10 เทคนิคในการเรียนปริญญาเอกของพ่อกับแม่ นำมาปรับใช้เพื่อการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย


ลูกครับ แม่จะเล่าประสบการณ์ตอนเรียนปริญญาเอกที่อเมริกาเมื่อประมาณ 25 ปีก่อนให้ลูกได้รู้ไว้ เพื่อลูกจะได้นำไปปรับใช้ในการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยในอีกสามปีข้างหน้า (ซึ่งเขาจะเรียกลูกว่า เด็กรุ่น #TCAS69 หรือ #Dek69)

สมัยนั้นในฐานะผู้เรียน แม่ต้องมีวินัยในขณะที่อ่านหนังสือเพื่อสอบและเพื่อทำงานวิจัย เหนื่อยล้าท้อถอยบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่อย่างไรก็ตาม แม่ก็รู้ดีว่าระเบียบวินัยเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการประสบความสำเร็จด้านการเรียนอย่างแน่นอน 

ในบันทึกนี้ แม่อยากจะแบ่งปันเทคนิคที่ช่วยให้แม่มีสมาธิ มีแรงจูงใจ และมีวินัยในระหว่างการเรียนปริญญาเอกของแม่ ถ้าลูกได้นำเอาการนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ แม่เชื่อว่าลูกเองก็สามารถทำข้อสอบได้ดีและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้เช่นกัน

การตั้งเป้าหมาย

ลูกครับ ก่อนที่แม่จะเริ่มเรียน แม่ต้องกำหนดเป้าหมายการเตรียมตัวของแม่โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็นหัวข้อที่เล็กลงและสามารถจัดการได้ วิธีการนี้ช่วยให้แม่เข้าใจสิ่งที่ต้องครอบคลุมและทำให้แม่รู้สึกถึงความสำเร็จเมื่อแม่ทำการอ่านแต่ละหัวข้อจนเสร็จ สำหรับการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยของลูกก็ต้องเอาแต่ละวิชามีคลี่ออกว่ามีหัวข้ออะไร แล้วกำหนดเป็นเป้าหมายย่อยๆ

การสร้างตารางเวลา

แม่จัดสรรช่วงเวลาเฉพาะสำหรับการเรียนในแต่ละวันและยึดตามตารางเวลาให้ใกล้เคียงที่สุดนะ ในตารางเวลาของแม่ต้องมีช่วงพักและกิจกรรมยามว่างเพื่อหลีกเลี่ยงความเหนื่อยล้า กิจกรรมที่แม่ชอบทำยามว่างตอนที่เรียนอยู่ที่อเมริกาก็คือการออกกำลังกายในยิมและปั่นจักรยาน ส่วนกิจกรรมประจำเพื่อการผ่อนคลายก็คือ ดูทีวี แม่ก็จะใส่เข้าไปในตารางเวลาด้วยนะ สำหรับการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยของลูกก็ต้องยึดเอาหัวข้อของแต่ละวิชาที่ต้องสอบมาลงในตารางเรียน

การหาที่เรียน

แม่ต้องหาพื้นที่ที่เงียบสงบ สะดวกสบาย และมีแสงสว่างเพียงพอ ที่แม่สามารถมีสมาธิกับการเรียนได้โดยไม่มีสิ่งรบกวน นอกจากที่บ้านแล้วแม่ก็จะไปอ่านหนังสือในห้องสมุดและห้องแล็บของอาจารย์ ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยที่แม่เรียนจะมีห้อง reading room เล็กๆ หลายห้อง เพื่อให้ได้อ่านหนังสืออย่างมีสมาธิจริงๆ ไม่มีใครเดินไปมา แต่ห้องแบบนี้ก็มักจะโดนจับจองกันตั้งแต่เช้า โดยเฉพาะนักศึกษาจีน และนักศึกษาอินเดีย สำหรับ ม.ปลาย ของลูก การที่ลูกได้อยู่บ้านจนจบ ม.6 จะทำให้พ่อกับแม่เป็นทีมสนับสนุนให้ลูกเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้อย่างเต็มที่

ใช้เทคนิค active learning

แม่ใช้กลยุทธ์การเรียนรู้แบบ Active learning นะลูก เช่น เมื่ออ่านจบแม่จะทำการสรุปข้อมูลความรู้ด้วยคำพูดของแม่เอง หรือการสอนเนื้อหาให้ผู้อื่น วิธีการเหล่านี้ช่วยให้แม่เก็บเกี่ยวความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าแค่การอ่านซ้ำไปมา สมัยนั้นอาจารย์ที่ปรึกษามักจะให้แม่เป็นคนสอนวิชาสถิติและซอฟต์แวร์ในการประมวลค่าสถิติให้เพื่อนๆ ในชั้นเรียนปริญญาเอก ก็ภูมิใจอยู่นะ

รับผิดชอบ

แม่จะมีอาจารย์ที่ปรึกษาที่ช่วยให้แม่ให้มีความรับผิดชอบ ด้วยการนัดพบเพื่อพูดคุยความก้าวหน้าในการทำ Dissertation ประจำทุกอาทิตย์ ทำให้แม่มีสร้างแรงจูงใจและความรับผิดชอบในระหว่างเส้นทางการศึกษาของแม่

ฝึกวินัยในตนเอง

แม่เตือนตัวเองอยู่เสมอถึงความสำคัญของการจบปริญญาเอกและประโยชน์ระยะยาวของการมีวินัย เมื่อแม่รู้สึกอยากผัดวันประกันพรุ่งเพราะความน่าเบื่อของการทำ Dissertation ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการค้นคว้าและเขียนออกมาเป็นระยะเวลายาวนาน แม่ใช้เวลาสักครู่มองย้อนกลับไปที่ตารางเวลาและเป้าหมายอีกครั้งและเตือนตัวเองถึงความก้าวหน้าที่แม่ได้ทำจนถึงตอนนี้ เมื่อไรลูกรู้สึกเหนื่อยก็หยุดพักก่อนแล้วมาทำกิจกรรมอื่นๆ หรือพูดคุยกับพ่อแม่ก่อนได้เสมอ

คิดเชิงบวก

แม่ต้องพยายามคิดเชิงบวกและเชื่อมั่นในความสามารถของแม่ที่จะประสบความสำเร็จ มันยากนะ แต่แม่ก็พยายามจะบอกกับตัวเองในเชิงบวกเพื่อเพิ่มความมั่นใจและจินตนาการว่าตัวเองกำลังบรรลุเป้าหมายเสมอ สำหรับการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยของลูกไม่ว่าจะเป็นคณะอะไร มหาวิทยาลัยไหน ลูกเลือกด้วยตัวลูกเองในสิ่งที่ลูกอยากเป็น พยายามหาตนเองให้เจอ  คิดบวก ตั้งเป้าหมาย และวางแผนก่อนเสมอ

ให้รางวัลตัวเอง

แม่มักจะให้รางวัลกับตัวเองบ้างเมื่อทำงานที่ท้าทายสำเร็จหรือบรรลุเป้าหมายการเรียน เช่น ไปช้อปปิ้งตาม ​Malls ดูทีวี หรือออกไปเที่ยวตาม Landmarks สวยๆ 

คำนึงถึงสุขภาพ

สิ่งที่สำคัญมากๆ ในการต่อสู้อย่างระยะยาวเพื่อปริญญาเอกของแม่ คือ แม่ต้องดูแลสุขภาพทางร่างกายและจิตใจด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำ ร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงช่วยให้แม่มีสมาธิและมีพลังระหว่างการเรียน ส่วนการป่วยจะทำให้แม่ถอยหลังไปอีกหลายก้าวทีเดียว

การจัดการความเครียด

แน่นอนว่าการเรียนปริญญาเอกเป็นงานที่หนักและเครียดมาก แม่ฝึกเทคนิคการลดความเครียด เช่น การกำหนดลมหายใจเข้าออกลึกๆ การทำสมาธิ สวดมนต์ หรือฟังเพลงบรรเลง Relaxation เพื่อช่วยให้แม่สงบสติอารมณ์และมีสมาธิระหว่างการเรียน

บทสรุป

ลูกครับ การมีวินัยในช่วงวัยเรียนเป็นทักษะที่ต้องใช้เวลาและการฝึกฝนเพื่อพัฒนา จำไว้ว่า จงอดทน ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน การเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยก็เหมือนการวิ่งมาราธอน และต้อง Work smart ไม่ใช่ Work hard มีกลยุทธ์ แล้วลูกจะสามารถประสบความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายของลูกได้อย่างแน่นอน 

 

 

หมายเลขบันทึก: 712324เขียนเมื่อ 14 เมษายน 2023 15:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 เมษายน 2023 21:59 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ยอดเยี่ยมค่ะ อ จัน หากลูกหรือคนอื่นๆทำได้ ชีวิตจะมีคุณภาพ ไม่เครียดจนเกินไปนะคะ

เห็นบางคนเรียนไม่จบ ป เอก กลับมาป่วยหลายคน บางคนเรียนจบ ก็ป่วย อาจเป็นเพราะปรับตัวไม่ได้นะคะ

ขอขอบคุณที่ได้แชร์ประสบการณ์ให้อ่านและเรียนรู้ มีประโยชน์มากเลยค่ะ สมดุลของขีวิตและความมีวินัยในตนเองที่ขออนุญาตถ่ายทอดให้ลูกสาวได้อ่าน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท