ตะลุยสองล้อ ๒๕๖๖ : ขึ้น "ขุนวาง" รอบสอง กับ การพาเป้ THULE เดินทางไกลครั้งแรก


เดินทางอีกรอบสำหรับ “ศูนย์พัฒนาเกษตรหลวงเชียงใหม่ ขุนวาง” โดยใช้เส้นทางจากอำเภอแม่วาง ทางหลวงชนบทหมายเลข ชม.๔๐๑๖ แม่วาง - ดอยอินทนนท์ โดยเดินทางในวันอังคารที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๖ หลังเดินทางรอบแรก ๑๐ วัน ซึ่งการเดินทางรอบนี้ คาดคะเนว่า นางพญาเสือโคร่งน่าจะบานมากกว่าเดิมแล้ว และอาจเป็นโค้งสุดท้ายของการชมในรอบปีนี้

..

..

ออกจากบ้าน ประมาณ ๑๓.๐๐ น. ซึ่งสายกว่ารอบแรก ๑ ชั่วโมง โดยกะเวลาว่า ต้องถึงขุนวางไม่เกิน ๑๖.๐๐ น. หากถึงช้าไปกว่านี้ โอกาสที่เก็บภาพก็จะเหลือเวลาน้อยลง เพราะศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ จะปิดการเข้าชม เวลา ๑๗.๐๐ น. อีกทั้งแสงอาทิตย์ไม่เหมาะสำหรับการบันทึกภาพ

เส้นทางที่เลือกใช้ ตอนแรกตั้งใจจะใช้เส้นขึ้นดอยอินทนนท์จากอำเภอจอมทอง แต่ด้วยเวลาที่สายมากแล้ว ทำให้ยังคงเลือกใช้เส้นทางขึ้นทางอำเภอแม่วางแทน ทางสั้นกว่า ๒๐ กิโลเมตร แต่อันตรายกว่า เนื่องจากถนนแคบ ทางชัน และมีโค้งหักศอกหลายช่วง

ทางหลวงชนบทหมายเลข ชม.๔๐๑๖ นี้ ส่วนใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ของตำบลแม่วิน ของอำเภอแม่วาง

เท่าที่จำได้มีชื่อหมู่บ้านที่ขี่ผ่าน เช่น บ้านหนองเต่า บ้านห้วยเกี๋ยง บ้านแม่สะป๊อก 6 บ้านแม่มูด บ้านห้วยหยวก บ้านสบวิน บ้านห้วยตอง บ้านขุนวาง บ้านใหม่วังผาปูน บ้านโป่งลมแรง บ้านป่ากล้วย เป็นต้น

แต่ละหมู่บ้านก็ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง ดูเจริญบ้าง หรือ ดูเงียบ ๆ บ้าง อย่างที่ผมชอบเขียนบอกว่า เป็นหมู่บ้านในนิทาน ที่มีแต่ความสงบ

แต่พอจำได้ว่า มีวิวนาขั้นบันไดหลายหมู่บ้าน ที่อนาคตต้องมาแวะ โดยเฉพาะปลายฝนต้นหนาว

..

..

ตกลงว่า รอบนี้ใช้เวลาเดินทาง ๑ ชั่วโมง ๕๐ นาที ถึง ๑๕.๕๐ น. โดยรถเครื่องคู่ใจ ไปไหนไปกัน

..

..

ปากทางเข้าทางด้านขวามือ ก็เห็นนางพญาเสือโคร่งบานแล้ว

..

..

แล้วทางเข้า ก็สามารถเห็นแนวต้นนางพญาเสือโคร่งที่บานเป็นแนวยาว

ภาพนี้ต้องตั้งชื่อว่า “ไม่ได้เห็นจากโตรน แต่เห็นจากเดิน”

..

..

แสงอาทิตย์เริ่มเฉียงลงทิศตะวันตกแล้ว ก็ต้องรีบเดิน ทำเวลากันหน่อย กลัวแสงหมดก่อน

..

..

แต่นางพญาเสือโคร่งที่ต้องแสง สีชมพูจัดแล้ว

..

...

ช่วงเดินผ่านอ่างเก็บน้ำเล็ก ๆ มีต้นนางพญาเสือโคร่ง ๒ ต้น ยืนคู่กัน แล้วมีแสงลอดมาระหว่างสองต้นนี้ ปรากฎว่า เมื่อแสงทอดผ่านดอกใด ดอกนั้นก็จะมีสีชมพูจางลง

..

...

เดินไปใกล้ปากทาง “อุโมงค์ซากุระ” จะพบซากุระสีขาว ๑ ต้นใหญ่

..

..

นี่คือ อุโมงค์ซากุระที่แสงยามบ่ายจะคล้อยไปทางนี้ เป็นทางชันที่นักท่องเที่ยวต้องค่อย ๆ เดินขึ้นช้า ๆ เพราะต้องใช้พลังของร่างกายมาพอสมควร แต่แสงเงาที่ตกทอดมายังพื้นถนน สวยงามทุกคราที่มาเยือน ส่วนพระอาทิตย์ก็เหมือนไฟถนนที่เปิดยามค่ำคืนในเมืองใหญ่

..

..

..

มุมนี้ก็จะเป็นมุมเดียวที่ถ่ายได้ทุกปี คือ สีของนางพญาเสือโคร่งเป็นสีชมพูที่สีจะตัดกับพื้นหลังคือใบไม้สีเขียวเสมอ

..

..

แล้วก็จะเดินมาถึงศาลาพักใจที่มีดอกกระหล่ำประดับกับต้นคริสต์มาสประดับอยู่บนพื้นดินหน้าศาลา

จุดนี้จะเป็นจุดสามแยกที่สามารถเดินตรงไปต่อ หรือเลี้ยวซ้ายเพื่อเดินไปอีกเส้นทาง และเป็นทางย้อนกลับทางเข้าป่า

..

..

เลี้ยวซ้ายมาก็จะเห็นภาพนี้ อาคารเล็ก ๆ สีแดงนั้น คือ ห้องน้ำกลางทางที่พอจะทำธุระเบาได้ แต่ธุระหนักต้องคิดหนัก เพราะขาดการดูแลอย่างจริงจัง ไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่นัก

..

..

นางพญาเสือโคร่งก็ยังคงบานไปตลอดทาง

..

..

ทางเริ่มใกล้ถึงแยกทางออกเข้าป่า วิวก็ยังคงสวยงามอยู่

..

..

ภาพนี้ถ่ายจากด้านหน้าศาลาพักใจ ซูมเข้าไปถึงทางที่เดินผ่านมา มีข้าวบาร์เลย์ปลูกข้างอุโมงค์ซากุระ เห็นซากุระสีขาวต้นนั้น เห็นคนเดินกลับทางเดิม เห็นฉากหลังเป็นภูเขายามพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำ

เหมือนภาพวาดที่สุด

..

..

ภาพนี้ คือ มุมที่มองย้อนกลับไปในอุโมงค์ซากุระที่เดินผ่านมา คนเริ่มเดินกลับกันแล้ว ก็นี่เวลา ๑๗.๐๐ น. แล้ว

..

..

ผมเดินเอ้อระเหยได้ไม่นาน ก็กลับมาถึงที่จอดรถของ อบต.แม่วิน

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พาเป้ยี่ห้อ THULE (อ่านว่า ธูเล่) ของสวีเดน เดินทางไกลเป็นครั้งแรก เป็นเป้ที่ติดหลังตลอดเวลา ไปไหนไปด้วย ส่วนใบอื่นติดไว้หน้ารถ เอาไว้ใส่ของต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง

การเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ก็แบบนี้ ทุกอย่างต้องพร้อมที่สุด ไม่เหมือนรถใหญ่ที่มีที่เก็บของมากมาย ต้องเลือกกระเป๋าติดรถให้ดี เรียกว่า Save ตัวเองให้ได้มากที่สุด เผื่อเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ เอาไว้ก่อน 

ไปล่ะ คงต้องรีบลงดอยก่อนพระอาทิตย์ตก เริ่มออกเดินทางกลับเวลา ๑๗.๓๐ น. ลงย้อนกลับไปทางอำเภอแม่วาง

..

Trick การขี่รถเส้นทางคับแคบ ชัน และหักศอก คือ ห้ามตามรถช้า ที่ไม่ชินเส้นทาง เพราะรถจะผิดจังหวะ เจอทางขึ้นต้องเร่ง ถ้าไปเจอรถช้า รถมันจะไหลลง แรงหมดก่อน ถ้าแซงได้ต้องแซง ถ้าแซงไม่ได้ให้หาเรื่องหยุดพักก่อน แล้วค่อยทำจังหวะรถใหม่

รถเครื่องจะคล่องตัว ต้องไม่ขี่ข้ามเลน แม้จะเข้าทางโค้งหักศอกก็ตาม บิดเร่งให้ได้จังหวะ อย่าให้รถแรงตกเป็นเด็ดขาด

..

..

ในที่สุด ก็ลงมาถึงจุดชมวิว “กิ่วแลป่าเป้า” ถึงจุดนี้ต้องแวะเสมอ แสงสุดท้ายพอดี ดูเวลา ตอนนี้ คือ ๑๙.๑๕ น.

นั่นหมายความว่า อีกไม่ถึง ๑๐ กิโลเมตรก็จะถึงปากทางอำเภอแม่วาง ตรงตำบลบ้านกาดแล้ว

..

แวะซื้อของที่ตลาดบ้านกาด อีกประมาณ ๑๘ กิโลเมตรก็ถึงบ้านล่ะ สิ้นสุดการเดินทางไปดูนางพญาเสือโคร่งบาน ณ ขุนวางในปีนี้ ปีหน้าเจอกันใหม่

การจะเดินทางไปแบบนี้ต้องมุ่งมั่นและตั้งใจมากพอสมควร

ใจไม่สู้ คงไปไม่ถึง

บุญรักษา ทุกท่าน ;)…

..

..

หมายเลขบันทึก: 711468เขียนเมื่อ 31 มกราคม 2023 00:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 มกราคม 2023 02:41 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท