นางแอ่นปากพะยูน

มหากาพย์เรื่องยาวยิ่งกว่ามหาภารตยุทธของ "รังนกนางแอ่นแห่งพัทลุง"
     ในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาเขตจังหวัดพัทลุง มีเกาะหินปูนท่ีเกิดมาตั้งแต่ยุคไทรแอสซิกเมื่อ 230 ล้านปีมาแล้ว เรียกกันว่าเกาะสี่เกาะห้าและเกาะบริวารใหญ่น้อยนับสิบเกาะ เป็นที่อยู่อาศัยทำรังของนกนางแอ่นกินรัง เป็นนกใน Order Apodifones วงศ์ Apodldae  สกุล Collocalia มีอยู่ 3 สายพันธุ์ คือนกนางแอ่นกินรัง ชื่อสามัญ Edible-nest Swiftlet นกนางแอ่นกินรังสะโพกขาว ชื่อสามัญ White-rumpet Swiftlet และนกนางแอ่นรังดำ ชื่อสามัญ Black-nest Swiftlet ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์มีการเก็บเกี่ยว (Gathering) รังนกนางแอ่นมาเป็นอาหารบำรุงมาแล้วไม่น้อยกว่า 700 ปี มีหลักฐานว่าชาวจีนเคยเดินทางมาหารังนกในแถบนี้ตั้งแต่ทะเลสาบสงขลายังเป็นทะเลเปิดราวเกือบ 1000 ปีมาแล้ว ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี รัตนโกสินทร์ (พ.ศ. 1762-2482) การเก็บผลประโยชน์จากรังนกนางแก่นเป็นของพระมหากษัตริย์โดย มีขุนนางในท้องถิ่นเป็นผู้ประมูล หรือ ดำเนินการให้ จาก พ.ศ. 2482-2535 เป็นการผูกขาดของบริษัททุนนิยมเชื้อสายจีน จาก พ.ศ. 2535-ปัจจุบัน มีการเปิดให้มีการประมูลกันอย่าเสรีโดยมีจังหวัดเป็นคู่สัญญา เมื่อมีนักธุรกิจการเมืองเข้ามาเล่นการเมืองแทนการสนับสนุนอยู่เบื้องหลังทำให้เกิดการขัดแย้งกันระหว่างนายทุนชาติในท้องถิ่นกับนายทุนนัการเมืองถึงกับฆ่ากันตายมาแล้วมากมาย มาถึงบัดนี้เมื่อสัมปทานหมดอายุลง บรรดานายทุนชาติ นายทุนนักการเมืองหันมาจับมือกันไม่ยอมยื่นซองประมูล ทำให้การประมูลล้มเหลวมา 2-3 ครั้ง ทั้งนี้เพื่อกดดันให้จังหวัดลดราคาการประมูลลงมา จาก 450 ล้านบาท เหลือ 270 ล้านบาท ในการประชุมคณะกรรมการระดับจังหวัดเพื่อลงมติว่าจะลดราคาลงมา 270 ล้านบาทหรือไม่ กรรมการแบ่งความเห็นออกมาเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกเห็นควรให้ลดราคาลงมามา มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานฯประธานและกรรมการส่วนหนึ่งสนับสนุนให้ลดราคา อีกฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วย เมื่อจะมีการโหวตเสียง ประธานฯเชิญกรรมการโดยตำแหน่งคือ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและปลัดจังหวัดออกจากท่ีประชุม ผลการโหวตคะแนนจึง
ออกมาเท่ากัน โดยประธานฯยกมือสนับสนุนข้างฝ่ายให้ลดราคาการประมูลลงมาเหลือ 270 ล้านบาทด้วย มหากาพย์เรื่องนี้จึงยังไม่จบ ใครยืนอยู่ฝ่ายรักษาผลประโยชน์ของนายทุนนักการเมือง นายทุนชาติเพื่อรอรับเงินทอน ใครยืนอยู่ฝ่ายนายทุนนักการเมือง นายทุนชาติเพื่อรับส่วนแบ่งหรือหุ้นลม หรือใครคือผู้รักษาผลประโยชน์ของประชาชนและรัฐ(ไม่แน่ใจว่ายังมีอยู่อีกหรือไม่) ได้โปรดติดตามต่อไป ตาอย่าได้กระพริบเด็ดขาด แล้วเราคนพัทลุงเจ้าของรักนกนางแอ่นตัวจริงจะทำกันพันปรือ?
ภาพประกอบ จากงานวิจัยของ เกษม จันทร์ดำ