็เข้าห้องน้ำก่อน ตามประสา สว. ซึ่งก็มีผู้คนทำเช่นเดียวกันไม่น้อย ก่อนที่จะออกไปติดต่อเค้าเตอร์ airport taxi ที่อยู่ตรงทางออกนั่นเอง รับบัตรมายืนรอคิวไม่นานก็ได้มีคนมารับบัตรคิว บอกให้ยืนรอตรงนั้น เดี๋ยวจะไปเอารถมารับ เมื่อรถมาประหลาดใจ เพราะเป็นรถตู้ บอกว่ามีแค่ สองคน และไม่มีกระเป๋าสัมภาระ เขาบอกว่า รถตามคิวครับ เลยได้นั่งรถตู้ ๒ คน จากสนามบินเข้า มช.
รถพาออกจากสนามบินเชียงใหม่ผ่านกองบิน เข้า มช. ทางประตูคณะวิศวกรรมศาสตร์ ผ่านหอนาฬิกา ขึ้นไปยังคณะวิทยาศาสตร์ เจอที่กั้นห้ามผ่าน เลี้ยวซ้ายไปตึกชีววิทยาไม่ได้ จึงต้องเลี้ยวขวาไปด้านตึกคณิตศาสตร์ เจออีกหนึ่งไม้กั้น ลุงแพนด้าเลยบอกว่า ให้จอดส่งตรงนี้ แล้วจะเดินไปยังตึกชีววิทยาเอง เพราะเห็นว่าใกล้เวลาเริ่มงานแล้วและคุ้นเคยกับเส้นทางที่ไปตึกชีววิทยาดี
ใช้เวลาเดินไม่กี่นาทีก็ถึงตึกภาควิชาชีววิทยา ที่อยู่ถัดจากตึกคณิตศาสตร์นั่นเอง
ลุงแพนด้า เดินเข้าบริเวณตึกชีววิทยา จากด้านข้าง ด้านซ้ายจะเป็นด้านหน้าตึกที่มีป้ายและฉาก ที่เขาจัดไว้ต้อนรับผู้มางาน จะได้ถ่ายรูปกัน ก่อนเข้างาน ดังภาพ
แต่ลุงแพนด้า ไม่ได้แวะไปด้านนั้น เดินไปด้านขวาที่เป็นห้องจัดงานเลย เพราะใกล้เวลาเริ่มงาน คือ ๙.๓๐ น. แล้ว โชคดีจริงๆ ที่เจอ อาจารย์ ๒ ท่านที่รู้จัก อยู่ตรงนั้นพอดี จึงได้รับการบริการอย่างดีเยี่ยม จากอาจารย์ทั้งสองและเจ้าหน้าที่ตรงจุดรับลงทะเบียน ก่อนเดินไปยังห้อง พาณี เชี่ยววานิช ที่ใช้ในการจัดงาน
จะเห็นว่า เป็นเวลาที่พระสงฆ์ ที่จะมาทำหน้าที่สวดในงานนี้ เดินทางมาถึงพอดี และได้รับทราบว่า ท่าน อ.พาณี ก็เดินทางมาถึงเรียบร้อยแล้ว จึงรีบไปยังห้องจัดงานทันที ซึ่งที่หน้าห้องจัดงานก็ ได้พบกับอดีตหัวหน้าภาควิชาชีววิทยา ๒ ท่าน ที่เป็น มช.รุ่นแรกและรุ่นที่ ๒ อยู่พร้อมเพื่อน มช.รุ่นแรกอีก ๑ ท่าน และ รุ่น มช.๑๐ ที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการประสานการจัดงานครั้งนี้ก็ว่าได้ จึงเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกครับ
แล้วจึงเข้าไปไหว้ และ ทักทาย ท่าน อ.พาณี ที่นั่งอยู่ที่ในห้องจัดงานแล้ว ครับ ซึ่งภายในห้องก็มีผู้ที่เดินทางมาก่อนนั่งอยู่ในห้องกันมากแล้ว แต่จัดให้นั่งห่างกันแบบ new normal และ ทุกท่านสวมหน้ากากอนามัย เนื่องจากอยู่ในช่วงระบาดของ โควิด ๑๙
ไม่มีความเห็น