Health Literacy. หรือความรอบรู้ด้านสุขภาพ คำสวยที่กำลังนิยมในวงการสาธารณสุข เพราะถูกนำมาบรรจุไว้ในแผนแม่บท..จึงมีหลายคนเอาคำนี้ไปเขียนแปะไว้เสมอในการเขียนโครงการ เพื่อให้ได้รับการอนุมัติ ..แต่เมื่อดำเนินการก็ออกมาแนวเดิมๆ ให้ความรู้ แล้วก็จบ…
เดิมก่อนได้มาเรียนรู้จากอาจารย์ขวัญ (รศ.ดร.ขวัญเมือง แก้วดำเกิง) เราก็เข้าใจแบบนั้น ก็แค่โรงเรียนพ่อแม่ที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม…ถามข้อมูลเดิมก่อนสอน…
แต่เมื่อเรียนรู้จริงจัง เลยถึงบางอ้อ! ว่า การจะสร้างให้คนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพ มันคือการสร้างความสามารถและทักษะของคน..ใน 5 ทักษะสำคัญ เพื่อดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง ไม่ถูกหลอกในยุคที่สื่อมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิต
1.ทักษะการเข้าถึง คือ การฝึกคนให้หาข้อมูลเองให้เป็น ทั้งข้อมูลบริการ ทั้งข้อมูลสุขภาพ..และเมื่อหาข้อมูลมาได้ก็ต้องแยกแยะให้เป็นว่าเชื่อถือได้ ทันสมัยไม่ตกเทรน
2.ทักษะการเข้าใจ เป็นการหาวิธีที่จะจำและเข้าใจข้อมูลที่ได้รับมา เช่น อาจ บันทึกเทป อาจจดบันทึก ถ่ายรูป หรือเก็บเบอร์คนที่จะไว้ถามภายหลัง
3.ทักษะการไต่ถาม เป็นทักษะที่คนไทย ไม่ค่อยมี ให้ถามก็ไม่ถาม ..จึงต้องเปิดโอกาส ต้องทำบรรยากาศให้กล้าถาม ไม่อายที่จะถาม ในทักษะนี้จึงต้องให้ผู้รับบริการเตรียมคำถาม หาโอกาสถาม และทบทวนการใช้คำถามว่าคำตอบที่ได้ตรงกับใจที่จะถามหรือไม่ ถามไปแล้วผู้ตอบเข้าใจคำถามเราได้อย่างรวดเร็วหรือไม่ เพื่อพัฒนาการถามในครั้งต่อๆไป
4.ทักษะการตัดสินใจ เมื่อมีปัญหา เรารู้จักปัญหาของเรา แล้วเลือกพิจารณาข้อดี ข้อเสียของทางออกของปัญหาในแต่ละวิธี และสุดท้ายเราเลือกแก้ปัญหาวิธีไหนอย่างมีเหตุผล
5.ทักษะการนำไปใช้ เป็นการกำหนดเป้าหมายในการแก้ปัญหา แล้ววางแผนที่จะทำให้สำเร็จตามเป้าหมาย เมื่อทำได้ชื่นชมตัวเองอย่างไร แต่เมื่อทำไม่ได้ลงโทษตัวเองอย่างไร วางแผนแก้ไขอย่างไร
การสร้างความรอบรู้ให้กับบุคคลจึงยากที่จะปรับเปลี่ยนความเชื่อ และความชินของบุคลากรสาธารณสุข ..ที่ถนัดการให้ข้อมูลและความรู้โดยไม่ค่อยได้เปิดโอกาสให้ผู้รับบริการเรียนรู้พัฒนาการดูแลตัวเองด้วยการมีทักษะที่ดีในการดำเนินชีวิต อันจะเป็นเกราะอย่างดีในการป้องกันการถูกหลอกจากโฆษณาชวนเชื่อที่มีในทุกช่องทาง
ไม่มีความเห็น