Hug House เฮา ฮัก กัน.....
-ปิดท้ายกิจกรรมในวันหยุดนี้อย่างอิ่มเอมใจครับ….สำหรับการได้มีโอกาสต้อนรับบรรดาแก๊งค์เด็กๆ และผู้ปกครองที่ได้เดินทางมาสัมผัสและเรียนรู้วิถีแบบพื้นบ้านบนพื้นที่เล็ก ๆ แห่งนี้ พื้นที่ ที่เราเรียกว่า “Farm School” ถึงแม้ว่าความสนุกและการเรียนรู้จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็น"ความทรงจำดี ดี"ของบ้านไร่ ยังคงกลับมาสัมผัสได้จากตัวหนังสือที่บรรยายเอาไว้บนสมุดออไลน์เล่มนี้ครับ เอาเป็นว่า ใคร? ทำอะไร? ที่ไหน? และอย่างไรบ้างนั้น พร้อมแล้วตามผมไปชมบรรยากาศของ"Weekend"นี้ไปพร้อม ๆ กันได้เลยคร้าบ!!!!
1.เช้าของวันเสาร์ ที่ 17 กันยายน 2565 คือวันที่บ้านไร่ได้มีโอกาสต้อนรับ"แก๊งค์เด็กๆ “จำนวน 2 แก๊งค์ครับ และวันนี้เราก็ได้จัดกิจกรรมให้เด็กๆ กันตามที่ผู้ปกครองได้เลือกกิจกรรมเอาไว้ ภายใต้การเรียนรู้แบบ ”Made in Thailand"คร้าบบบบบ
2.เมื่อได้เวลานัดหมายแล้ว “Team 1”ก็เดินทางมาถึงบ้านไร่ของเราแล้วล่ะครับ และเมื่อมาถึงแล้ว ระหว่างที่เรารอ “Team 2”ซึ่งวันนี้กำลังเดินทางมายังบ้านไร่ของเรา ดังนั้น เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราจึงชวนเด็กๆ เรียนรู้การทำ"พิซซ่าเตาถ่าน"กันก่อนครับ….
3.ทำพิซซ่าเสร็แล้ว ก็ชวนเด็กๆ มาเรียนรู้การทำ"ขนมไทยอะไรเอ่ย"สำหรับวันนี้เราได้เตรียม"ขนมต้ม"เอาไว้ “Team 1”ครับ เมื่อทำขนมเสร็จแล้วก็ได้เวลาลิ้มลอง"พิซซ่า"จากฝีมือตัวเองก่อน อิ่มท้องแล้วก็จะได้เตรียมตัวไปทำกิจกรรมต่อไปครับ และตอนนี้"Team 2"ก็เดินทางมาถึงแล้ว เอาเป็นว่าเราขอตัวไปต้อนรับน้องๆ กันก่อนะคร้าบ!!!!
4.สำหรับน้องๆ “Team 2”เมื่อมาถึงแล้วก็เริ่มเรียนรู้กิจกรรมกันต่อเลยก็แล้วกันนะครับ ทั้งนี้เพื่อจะได้ไปเรียนรู้กิจกรรมอื่นๆ กันต่อ และ"บัวลอยมะพร้าวอ่อน"คือ “ขนมไทยอะไรเอ่ย?”ที่บ้านไร่เตรียมเอาไว้ให้น้องๆ ทีมนี้ครับ ทำขนมไทยเสร็จแล้ว ก็ลิ้มลองพิซซ่าเตาถ่านกันก่อน อิ่มท้องแล้วก็จะได้ออกเดินทางไปยังแปลงนากันแล้วนะครับเด็กๆ
5.นั่งรถอีแต๋น….ดำนา….คือกิจกรรมนอกห้องเรียนที่เด็ก ๆ ให้ความสนใจและได้เรียนรู้วิถีแบบไทยๆ กันอย่างสนุกสนานครับ กิจกรรมแบบ"ครอบครัวสัมพันธ์"แบบนี้ทำให้เราสัมผัสได้ถึง"ความรักความอบอุ่น"ของครอบครัวครับ การส่งต่ออาชีพของคนไทย ยังคงสำคัญที่จะให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ ทั้งนี้ก็เพราะว่าต่อไปเด็กๆ กลุ่มนี้ก็จะก้าวไปเป็นอนาคตของชาติต่อไป ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็ตาม หากแต่เด็กๆ ได้เรียนรู้และสัมผัสถึงรากเหง้าของบรรพบุรุษแล้ว เราก็เชื่อว่าเด็กๆ จะมีความรักและความภาคภูมิใจในความเป็นไทยของเราครับ…..ใช้เวลาในการทำกิจกรรมดำนาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ เราก็ชวนเด็กๆ กลับบ้านไร่เพื่อเล่นน้ำ/ลุยโคลน กันต่อครับ….
6.และ"สไลเดอร์โคลน/เล่นน้ำ"ก็ยังเป็นกิจกรรมที่เด็กๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างดี กิจกรรมกลางแจ้งแบบนี้ ต้องได้รับการดูแลจากผู้ปกครองอย่างใกล้ชิดนะครับ ไม่ว่าจะเป็น"สไลเดอร์โคลน"ที่มีความลื่นและอาจจะได้รับอันตรายได้ ดังนั้นเราก็ต้องดูแลน้องๆ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งการลงเล่นน้ำสระใหญ่ เราก็ต้องให้น้องๆ สวมเสื้อชูชีพทุกคน ก่อนที่จะลงเล่น ทั้งนี้ผู้ปกครองก็ต้องลงไปดูแลเด็กๆ และทำกิจกรรมด้วยนะครับ เพราะความปลอดภัยต้องมาก่อน Safety First นะคร้าบ!!!!!
7.เล่นกันจนเต็มที่แล้ว ต่อไปก็ได้เวลารับประทานอาหารกันแล้วล่ะครับ สำหรับเมนูจะมีอะไรบ้างนั้น คงต้องขอฟ้องด้วยภาพก็แล้วกันนะครับ อิ่มท้องแล้วก็ให้น้องๆ พักผ่อนกันก่อน แล้วในช่วงบ่ายเราก็จะเริ่มกิจกรรมกันต่อนะครับ..
8.และกิจกรรมในช่วงบ่าย เราก็ชวนเด็กๆ ทำ"ไข่เค็มศิลา"และการเรียนรู้"วิชาศิลปะ"ครับ “กระเป๋าผ้ารักษ์โลก”ฝีมือจากน้องๆ กลุ่มนี้สีสันสดใส และสามารถนำไปใช้ได้ด้วย เอาเป็นว่าวันนี้เราก็ขอ"ปิดห้องเรียนสีเขียว"ของวันนี้เอาไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ไว้มีเวลาว่างตรงกันวันไหนก็รวมแก๊งค์กันมาเรียนรู้วิถีแบบไทยๆ กันอีกนะคร้าบ!!!! ยินดีที่ได้พบกันนะครับเด็กๆ Made in Thailand……
9.และเช้าวันอาทิตย์ ที่ 18 กันยายน 2565 บ้านไร่ของเราก็จัดกิจกรรมเอาไว้ต้อนรับน้อง ๆ กันต่อครับ สำหรับวันนี้เราจะมาในธีมงาน “วัยมันส์ Sunday”ว่าแต่จะมันส์สมคำร่ำลือรึเปล่านั้น ตามไปชมบรรยากาศการเรียนรู้พร้อมๆ กันดีกว่าคร้าบ!!!!
10.เช้านี้เด็กๆ เดินทางมาถึงพร้อมกัน ดังนั้นเราจึงเริ่มกิจกรรมกันทันทีครับ เริ่มด้วยกิจกรรม"พิซซ๋าเตาถ่าน"กิจกรรมที่เด็กๆ ได้สัมผัสความตื่นเต้นกับการแต่งหน้าพิซซ่าและการได้สัมผัสกับเตาฟืน ที่เตาแบบนี้ไม่มีให้ได้เห็นง่ายๆ นะครับ และเตาแบบนี้น่าจะมีแห่งเดียวในประเทศไทยด้วยนะครับเด็กๆ 5555
11.กิจกรรมต่อไป เราก็ชวนเด็กๆ เดินตามคันนาเพื่อไปเรียนรู้วิชา"ขนมไทย"กันต่อครับ สำหรับวันนี้เราเตรียม"ขนมต้ม"เอาไว้ให้เด็กๆได้เรียนรู้ครับ ใช้เวลาเรียนรู้ประมาณ 30 นาที เราก็ได้ขนมไทยที่เด็กๆ ได้ช่วยกันทำอย่างสนุกสนานพร้อมๆ กับการเรียนรู้ไปกับผู้ปกครองที่มีส่วนช่วยในการส่งต่อวิถีแบบไทยๆ ไปยังเด็ก ๆ ด้วยกันครับ….
12.เพิ่มพลังกับ"พิซซ่าเตาถ่าน"แล้ว เราก็ชวนเด็กๆ นั่งรถอีแต๋นไปดำนากันต่อครับ วันนี้น้องๆ ได้เรียนรู้และสัมผัสการดำนากันอย่างเต็มที่ เรียนรู้แบบนี้เด็กๆ จะได้สัมผัสโคลนนิ่มๆ น้ำเย็นๆ อาจจะไม่คุ้นชินกับกิจกรรมแบบนี้แต่พอได้สัมผัสแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเด็กกลุ่มไหนก็ลุยได้อย่างเต็มที่เลยล่ะครับ 555
13.ดำนาเสร็จแล้ว ก็พาเด็กๆ กลับบ้านไร่เพื่อไปสัมผัสกับ"สไลเดอร์โคลน"กันต่อครับ สำหรับวันนี้เด็กๆ เล่นสไลเดอร์โคลนเพียงอย่างเดียว ไม่ลงสระใหญ่ เล่นน้ำกันจนเต็มที่แล้ว ท้องก็เริ่มหิวแล้วล่ะครับ เอาเป็นว่าชวนเด็กๆ ไปอาบน้ำแต่งตัวและเตรียมตัวรับประทานอาหารกลางวันกันก่อนครับ…
14.ตามด้วย"น้ำแข็งไส"ที่เด็กๆ ชื่นชอบ อิ่มท้องแล้วก็ไป"ปั้นไข่เค็มศิลา"กันต่อ และนี่ก็คือผลงานชิ้นเอกของเด็กๆ ครับ เอาเป็นว่าอย่างลืมชิม"ไข่เค็มศิลา"ตามวันที่เขียนบอกเอาไว้ด้วยนะครับเด็กๆ
15.และกิจกรรมส่งท้ายของวันหยุดนี้ ก็คือ"กระเป๋าผ้ารักษ์โลก"ครับ กิจกรรมแบบนี้เด็กๆจะได้แต่งแต้มสีสันตามจินตนาการด้วยสีจากธรรมชาติ สีสันจากดอกไม้ถูกแต่งแต้มอย่างสวยงาม เอาเป็นว่าจะถูกใจเด็กๆ หรือเปล่าคงต้องขอฟ้องด้วยภาพก็แล้วกันนะคร้าบ!!!! และก็ขอปิดทริป"วัยมันส์ Sunday"เอาไว้เพียงเท่านี้นะครับเด็กๆ โชคดีที่ได้พบกันนะคร้าบ!!!!
16.ช่วงเวลาของ"ความสุข"มักจะผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วเสมอนะครับ สำหรับวันนี้ก็เช่นเดียวกัน วันที่ได้นั่งเขียนบันทึกเรื่องราวของเด็กๆ ในวันหยุดที่ผ่านมา “มีความสุข"ในทุกครั้งที่ได้เก็บเอาเรื่องราวที่ก่อเกิดขึ้น ณ บ้านไร่ของเรามาบันทึกเอาไว้บนสมุดออนไลน์เล่มนี้ครับ ขอบคุณผู้ปกครองทุกท่านที่ได้พาเด็กๆ มาทำกิจกรรมและเรียนรู้วิถีชีวิตแบบพื้นบ้านบนพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้ด้วยนะครับ และหวังใจเอาไว้ว่าหากมีโอกาสคงได้มีโอกาสต้อนรับการกลับมาของเด็กๆ อีกครั้งหนึ่ง เพราะที่นี่ "บ้านฉันก็บ้านเธอ" Hug House เฮา ฮัก กัน…….
สวัสดีครับ
เพชรน้ำหนึ่ง
19/06/2565
Hi Hug House
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น