จำเดิม แต่เมื่อปี 2562 หากจำไม่ผิด.... ครูนุ่นแห่งโรงเรียนวัดเขมา ฯ รุ่นน้องจากรั้ว มข. แนะนำให้รู้จักกับนักเรียนที่สอบเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ แถมแนะนำให้มาพักอาศัยที่หอพักชายที่ 12 ที่ผมดูแลอยู่ ด้วยความที่ครูนุ่นคงเกรงว่าลูกศิษย์จะลำบากในการมาใช้ชีวิตที่อีสาน จึงได้แนะนำให้รู้จักกับคุณกันย์ มังกร (กมก.) นักศึกษาใหม่คณะนิติศาสตร์
จำยาว ย้อนกลับไป เมื่อปีการศึกษา 2562 มีภาพจำผุดขึ้นมาว่า แอบชวนแกมบังคับให้คุณกันย์ เป็นผู้จุดเทียนชนวนส่งให้ประธานในพิธีที่ศูนย์ประชุม ฯ มข. ในงานปฐมนิเทศและบายศรีสู่ขวัญนักศึกษาใหม่ ปีการศึกษานั้น ด้วยเห็นว่าเคยเป็นประธานนักเรียน จึงน่าจะไม่เคอะเขินกับงานพิธี อีกอย่างก็อยากจะให้นักศึกษาเป็นผู้ดำเนินการมากกว่าจะทำเอง จึงตั้งใจจะตามหารูปภาพนั้น จึงเข้าไปในกล่องข้อความเฟสบุ๊ค ภาพจำต่าง ๆ ที่เคยเดินทางและท่องโลกกว้างกับ กมก. ก็กลับมาทรงจำอีกครั้ง ถึงกับร้อง เฮ้ย!!!! นี่เราไปไหนมาไหนด้วยกันเยอะขนาดนี้เลยเหรอวะ??????
จำสั้น ย้อนไปเมื่อปีการศึกษา 2564 (23 มกรา 65) กมก. ในฐานะประธานฝ่ายคุณธรรมจริยธรรม องค์การนักศึกษา มข. แล้วจัดเสวนาออนไลน์ในหัวข้อ ความก้าวหน้าของสังคมยุคใหม่ ศาสนายังจำเป็นหรือไม่ต่อผู้คน แล้วเชิญวิทยากรทั้งภายในและภายนอกร่วมเวที แต่ก่อนวันจัดงานก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่ มีหนังสือร้องเรียนถึงอธิการบดีจากบุคคลภายนอกให้ยุติกิจกรรมนี้ เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการทำลายล้างศาสนา แต่คนใน มข. ก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ก็มาฟังก่อน ค่อยตัดสินว่าจะล้มล้างจริงหรือเปล่า?” การจัดเวทีเสวนาก็ลุล่วงตามวัตถุประสงค์ และเกิดผลดีมากกว่าผลร้าย ในบันทึก https://www.gotoknow.org/posts/697874
จำได้ว่า เราเดินทางท่องเที่ยวไปด้วยกัน(ย์) หลายจังหวัดในหลายภารกิจ เพราะเวลาขับรถไกล ๆ จะได้ไม่เหงาปาก จะได้มีคนติดรถคุยไประหว่างทาง แต่เหตุผลหลักคือ ไม่อยากให้เสียโอกาส อยากให้คนต่างถิ่นได้เดินทางไปเรียนรู้สภาพภูมิสังคมไปด้วย จึงมักจะชวนนักศึกษาติดรถไปเรียนรู้ด้วยอยู่บ่อยครั้ง กมก. จึงถูกเรียกตัวขึ้นรถบ่อยเป็นพิเศษ แม้แต่ทริปไป #เที่ยววิถีสีชมพู รุ่นบุกเบิกการจะเป็นพื้นที่เพื่อจัดการท่องเที่ยวในชุมชนโดยคนหนุ่มสาวในท้องที่ กมก. ก็ไปสนุกด้วย
จำได้บ้างไม่ได้บ้าง ว่าไปไหนด้วยกัน(ย์)บ้าง จนเปิดดูรูปถ่ายมากมายหลายทริป แล้วก็ค่อย ๆ ห่างกัน(ย์)ไปตามวิถีและภารกิจ กับทั้ง กมก. เอง ก็มอบรุ่นน้องมาแทนที่ จึงได้เป็นเวลาเปลี่ยนเพื่อนร่วมทาง และ กมก. เองก็เรียนหนักในช่วงปี 3-4 จึงไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน(ย์) ทำได้เพียงเมียงมองตามโอกาส
จำเป็น ที่จะต้องทำใจว่าเมื่อเวลาเคลื่อนคล้อย เวลาจากลาก็มาถึงตามวิถี กมก. ก็เรียนจบครบหน่วยกิตของการเรียนตามหลักสูตร แต่การเรียนรู้แห่งชีวิตคงไม่มีวันครบหน่วยกิตจนกว่าจะลาโลกนี้ไป จึงได้แต่หวังใจว่าในอนาคตคงได้มีโอกาสพบกัน(ย์)บ้าง คงจะได้ทราบข่าวการเรียนรู้และเติบโตตามวิถี ตามประสงค์แห่งตน ขอให้สนุกกับการไปเผชิญโลกกว้าง(ทางความคิด) ประสบการณ์ที่ได้จากที่นี่คงเป็นเพียงส่วนน้อยในชีวิต เพราะ กมก. เป็นผู้มีกัลยาณมิตรมากหน้าหลายสาขาอาชีพ และเป็นผู้มักคุ้นกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญในวิชาชีพกฎหมายเป็นทุนเดิม การสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงเป็นเพียงใบเบิกทางใบเล็ก ๆ เท่านั้นที่ปะติดปะต่อเรื่องราวของกันย์ มังกร เพื่อสร้างตำนานชีวิตของ ภูมิทัศ กลิ่นศรีสุข แห่งเขมา ฯ ท่าน้ำนนท์
บันทึกไว้ในวันระอุ 41 องศาสเซลเซียส ณ มอดินแดง
ไม่มีความเห็น